7 ส.ค. 2022 เวลา 12:19 • นิยาย เรื่องสั้น
“เหมือนเดิมใช่ไหม?”
“ครับ.”
สุราไทย รสชาติคุ้นเคย ณ ร้านประจำย่านเมืองเก่า
มื้อเย็นหลังเลิกงานก็ดี เครื่องดื่มที่ถูกปากก็ดี
ใช่แล้วผมต้องการแค่นี้ เมื่อยามเลิกงาน
ทุกอย่างในค่ำคืนนี้ ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย
ไม่วุ่นวาย เป็นไปอย่างที่ใจต้องการ
เอาแล้วไงฤกษ์งามยามดี เป็นเวลา สามทุ่ม สามสิบนาที
ดีเจกู๋ เจ้าประจำ กำลังจะเริ่มบรรเลง
ผัวะ!!!
“มาคนเดียวอีกแล้วนะ”
ผมที่สติหลุดไปชั่วขณะ หลังหลุดจากภวังค์
ใครมันกล้าขัดจังหวะเวลาเลิกงานของผม
“ช่วงนี้ไม่เห็นแวะมาร้านบ้างเลย”
ชัดแล้ว เสียงแบบนี้
.
.
.
อาหมวยเสียงใส จอมโวยวาย ประจำบาร์ที่อยู่ถัดไปสองซอย
“สวัสดี ไม่ช่วยพี่ดูร้านหรือ วันนี้?”
เหมือนผมจะยิงคำถามโง่ๆไปเสียแล้ว
เมื่อดูจากอาการมึนเมาได้ที่ของเธอนั้น
มันชัดเจนว่า เธอเริ่มดื่มมาก่อนหน้านั้นแล้ว เป็นชั่วโมงแน่ๆ
งั้นเอาเป็นคำถามกวนโอ๊ยจากคนกันเองก็แล้วกัน
“โอเค หนีเที่ยวสินะ”
“ไม่ได้หนีซะหน่อย ขอแล้วๆ”
ชัดเจน
“อื้อโอเค งั้นตามสบายนะ”
“ตามสบายใช่ไหม…งั้นนั่งด้วยดิ”
อ่าวเห้ยทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้วะ
“พี่ครับขออีกแก้ว”
ผัวะ!!!
“จะดื่มเอาแชมป์โลกรึไง”
ผมถูกขัดจังหวะอีกครั้งด้วยความสงสัย ของสาวเจ้า จอมโวยวาย
“โถ่แบบนี้สั่งเป็นกลมไปเลยดีกว่าวัยรุ่น”
เอาแล้วไง ลูกพี่ที่ร้านพูดเสริมในทันควัน
“งั้นเอามาแบนนึงละกันพี่”
ใจเย็นๆทุกคน งั้นคนละครึ่งทาง
(ยิ้มแห้ง)
(ดูเหมือนว่าบทเพลงของ ดีเจกู๋ จะเริ่มหน้าที่ของเขาแล้วสินะ)
งานวัด - วงเพื่อน
ณ เวลานี้ ใจมันร้อนลุ่มเข้าไปทุกที ในขณะที่ ผมกำลังถูกกระตุ้นโสตประสาทไปกับเสียงเพลง ที่ถูกอกถูกใจ
เพราะ ในตอนนี้ อาหมวยวัยใส
เธอเริ่ม สร้างจังหวะด้วยการตบท้าว พร้อมกับเคาะโต๊ะ อย่างมีชั้นเชิง
“เพลงดีเนอะ ว่าป่ะ?”
“ใช่มันดีกว่าที่คิดไว้เยอะด้วย พอได้ฟัง มันดีกว่าผ่านแอพพลิเคชันอื่นเยอะเลยเนอะ”
“แน่นอนดิ นี่มันดีเจกู๋ เลยนะเว้ย”
“นั่นสินะ ก็เพราะเป็นดีเจกู๋ แถมยังเป็นแนวที่แกชอบนี่นา”
“นี่แม่คุณ อย่ามาทำเป็นรู้ดีนักนะ!”
