4 ส.ค. 2022 เวลา 06:34 • ธุรกิจ
Starbucks วางแผนใช้ Rewards Program แพลตฟอร์มใหม่แบบ Web3
เตรียมแถลงทางการต่อนักลงทุนในเดือนกันยายนนี้
เครดิตภาพปก: พื้นหลัง – Starbucks Rewards VISA Credit Card (ที่มา: https://www.jasminejones.design/starbucks-rewards) ในวงกลม – Rewards Program, Web3 (เครดิต: Getty Images)
Starbucks เชนร้านกาแฟชื่อดังของอเมริกากำลังวางแผนเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงแพลตฟอร์มระบบการสะสมคะแนนและรางวัลของลูกค้าหรือที่เรียกว่า Starbucks Rewards Program ซึ่งเป็นโปรแกรม Customer Loyalty ที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จทั่วโลก โดยจะมีการประกาศเรื่องนี้ในการประชุมกับนักลงทุนในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้
Howard Schultz เครดิตภาพ: Stephen Brashear/Getty Images
Howard Schultz หรือ CEO คนปัจจุบันและเป็นผู้ก่อตั้ง Starbucks ยังไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องนี้มากนัก ให้รอติดตามในวันประชุมกับนักลงทุน วันที่ 13 กันยายน เปิดเผยแต่เพียงสั้นๆว่า Starbucks จะมีการเปิดตัวเข้าสู่ “ยุคดิจิตอลใหม่ที่น่าตื่นเต้น” และกล่าวว่า
  • “การริเริ่มใช้ระบบใหม่แบบ Web3” จะนำพาให้ Starbucks สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ใกล้ชิดและได้ข้อมูลในเชิงลึกมากขึ้น แลขยายการก่อตัวเป็น “ชุมชน 3rd Place (สถานที่ลำดับ 3) บนโลกดิจิตอล”
  • ส่วนของการเปลี่ยนแปลงนี้จะรวมถึงระบบการแลกรางวัลด้วยดาวรูปแบบใหม่ ที่จะดึงดูดลูกค้าใหม่ให้มาใช้งานและบริการของร้าน รวมถึงในการรักษาลูกค้าในระบบเดิมให้กลับมาใช้งานอีกครั้ง
  • การสร้างประสบการณ์แบบไม่ซ้ำใคร และไม่เคยมีที่ไหนมาก่อนด้วย Digital Collectibles ที่แบรนด์ดิ้งโดย Starbucks โดยเฉพาะ
  • ขยายความเกี่ยวกับ Digital Collectibles branded by Starbucks
หลักการก็อยู่บนเทคโนโลยี Blockchain (เหมือนกับ Cryptocurrency) โดยการนำเสนอคอลเลคชันเฉพาะของแบรนด์ โดยแปลงให้เป็นในรูปแบบ NFT (Non-Fungible Token) หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความเฉพาะตัวเพียงอันเดียว และทำการแลกเปลี่ยนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
เครดิตภาพ: Pixabay
  • Starbucks ถือว่ามีระบบแลกรางวัลสำหรับสมาชิกที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก บริษัทหนึ่งในธุรกิจด้าน F&B โดย Rewards Program มีจำนวนสมาชิกที่สมัครใช้งานรวมกว่า 27.4 ล้านบัญชีผู้ใช้งาน ข้อมูลล่าสุด ณ สิ้นไตรมาส 2 ของปี 2022 มีอัตราเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ +13%
  • โดยกลุ่มลูกค้าเฉพาะจาก Rewards Program สร้างยอดขายได้เกินครึ่งของยอดขายรวมทั่วโลกเมื่อไตรมาสที่แล้ว
กลุ่มลูกค้าสมาชิกที่ถือ Rewards Program มีแนวโน้มที่รู้สึกอ่อนไหวและตรงต่อการเปลี่ยนแปลงซึ่งเด่นชัดของโปรแกรมนี้ ยกตัวอย่างเช่นในกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 2019 ซึ่ง Starbucks เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการได้และจำนวนดาวที่ใช้แลกเครื่องดื่มและขนมฟรี ทำให้มีลูกค้าจำนวนมากที่เป็นสมาชิกเข้าไปถกเถียงประเด็นนี้บนสังคมโซเชียล และเชื่อว่าครั้งนี้คงเกิดขึ้นอีกเช่นกัน
  • ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Web3
ที่มาภาพ: https://economictimes.indiatimes.com/tech
Howard Schultz ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก แต่เขาได้พูดถึงคำหนึ่งว่า “Web3” เรามาทำเข้าใจเกี่ยวกับคำนี้กันครับ
  • ก่อนมาเป็น Web3 (หรือ Web3.0) เรามี Web1.0 และ Web2.0 มาก่อนตามลำดับ โดยในปี 1989 Tim Berners-Lee เป็นผู้คิดค้น World Wide Web (WWW) ตอนนั้นยังไม่เรียก Web1.0 (ต่อมาเรียกเมื่อมี Web2.0) และเป็นจุดเริ่มต้นที่นำพาผู้คนเข้าสู่โลกออนไลน์
  • ต่อมาปี 1999 เริ่มเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุค Web2.0 ซึ่งเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานอินเทอร์เน็ตไปในหลายด้านและขยายตัวมากขึ้น ผู้คนสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์บนโลกเสมือนจริงได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม โต้ตอบกันได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งยุคนี้ทำให้บรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี (Big Tech) เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมาก คือ Google Facebook Amazon และ Apple ซึ่งข้อมูลและเนื้อหาจะถูกรวมศูนย์ไว้กับ Big Tech เหล่านี้
  • ปี 2014 Gavin Wood (ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum สกุลเงินดิจิทัลหนึ่ง) มีแนวคิดที่จะพัฒนาและสร้างอินเทอร์เน็ตแห่งอนาคต ที่เป็นแบบกระจายศูนย์ (Decentralized) โดยไม่มีเหล่า Big Tech เข้ามาเกี่ยวข้องในภาพเหมือนในยุค Web2.0 เนื่องด้วยความกังวลในเรื่องความเป็นอิสระในการเข้าถือเป็นเจ้าของข้อมูล (ยุค Web2.0 ต้องผ่าน Big Tech)
  • Web3 มีการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาร่วมเพื่อต้องการทำให้โลกอินเทอร์เน็ตเป็นประชาธิปไตย มีเสรีภาพ และการกระจายอำนาจ ไม่มีเซิร์ฟเวอร์ ผู้ใช้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของและควบคุมข้อมูลบนโลกออนไลน์โดยไม่ต้องผ่านบิ๊กเทค
  • ปัจจุบัน Web3 ยังไม่มีเกิดขึ้นจริง ยังต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างเพื่อให้รองรับการเชื่อมต่อที่มีการรับส่งข้อมูลจำนวนมาก แต่ปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีบางอย่างที่มีความใกล้เคียงกับ Web3 คือ Cryptocurrency และ NFT ที่ทำงานอยู่บนบล็อกเชนโดยไม่มีคนกลาง ปราศจากการควบคุม
เรียบเรียงโดย Right SaRa
4th Aug 2022
  • แหล่งข่าวอ้างอิง:
โฆษณา