9 ส.ค. 2022 เวลา 00:53 • ปรัชญา
มีคนพูด แล้วจึงมีคนฟัง หรือ
มีคนฟัง...ฟังจริงๆ แล้วจึงยอมพูด
1
รับเคสคุณยายคนหนึ่ง ปรึกษาเรื่องมะเร็งปอด มีอาการเหนื่อย หายใจไม่สะดวก
คุณยายอายุ 72 ปี รักษามะเร็งที่โรงเรียนแพทย์แห่งหนึ่ง มาพร้อมจม.ส่งตัวว่าไม่ตอบสนองต่อการให้ยาพุ่งเป้า หรือเคมีบำบัดแล้ว แปลว่าตอนนี้เค้าไม่เหลือการรักษาหลักแล้ว เหลือเพียงการประคองอาการ
ตอนนี้บางคนอาจจะคิดว่า คุณยายรอความตาย.....แต่สำหรับหมอ palliative care จะมองเสมอว่าคุณยายยัง"ใช้ชีวิต" ในช่วงท้าย อยู่ และเป็นงานของเราที่ทำให้ชีวิตช่วงนี้ ดีงาม สวยงาม ราบรื่นที่สุดที่ทำได้
2
เข้าไปหาคุณยาย แนะนำตัวว่าเป็นหมอปอด
ตอนแรกนั้นคุณยายนอนหลับตา คิ้วขมวด หายใจเร็วเล็กน้อย จึงขออนุญาตคุยอาการและตรวจร่างกาย
คุณยายเสียงแหบ เนื่องจากมะเร็งไปเบียดสายเสียงทำให้สายเสียงอัมพาตไป แทบไม่ได้ยินอะไร ต้องอ่านปากกับพยายามฟังมากๆ
เวลาถามอะไร เช่น เหนื่อยมั้ย
คุณยายก็ตอบแบบเสียงแหบๆ ว่า เฉยๆ
2
ปวดมั้ย ก็ตอบเฉยๆ
รับรู้ได้ว่า คุณยายยังไม่ได้อยากพูดกับเรามาก จึงได้ชวนคุยเรื่องทั่วไปก่อน ระหว่างที่คุย สังเกตว่ายังขมวดคิ้วอยู่ แต่คลายลงบ้าง
1
จึงได้ถามว่า คิ้วนี้มันขมวดอยู่ตลอดอยู่แล้ว หรือว่าคุณยายกำลังกังวล หรือยังไงมั้ยคะ
1
คุณยายจึงยิ้มๆ แล้วก็พยักหน้า
1
ถือว่าเป็นรอยยิ้มแรกตั้งแต่ได้พูดคุยมาร่วม 10 นาที
2
คุณยายรู้อยู่แล้วใช่มั้ยคะ ว่าโรคเป็นเยอะ แล้วมันไม่มียามาจัดการกับเค้าแล้ว
คุณยายพยักหน้า
ถามต่อว่ากลัวมั้ย
คุณยายตอบ เฉยๆ (อีกแล้ว)
พ. :กังวลมั้ยว่าจะเหลือเวลาเท่าไหร่
คุณยายตอบ เฉยๆ
พ. :แล้วอยากรู้มั้ย
คุณยายพยักหน้า
พ. : คุณยายเคยเดามั้ย
คุณยายส่ายหน้า แล้วบอกว่ามีหมอเคยบอกว่า อยู่ได้ 1 เดือน แต่ตอนนี้อยู่มาเกินกว่านั้นแล้ว
พ. : จริงๆ คุณยายเก่งมากๆเลย หลายคนเค้าไม่ไหวไปต้ังแต่ก่อนหน้านี้แล้ว นี่คุณยายมีปอดข้างเดียว แต่ยัง
ต่อมาได้ถามเรื่องนอนหลับ ญาติตอบว่า นอนไม่หลับ
แต่ยายบอกนอนหลับ....