รักคืออะไร - The innocent
นี่มันอะไรกัน ยังไม่สี่ทุ่มเลยนะ ทำไมเพลงอย่างงี้นี้ถึงมาเร็วจัง โอเคช่างมัน เขาเล่นก็ดีละ
การเคาะอย่างเป็นจังหวะได้หายไป กลับกลายเป็นการใช้ส่วนอื่นของร่างกาย
โยกย้าย และยักไหล่ ที่เป็นจังหวะ คือลูกไม้ถัดไป
แต่เข้าใจได้ เพราะมันดันเป็นเวอร์ชั่นเพลงเร็ว
สีหน้าและท่าทาง ของคนที่กำลังมึนเมาได้ที่
ช่างเป็นเสน่ห์ที่หาตัวจับยาก ของนักท่องราตรี สายเต้นจริงๆ
(แล้วในไม่กี่อึดใจนั่นเอง)
ผัวะ!!!
“คออ่อนรึไง ทำไมยกช้านักห้ะ!”
เอาแล้วไง ผู้ถูกกระทำอย่างผม ผิดอะไร
“ก็ไม่ได้อยากเป็นแชมป์โลกไง พอดีไม่ชอบเป็นที่หนึ่งของใคร”
“คำพูดเธอเยอะนะ รีบยกแก้วขึ้นมาชน เดี๋ยวนี้!!”
แม้แต่มุขห้าบาท สิบบาท ก็ไม่สามารถทลายความเกรี้ยวกราดของเธอได้เลยหรือนี่
ผมต้องแย่แน่ๆเลยคืนนี้
“ยัง..ยังอีก จะชนไหมแก้วอะ ไอ่คออ่อน”
“คออ่อนคืออะไร มีแต่พวกขี้แพ้เท่านั้นแหละ”
(ชน)
อยากอยู่ใกล้ๆ - ศรัณย่า
อยากอยู่ใกล้ๆ ที่ฟังกี่ทีก็ไม่เบื่อ ทั้งสำเนียง และเสียงดนตรี
แต่ตอนนี้ มันใกล้..ใกล้ไป ใกล้เกินไปแล้วนะนังหมวย
“เห้ย เห้ย ใกล้ไปแล้วนะ”
(และแล้วการเว้นระยะห่างระหว่างเรา ก็ได้แคบลง แคบลง)
“เพลงดีก็ต้องเต้นไหม อยากอยู่ใกล้ๆเลยนะ”
แล้วอาหมวยผู้ปากคอเราะร้าย ก็ได้กลายสภาพเป็น สมาชิกคนใหม่แห่งวง ไชน่า ดอลส์ในทันใด กับการขยับร่างกายดั่งหลุดมาจากต้นฉบับ หนุ่ม-สาว ปลายยุค 90s
“เออๆ ใกล้ก็ใกล้…เห้ยคนละใกล้ละ อันนี้มันเรียกชน”
จากตบหลัง กลายเป็นกระทบไหล่
“เลิกบ่นได้ไหม แล้วมันจะทำไม!”
(ชน)
“พี่ๆโซดาสองครับ”
เกินแก้ - วิยะดา โกมารกุล
สถานการณ์มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว สติสัมปชัญญะของเราสองที่ลดลงอย่างน่าใจหาย
การกระทบกระทั่งกันทางกายก็ได้ทวีความรุนแรง มากเข้าไปทุกที
ผมรู้สึกเหมือนกำลังถูกต่อยซ้ำๆ จนเริ่มบอบช้ำทางกาย
ผัวะ!
“มาเต้นกันเร็ว”
“ไม่อะ จะกินเหล้า”
“จะเต้นไม่เต้น”
“เซ้าซี้จังนะ แต่คำตอบคือ ไม่!”
“พูดอะไรนะ มานี่”
เมื่อการโน้มน้าวทางวาจาไม่สามารถ ทำอะไรผมได้ทั้งนั้น
ดังนั้นมาตรการฉุดกระชากก็ได้เกิดขึ้น
แล้วนั่นทำให้ พื้นที่ในขนาด 1.2 ตารางเมตรนั้น แคบลงกว่าที่ควรจะเป็น
เพราะเราสองต่างกำลังวาดลวดลายระหว่างกัน ตามจังหวะของเสียงดนตรี
“จะไม่ยอมเลยใช่ไหม ถ้าไม่ใช้กำลัง”
เหมือนผมจะหลวมตัว เข้าสู่ฟลอร์เต้นรำ เข้าให้แล้ว
ใช่แล้ว
ทุกอย่าง
มันเกินแก้
เชื่อฉัน - แกรนด์เอ็กซ์
“ร้อนเนอะ แอร์เสียรึป่าว”
เสียงหอบอ่อนๆ จากอาหมวยเท้าไฟที่เริ่มอ่อนกำลัง
“มันจะไม่ร้อนได้ยังไงละ ดูเราสิเต้นกันสิ”
เหมือนทั้งร้านแค่เราสองคน บนพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัส แนบชิดกันขนาดนั้น
“แค่นี้พอนะ จะดื่มต่อละ”
“ดื่มไปเต้นไปไม่รึไง!!”
