10 ส.ค. 2022 เวลา 05:26 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ทำไมการวางแผนภาษี ถึงไม่ควรทำในช่วงสิ้นปี ?
ภาพหนึ่งที่เรามักจะเห็นในช่วงสิ้นปีของทุกปีเลยก็คือ มีคนเข้าไปใช้บริการที่สาขาของธนาคารกันมากขึ้นแบบผิดหูผิดตา โดยเฉพาะอาทิตย์สุดท้ายของปีที่จะมีคนแห่กันมาซื้อกองทุนรวมและประกันต่าง ๆ เพื่อใช้สำหรับการ “ลดหย่อนภาษี”
3
ปัญหาที่เกิดขึ้นเลยคือ คิวยาว รวมถึงบางคนมาซื้อวันสุดท้ายก็อาจซื้อไม่ทันเพราะเลยเวลาซื้อก็มีให้เห็นเป็นประจำ จากเหตุการณ์ทั้งหมดสามารถตั้งข้อสังเกตได้เลยว่า คนส่วนใหญ่มักจะจัดการเรื่องภาษีในช่วงสิ้นปีกันเป็นส่วนใหญ่ แต่รู้หรือไม่ว่า การจัดการภาษีช่วงสิ้นปีนั้นถือว่าเป็นความเสี่ยงอีกหนึ่งเรื่องที่เราต้องระวัง
1
  • วางแผนภาษีช่วงปลายปีอาจจะทำให้เราไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้อย่างที่ตั้งใจ
2
ปัญหาอย่างหนึ่งที่พบบ่อยมากที่สุดสำหรับคนที่เริ่มวางแผนภาษีช่วงปลายปี คือ เงินไม่เพียงพอสำหรับการซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินเพื่อลดหย่อนภาษีอย่างที่ตั้งใจ เพราะต้องอย่าลืมว่าช่วงปลายปีเป็นช่วงเทศกาลที่มักจะมีการนัดสังสรรค์กับเพื่อน ๆ ทั้งที่ทำงาน สังสรรค์กับลูกค้า รวมไปถึงเพื่อนกลุ่มอื่น ๆ ทำให้มีแนวโน้มการใช้จ่ายในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมขยับเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน มีแนวโน้มที่เงินออมจะถูกนำออกมาใช้จ่ายด้วย
ถ้าหากเราต้องการลดหย่อนภาษีอย่างเต็มรูปแบบ เราอาจจะต้องใช้เงินมากกว่า 20% ของรายได้ทั้งปีเพื่อจัดการเรื่องลดหย่อนภาษี ซึ่งแปลว่า ถ้าหากเราไม่มีการบริหารหรือจัดสรรล่วงหน้าก็มีโอกาสที่เงินอาจจะไม่เพียงพอได้ ซึ่งปัญหาเรื่องนี้จริง ๆ แล้วสามารถแก้ไขได้ง่ายมาก เพียงแค่เราวางแผนภาษีตั้งแต่ต้นปีแล้วค่อย ๆ ทยอยสะสม ทยอยลงทุนเรื่อย ๆ
การวางแผนภาษีตั้งแต่ต้นปีนั้นช่วยให้เราสามารถวางเป้าหมายได้ชัดเจน รู้ว่ามีรายรับรายจ่าย สิทธิในการลดหย่อนเท่าไหร่ และยังขาดอีกเท่าไหร่ รวมถึงประเมินความสามารถในการออมของเราว่าแต่ละเดือนเราจะแบ่งเงินเพื่อนำไปออมหรือลงทุนเท่าไหร่ และทำให้โจทย์นี้ล้อไปกับการลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน เราสามารถนำเงินแบ่งไปลงทุนใน SSF RMF ประกันสุขภาพ ประกันสะสมทรัพย์ ที่จะได้ทั้งผลตอบแทนและได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งสอดคล้องกับการลงทุนแบบ DCA เป็นอย่างมาก
1
  • การเข้าซื้อลดหย่อนภาษีช่วงปลายปีอาจจะได้ของแพงโดยไม่รู้ตัว
แล้วถ้าเราลองย้อนดูผลตอบแทนย้อนหลังของดัชนีตลาดหุ้นทุนไทย (SET TRI) เราจะเห็นว่าการเข้าลงทุนในช่วงปลายปี ดัชนีมีแนวโน้มสูงกว่าช่วงต้นปีอย่างมีนัยสำคัญ นั่นหมายความว่าการที่เราเข้าซื้อเป็นเงินก้อนในช่วงปลายปีทีเดียวจะทำให้เรามีต้นทุนการเข้าซื้อเฉลี่ยที่แพงมากกว่า เนื่องจากในช่วงปลายปีจะเป็นช่วงที่คนส่วนใหญ่ทยอยซื้อเพื่อลดหย่อนภาษี ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นมากกว่าปกติทำให้ดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
1
ดังนั้น การลงทุนเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีอย่างการซื้อ SSF และ RMF ด้วยการทยอยลงทุนอย่างต่อเนื่อง ดูจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่าสำหรับการบริหารจัดการภาษี เพราะนอกจากจะช่วยทำให้เราออมเงินได้อย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังเป็นการช่วยลดรายจ่ายอีกทางหนึ่งด้วย
โดยปกติแล้ว หากเรามีเงินเหลือเยอะจะมีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายให้กับตัวเองมากกว่าปกติ โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยหรือไม่จำเป็น การเลือกเก็บก่อนใช้หรือออมก่อนใช้นั้น จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เมื่อเรามีแผนการเงินที่ชัดเจน มีเวลามากพอที่จะไตร่ตรอง ก็จะทำให้แผนที่เราตั้งใจทำมีโอกาสสำเร็จมากขึ้น เพราะถ้าหากเกิดอะไรผิดพลาดไม่เป็นอย่างที่เราตั้งใจ เราก็สามารถแก้ไขและปรับปรุงแผนเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้นั่นเอง
โฆษณา