10 ส.ค. 2022 เวลา 06:46 • ธุรกิจ
จริง ๆ แล้ว เรื่องของการเป็นผู้ประกอบการ
ไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัวเราเลย เพราะว่าผมเชื่อว่าหลายท่าน
บางทีก็เป็นผู้ประกอบการอยู่แล้วหรือว่าจริง ๆ แล้ว
เราคงจะมีประสบการณ์บางอย่างที่เกี่ยวข้อง
กับการเป็นผู้ประกอบการเช่นบางท่านอาจจะมีคุณพ่อคุณแม่
หรือครอบครัวของเราที่ทำกิจการอยู่แล้ว หรือจริง ๆ แล้ว
ต่อให้ทุกท่านเป็นพนักงานประจำนะครับ
ท่านก็อยู่ในกิจการของผู้ประกอบการสักคนที่สร้างเอาไว้
แต่ทุกท่านเคยสงสัยไหมครับ ว่าจริง ๆ แล้วผู้ประกอบการ
คำ ๆ นี้คืออะไรหมายความว่าอะไรกันแน่ ใน session นี้นะครับ
ผมจะพาทุกคนไปเรียนรู้ถึงความหมายที่แท้จริง
ของการเป็นผู้ประกอบการกันครับ
ในบ้านเราประเทศไทยนี้นะครับ
อาจจะมีคำที่เรียกคนที่เป็นเจ้าของกิจการหลากหลายคำครับ
ไม่ว่าจะเป็นคำว่า เถ้าแก่ หรือจะเป็นคำว่าเจ้าของ
แต่จริง ๆ แล้วนะครับ รากศัพท์ของคำว่าผู้ประกอบการนั้น
มาจากคำว่า Entrepreneurship นะครับ
ซึ่งถ้าจะเข้าใจเรื่องนี้จริง ๆ แล้วนะครับ
ต้องย้อนกลับไปถึงประวัติศาสตร์
ที่นักเศรษฐศาสตร์ท่านหนึ่งที่มีอิทธิพลมากในโลกนี้นะครับ
ได้ศึกษาและก็กล่าวเอาไว้ครับ
Joseph Schumpeter นะครับ
เป็นนักเศรษฐศาสตร์ เป็นนักประวัติศาสตร์
และก็เป็นนักการศึกษาทางด้านทุนนิยม ชาวออสเตรีย
คุณ Schumpeter ได้รับการยกย่องนะครับ
ว่าเป็นหนึ่งในปัญญาชนเป็นนักคิดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ท่านหนึ่งในศตวรรษเลยนะครับ
คุณ Schumpeter เข้ามาเกี่ยวข้อง
กับเรื่องราวของผู้ประกอบการได้อย่างไรนะครับ
คุณ Schumpeter นั้น ได้ศึกษาทางด้านผู้ประกอบการ
และก็กล่าวเอาไว้อย่างชัดเจนว่า Entrepreneurship
คือ A process of creating
A new combination of factors to produce economic growth
หรือว่าถ้าเราแปลเป็นไทยอย่างง่าย ๆ นะครับ
ความหมายก็คือ กระบวนการของการสร้างสรรค์
ประกอบสิ่งใหม่ ๆ เข้าด้วยกันเพื่อที่จะ
สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจนั่นเอง
ดังนั้นในนิยามแรกของ Entrepreneurship นั้น
เราก็สามารถที่จะสรุปได้ครับ ว่าผู้ประกอบการ
นั้นก็คือ ผู้ที่ต้องผ่านกระบวนการบางอย่าง
ในการประกอบสิ่งต่าง ๆ ขึ้นมา เพื่อเป็นกิจการนั่นเองครับ
อย่างไรก็ดีครับคำว่า Entrepreneurship นั้น
มักจะถูกนำไปเชื่อมโยงกับอีกคำนึงครับ
นั่นคือคำว่า Innovation หรือว่านวัตกรรมนั่นเอง
ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผู้เรียนควรเข้าใจและใส่ใจให้ความสำคัญ
ในมุมมองของ Schumpeter ครับเขามักจะใช้อีกคำนึง
ที่ใช้ในการอธิบายผลลัพธ์ของ Entrepreneurship