จิตวิญญาณของนักเต้นเท้าไฟนี่มันแรงจริงๆ
“ น้าๆขอเชื่อฉันอีกเพลงนะ > < ”
“อะก็ได้ เพลงสุดท้ายนะ”
จริงๆแล้วต้องเป็นเธอนั่นแหละ ที่ต้องเชื่อฉัน พวกเราต้องหยุดแค่นี้
(เดี๋ยวนี้)
อย่าดีกว่า - ไมโคร
ดูเหมือนว่าอารมณ์ และความเร่าร้อนจะถูกดับลง ในทันที เมื่อเพลงนี้เริ่มดังขึ้ง
ต้องขอขอบคุณดีเจกู๋
ที่ทำให้สถานการณ์ สงบลง อย่างจรรโลง และสันติ
(คิดมานานเราเฝ้า คิดมานาน)
เมื่ออินโทรจบลง เราเริ่มเปลี่ยนจังหวะให้ช้าลง ตามถ่วงทำนอง
“เหมือนสมัยเรียนลีลาศเลยเนอะ แก”
“นั่นสิ เขินว่ะ”
นั่นคือช่วงเวลาที่น่าเขินอายของผมที่เติบโตมากับโรงเรียนชายล้วนแต่เล็ก
“แต่ก็ดีนะ โรแมนติกดีออก”
สงสัยน้ำเมา กับเสียงดนตรี จะเริ่มทำให้ผู้หญิงคนนี้กลับมาเป็นสาวน้อยผู้อ่อนหวาน ได้บ้างแล้ว
(อย่าได้หวั่นไหว)
“ระวังคำพูดหน่อยแม่คุณ”
“แล้วจะหน้าแดงทำไม”
“ก็เมาไงจะอะไรอีก”
เหมือนว่าคำโกหกแรกในค่ำคืนนี้ ได้ถูกเอ่ยขึ้นแล้วสินะ
“ก็รู้ตัวเอง แอบรักเธอมาตั้งนาน”
การประเสียงอันทรงพลัง ที่ทำให้พี่ในบาร์ถึงกับต้องชะงักจนเกือบลืมหายใจ
“พอแล้วนะ เดี๋ยวเรากลับไปนั่งดื่มต่อดีกว่า”
ผมที่เริ่มนับจังหวะก้าวเท้าไม่ไหว จะขอถอนตัวจากพื้นที่ตรงนี้
ไม่ทันไร เธอก็เปลี่ยนเป็นฝ่ายที่โอบเอว แล้วโน้มตัวเข้าแทน
“ขออีกนะ”
“อย่าดีกว่า ลืมเสียดีกว่า”
เราเริ่มผสานเสียงกันอีกครั้งให้มันดังกว่าเพลงไหนๆ ที่ดีเจอากู๋บรรเลง
ให้มันดัง
ยิ่งกว่าเสียงหัวใจของเราสอง
(บอกตัวเอง ได้แต่บอกตัวเอง)
ปฏิหาริย์ - กบ ทรงสิทธิ์
ในที่สุด ก็กลับสู่จุดเริ่มต้น
เรานั่งดื่ม พูดคุย ดั่งตอนที่ดีเจ เริ่มบรรเลง
แล้วตอนนี้ ผมก็ใช้แขนได้แค่ข้างเดียว
“จะกอดอีกนานไหม”
เธอไม่ยอม ที่จะให้ผมออกจาก อ้อมกอดเธอเลย
“ไม่รู้ว่ะ แต่ขออีกนิดนะ”
“เมารึไง”
“เมา”
นั่นมันคือคำสารภาพ ที่คุณควรจะพูดตั้งแต่เมื่อหลายชั่วโมงที่แล้ว ไม่ใช่หรือไง?