อันนี้เกิดขึ้นบ่อย คือ เป็นได้จากหลายสาเหตุ เช่น คนไข้ชิน กับการหลับแค่นี้มานานแล้ว เค้าอาจจะโอเค หรือ เป็นเพราะไม่อยากให้แพทย์รู้ว่าเค้ามีเรื่องกังวล นอนไม่หลับ
ยังไม่ทันได้ถามต่อว่าเพราะอะไร แค่มองไปทางญาติ เค้าก็ตอบกลับมาว่า คุณยายกังวล...
1
เข้าทางละทีนี้
หันมาถามคุณยาย กังวลมั้ยคะ คุณยายยังตอบว่าเฉยๆ
แต่ด้วยความที่รู้ว่า มันมีอะไรแน่ๆ จึงใช้วิธีนิ่งรอ....คุณยายจึงบอกมาว่า
อยากมีเสียงพูด....
3
จึงเข้าใจมากขึ้นแล้ว ว่าคุณยายให้ความสำคัญกับ"เสียง"มากๆ จึงได้ถามต่อว่าถ้ามีเสียง คุณยายจะพูดอะไร
2
คุณยายหันมายิ้มๆ แล้วบอกว่า "จัดการมรดก"
หมอจึงถึงเข้าใจ...
2
จึงถามคุณยายต่อว่า นอกจากจัดการมรดก ยังอะไรกังวลอีกมั้ย
คุณยายส่ายหัว...
ถามต่อ คุณยายกลัวมั้ย ที่โรครักษาไม่หาย และร่างกายจะไปต่อไม่ได้
คุณยายส่ายหัวต่อ
จึงได้ถามคุณยายว่า...ตอนนี้สิ่งที่หมอเข้าใจ คือ คุณยายรู้แล้วว่าโรคเป้นเยอะ ไม่หาย และอาจจะแย่ลงในอนาคต แต่คุณยายไม่กลัว และสิ่งที่คุณยายกังวลคือ อยากจัดการสมบัติ จึงอยากมีเสียงเพื่อใช้พูดในการจัดการสมบัติ
คุณยายยิ้มและพยักหน้า
จึงได้บอกว่า ที่หมอพยายามอยากรู้ เพราะนี่คือหน้าที่นึงที่หมอต้องทำเหมือนกัน เพราะหมอไม่สามารถจัดการก้อนได้ แต่หมอต้องอาศัยร่างกายจิตใจของคุณยายที่เข้มแข็ง ในการสู้กับก้อนนะคะ
ถ้าคุณยายจิตใจสบาย นอนได้ กินได้ หมอว่าก็มีกำลังสู้กับก้อนได้ดี กว่าคุณยายจิตใจไม่สบาย หรือกังวล
3
คุณยายดูเข้าใจ
หลังจากนั้น จึงได้บอกคุณยายว่า
จากที่ดูทั้งหมด หมอว่าเสียงคุณยายอาจจะไม่กลับมาเหมือนเดิม แต่อาจจะแหบๆแบบนี้ต่อไป แต่หมอว่า คุณยายสามารถจัดการมรดกได้นะคะ เดี๋ยวหมอจะแจ้งลูกๆให้ว่าต้องทำยังไง
หมออยากให้คุณยายรีบทำนะคะ ไม่ใช่ว่าคุณยายกำลังจะแย่นะคะ แต่เพื่อคุณยายจะได้สบายใจเร็วๆ
3
คุณยายพยักหน้ารับ
หลังจากนั้นจึงได้คุยกับลูกๆ เรื่องที่คุณยายกังวล และวิธีการแก้ไข พร้อมทั้งให้ทุกคนช่วยกันฟัง แล้วทวนเพือให้เข้าใจตรงกัน ให้เป้นการพยายามฟัง เพราะถ้าต้ังใจฟัง เราจะรู้และเข้าใจในสิ่งที่คุณยายพยายามพูด
3
ใช้เวลาเยอะหน่อย แต่น่าจะมีประโยชน์กับครอบครัวคุณยาย
เป็นเรื่องที่ให้เรียนรู้ว่า ต้องตั้งใจฟังจริงๆ แล้วครไข้จึงจะยอมพูดให้ฟัง
#koonhospital
#palliativecare
โฆษณา