นั่นคือสิ่งที่เขาเรียกว่า Creative Destruction
หรือว่าการลบล้างอย่างสร้างสรรค์นั่นเอง
Schumpeter อธิบาย Entrepreneurship ว่า
Entrepreneur มีหน้าที่ในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด
แล้วเมื่อสิ่งอะไรก็ตามที่เข้าสู่ตลาดนั้น ได้รับการยอมรับ
แล้วมันก็หมายความว่ามันก็จะทำลายล้าง
สิ่งที่มีอยู่ในตลาดเก่าไป เช่นกัน
ยกตัวอย่างง่าย ๆ สมมติว่าในมือท่านเคยมีมือถือยี่ห้อหนึ่ง
ในอดีตมันเคยทำงานได้อย่างสมบูรณ์
มันสามารถโทรออกได้ส่งข้อความได้และทำทุกอย่างได้
ซึ่งเราก็คงจะคิดว่ามันดีมาก มันเจ๋งอยู่แล้วใช่ไหมครับ
แต่หน้าที่ของ Entrepreneur ครับ ก็คือการสร้างมือถือ
เครื่องใหม่ขึ้นมาหรือว่าสิ่งประดิษฐ์ใหม่ขึ้นมา
และนำเข้าสู่ตลาด เมื่อมือถือเครื่องใหม่นั้น
มันสามารถที่จะต่ออินเตอร์เน็ตได้
สามารถที่จะใช้ฟังเพลงได้ สามารถที่จะเล่นเกมได้
หรือว่าทำอะไรหลายอย่าง ซึ่งผลิตภัณฑ์เก่า
ไม่สามารถทำได้ ขึ้นมา
ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้บริโภคนั้นย่อมที่จะสนใจสินค้าใหม่
และเมื่อผู้บริโภคได้ย้ายเข้าไปซื้อสินค้าในตลาดใหม่หมด
ก็หมายความว่าตลาดของสินค้าเก่านั้น
ถูกทำลายล้างลงไปนั่นเอง นั่นแหละครับ
คือคำอธิบายของสิ่งที่ Schumpeter เรียกว่า
Creative Destruction ซึ่ง Entrepreneur
เป็นผู้สร้างและก็เป็นผู้ทำลายในเวลาเดียวกัน
เมื่อมาถึงตรงนี้นะครับ ถ้าเราเข้าใจ Entrepreneurship
ผ่านมุมมองของประวัติศาสตร์แล้วนั้น
ก็จะทำให้เราเข้าใจอย่างแท้จริงว่า จริงๆ แล้ว
Entrepreneurship นั้นก็คือศาสตร์ 1 ศาสตร์ครับ
ศาสตร์แห่งการประกอบการนั่นเอง ซึ่งไม่สามารถ
ที่จะแยกออกได้ จากศาสตร์ของ Innovation
นั่นคือศาสตร์ในการสร้างสิ่งใหม่ หรือว่านวัตกรรมนะครับ
ดังนั้นแล้ว ถ้าเราจะเข้าใจความหมายของ Entrepreneur
ว่าคืออะไร ให้เข้าใจอย่างง่ายที่สุด นะครับ
จริง ๆ แล้วก็คือคำว่าผู้ประกอบการนั่นเอง
ซึ่งคำนี้เป็นความหมายที่ดีมากในตัวมันเองนะครับ
แต่จริง ๆ ถ้าจะสมมติว่าเราจะนิยามให้ชัดขึ้นไปอีกสักเล็กน้อย
ก็อาจจะนิยามได้ว่าผู้ประกอบการ
จนได้มาเป็นกิจการใหม่นั่นเองครับ
ดังนั้นตอนนี้นะครับ ถ้าหลายท่านที่กำลังเรียนอยู่
แล้วเรารู้สึกว่าเราเป็นใครสักคนครับ
ที่กำลังจะเข้าสู่โลกของผู้ประกอบการ
แล้วเรารู้สึกว่าเอ๊ะทำไมมันถึงมีเรื่องเยอะแยะมากมายให้เราทำ
มากกว่าตอนที่เราเป็นพนักงาน ซึ่งเราทำงานเป็นเพียง แค่บางส่วน
ก็ถูกต้องแล้วก็ยินดีด้วยนะครับ เพราะแสดงว่า
คุณกำลังเข้าสู่ความหมายที่แท้จริงของการเป็น
Entrepreneur หรือว่าความหมายที่แท้จริง
ของ Entrepreneurship แล้วนั่นเอง
ถ้าคุณเลือกที่จะเป็นผู้ประกอบการนะครับ
คุณจะต้องเข้าใจครับว่าการเป็นผู้ประกอบการนั้น
คุณจะต้องประสบ คุณจะต้องพบเจอกับการต่าง ๆ
และก็เหตุการณ์ต่าง ๆ มากมายในชีวิต
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคน
ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า ตลาด เทคโนโลยี
หรือแม้แต่กฎระเบียบต่าง ๆ มากมายเลยครับ
หน้าที่แท้จริงของผู้ประกอบการนั่น ก็คือ
คุณจะต้องสามารถในการรวบรวมการต่าง ๆ นี้
เข้ามาประกอบด้วยกัน แล้วสามารถที่จะสร้างโอกาส
ได้ในเวลาที่เหมาะสม จนเป็นสิ่งที่เรียกว่ากิจการนั่นเอง
และกิจการใหม่ ที่คุณสร้างเหล่านี้นะครับ ก็ต้องมีความใหม่
แล้วก็ต้องแตกต่างเพื่อที่จะสามารถเข้าไปเขย่าตลาดเดิม
หรือว่าสามารถที่จะแตกต่างพอที่สร้างตลาดใหม่
และโอกาสใหม่ ๆ เพื่อเป็นตลาดแห่งอนาคตได้ครับ
ดังนั้นในแวดวงวิชาการนะครับ
เราเลยเรียกโลกของ Entrepreneurship ว่า
โลกของ Multidisciplinary นั่นเอง
หรืออนุญาตแปลง่าย ๆ นะครับ
นั้นก็คือโลกของพหุวิชาครับ
คนที่เป็นผู้ประกอบการ จะต้องมีความรู้กว้าง
และก็หลากหลายในแต่ละสาขา เพื่อที่จะได้มีความรู้ต่าง ๆ
เพียงพอ ในการประกอบการ ประกอบองค์ความรู้ต่าง ๆ ขึ้นมา
จนกว่าจะเป็นสิ่งที่เรียกว่ากิจการครับ
เรามายกตัวอย่างผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ
กันดูซักนิดนะครับ
ผมว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักคุณ Elon Musk
ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเชื้อสายแอฟริกาใต้
ที่ปัจจุบันเขาเป็นเจ้าของกิจการรถยนต์
ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก นั่นก็คือบริษัท Tesla นั่นเอง
คุณ Elon Musk นะครับเป็นตัวอย่างที่ดีมาก
ในการนิยามผู้ประกอบการสักคนนึงครับ
เพราะว่าคุณ Elon Musk เป็นผู้ประกอบการ
ที่สามารถที่จะเอาความรู้ที่หลากหลายนะครับ
เอามาประกอบกันจนกระทั่งเป็นกิจการได้
ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางด้านฟิสิกส์
ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางด้านวิศวกรรม
ด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ ทั้งด้านธุรกิจ
หรือแม้แต่ความสนใจส่วนตัวของผู้ประกอบการ
ที่คุณ Elon Musk มีความสนใจ อย่างมาก
ในการที่จะประกอบกิจการ ที่ช่วยเรื่องโลกร้อนนะครับ
ในการสร้างพลังงานทดแทนนั่นเอง
การสร้างสรรค์ประกอบกันของคุณ Elon Musk
นั้นได้ถูกประกอบกันอย่างสวยงามจน เกิดเป็นกิจการใหม่
นั่นก็คือกิจการรถยนต์ ไฟฟ้า Tesla นั่นเอง
ซึ่งปัจจุบันก็กลายเป็นกิจการที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก
และถูกตีมูลค่าเป็นบริษัทรถยนต์อันดับ 1 ของโลกครับ
ถ้าเราลองดูตัวอย่างของคุณ Elon Musk นะครับ
ก็จะเห็นว่าตรงกันเลยกับนิยามของ
คุณ Joseph Schumpeter ที่ได้กล่าวไว้ตั้งแต่ข้างต้น
แล้วว่าผู้ประกอบการ ก็คือการประกอบการเพื่อสร้างกิจการใหม่
สิ่งที่คุณ Elon Musk ได้ทำก็คือการประกอบองค์ความรู้ต่าง ๆ
มากมายเพื่อเกิดเป็นกิจการรถยนต์ไฟฟ้าในรูปแบบใหม่
และเมื่อกิจการที่เขาได้สร้างสรรค์ขึ้นนั้นมีคุณค่าเพียงพอ
มันก็ทำให้ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้านั้นเติบโต ในขณะเดียวกัน
มันก็ทำให้ธุรกิจรถยนต์ที่ยังใช้พลังงานฟอสซิลนั้น
เกิดความสั่นคลอน ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เราได้เรียนรู้ไปแล้ว
ว่าคือกระบวนการของ Creative Destruction
หรือว่าการลบล้างอย่างสร้างสรรค์ ด้วยนวัตกรรมและกิจการใหม่นั่นเอง
มาถึงตอนนี้นะครับ ทุกคนคงจะได้ทราบถึงนิยาม
ความหมายที่แท้จริงของ Entrepreneurship กันแล้ว
หรือว่าความหมายของการเป็นผู้ประกอบการนั้นเอง
นั่นก็คือการประกอบการเพื่อสร้างกิจการใหม่ครับ
ดังนั้นตอนนี้ถ้าพวกเราทุกคนอยากที่จะเป็นผู้ประกอบการ
ก็สามารถที่จะเริ่มลงมือทำได้เลยนะครับ
โดยการที่เริ่มมองจากสิ่งรอบตัวว่าเรามีอะไร
แล้วก็จินตนาการคิดว่าเราจะสามารถรวบรวมประกอบอะไร
ที่เรามีอยู่รอบข้างขึ้นมาเป็นกิจการได้
หลายคนอาจจะกำลังสนใจเกี่ยวกับเรื่องของเสื้อผ้า
หรือว่าใครหลายคนก็กำลังสนใจที่จะประกอบกิจการร้านอาหาร
หรือในปัจจุบันนะครับ เกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยีนั้น
มีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก
หลายคนก็อยากที่จะสนใจประกอบกิจการ
ที่เกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชัน หรือว่าธุรกิจแพลตฟอร์มต่าง ๆ
จะเป็นอะไรก็ได้ครับ
ทุกท่านก็กำลังที่จะต้องเข้าสู่โลกของการประกอบบางอย่างเช่นกัน
แล้วก็อย่าลืมนะครับ ว่าความหมายที่แท้จริง ๆ แล้วนั้น
ของ Entrepreneurship นั้นไม่สามารถที่จะแยกออก
จากความ หมายของ Innovation ได้นะครับ
ดังนั้นผลิตภัณฑ์ บริการ หรือว่าอะไรก็ตามที่ท่าน
กำลังสร้างสรรค์ใหม่ ๆ อยู่นั้น อย่าลืมถามตัวเองนะครับ
ว่ามันมีคุณค่าหรือเปล่า
และท่านได้สร้างสิ่งใหม่อะไรเข้าสู่ตลาดบ้าง
ถ้าท่านกำลังจะเปิดร้านทำผม หรือว่าร้านเสริมสวย
ก็อย่าลืมถามตัวเองนะครับ ว่าสินค้าของเรา
หรือว่าร้านของเรานั้น แตกต่างอย่างไร
จากสิ่งที่มีอยู่ในตลาด
เพราะว่าถ้าเราสามารถที่จะสร้างคุณค่าใหม่ ๆ ในตลาด
ที่ไม่เคยมีมาได้นะครับ ก็หมายความว่า
ท่านกำลังเข้าสู่โลกของการเป็นผู้ประกอบการอย่างเต็มตัวแล้วล่ะครับ
นั่นก็คือผู้ที่ประกอบการต่าง ๆ เพื่อสร้างสิ่งใหม่
จนออกมาเป็นกิจการใหม่นั่นเองครับ
โฆษณา