“ถ้าเมาก็เรียกรถกลับไป เดี๋ยวพี่เขาเป็นห่วงนะ”
ความอดทนผมเริ่มหมดลง ก่อนที่สติปัญญาของเรา จะเริ่มจางหายไป แล้วเหลือไว้เพียงสัญชาตญาณ
“ตัวเธออุ่นอะ ขอเวลาอีกนิดนะ”
คิดว่าผมเป็นอะไร ตุ๊กตาตัวโปรดรึไง
“ถ้าเพลงนี้จบ เธอต้องกลับเลยนะ”
การยื่นคำขาด เป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้ค่ำคืนนี้จบลง
“งั้นไปส่งหน่อยได้ไหม อีกนิดก็ยังดี”
ผมเองก็คงไม่จำเป็นต้องต่อเวลา เพื่อให้ค่ำคืนนี้ยังคงดำเนินต่อไป
เพราะไม่ว่ายังไง ผมเองก็รู้อยู่แก่ใจว่า…
(ปาฏิหาริย์ไม่มีจริง)
“เช็คบิลครับ”
“ยังมีบุหรี่เหลือปะ ขอตัวนึง”
(จุดบุหรี่)
“คืนนี้กำลังจะจบลงแล้วใช่ไหม”
ใช่ มันจะต้องจบลง
“ไป รีบขึ้นมาได้ละ ซ้อนไปดูดไปก็ได้”
“ไม่อยากต่อเวลา กันหน่อยเหรอ”
“จะขึ้นไม่ขึ้น ถ้าไม่ขึ้นก็เดินกลับเองนะ”
(สตาร์ทรถ)
“จอดตรงนี้ๆ เดี๋ยวข้ามไปเอง”
“กลัวพี่เห็นสินะ”
“อือ แกไม่ค่อยชอบให้ผู้ชายมาส่ง”
“โอเค งั้นไปละนะ”
“เดี๋ยว”
(กอด)
เพียงชั่วพริบตา ที่สติผมเกือบหลุดลอยออกไป
“พอได้แล้ว”
ผมรู้ดี ว่าคงต้องปฏิเสธอ้อมกอดนี้
เพราะผมเองก็คง ไม่ลืม
อีกหนึ่งค่ำคืน ที่น่าจดจำ
และน่าใจหาย ในเวลาเดียวกัน
“กลับก่อนนะ โชคดี แล้วอย่าเมาแบบนี้อีกนะ ขอร้อง”
จริงๆแล้วยังมีบางสิ่งที่อยากบอกอีกนะ
แต่นั่นก็…ช่างมันเถอะ
(แบบนี้แหละ ดีแล้ว)
(ความในใจ)
สุดท้าย
ในค่ำคืนนี้ก็ไม่มีอะไรที่มากมายไปกว่า
อยากจะบอกว่า “อย่าใกล้กันได้ไหม”
รู้มั้ยว่ามันไม่ไหว ผมชอบคุณมากแค่ไหน
แล้วนี่มันครั้งที่เท่าไหร่แล้ว ที่เราเจอกัน
แล้วเมื่อไหร่
ที่ผมมองตาคุณ มันไม่เคยถึง 5วินาที
อยากรู้ไหม ว่าเพราะอะไร เพราะผมกลัวเก็บอาการไม่อยู่นี่ไง
เข้าใจไหม เพราะฉะนั้น
(อย่าเลย)
อย่ามาถูกเนื้อต้องตัวกับบ่อยเลย
จะชนไหล่ ควงแขน เอาหัวมาชน หรืออะไรก็ตามแต่ ขอเถอะ คุณก็คิดกับผมเหมือนกัน
ผมเองก็รู้ดี
คุณเองก็รู้ดี
อย่าลืมนะ ว่าคุณมีใครคนนั้นของคุณอยู่ เพราะฉะนั้น อย่าเลย
มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะไปถึงจุดนั้นได้
โปรดเข้าใจผมด้วยเถอะนะ
(คุณผู้หญิง)
หากว่าผมจะต้องถามหาความรับผิดชอบจากใครสักคนในค่ำคืนนี้
สงสัยจะต้องเป็น ดีเจกู๋ แล้วสินะ
คนเราเก่งกันอยู่แล้ว เรื่องการหา ผู้กระทำผิด
เพราะพี่…พี่นั่นแหละ
ที่ทำให้สถานการณ์ มันเกือบอยู่เหนือการควบคุม ของเราสองคนไปเสียแล้ว
MidnightMessageBox

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา