10 ส.ค. 2022 เวลา 06:59 • ธุรกิจ
ทุกท่านเคยสงสัยไหมครับ ว่าชีวิตของการเป็นผู้ประกอบการ
เป็นยังไง ผมเชื่อว่าหลายคนเลยที่อาจจะไม่เคยได้ฉุกคิด
หรือว่านึกถึงเลยด้วยซ้ำ เพราะว่าเราก็อาจจะคิดว่า
เราอยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจ สักอย่างหนึ่งเท่านั้นเอง
ใน session นี้นะครับ ผมจะพาทุกท่านไปเรียนรู้กันครับ
ว่าชีวิตของการเป็นผู้ประกอบการนั้นเป็นยังไง แล้วจริง ๆ แล้ว
ในแต่ละช่วงชีวิตของกิจการนะครับ
ผู้ประกอบการ
ก็มีชีวิตไม่เหมือนกัน เราจะไปเรียนรู้กันถึงแนวความคิด
เรื่อง Entrepreneurial Life ครับ หรือว่าชีวิตของ
การเป็นผู้ประกอบการนั่นเอง
ความเข้าใจในเรื่องนี้นะครับ น่าจะช่วยให้หลายคน
ที่กำลังจะเข้าสู่ชีวิตของการเป็นผู้ประกอบการนั้น
หรือว่าหลาย ๆ ท่านเลย
ที่ตอนนี้ก็อาจจะเป็นผู้ประกอบการอยู่แล้วนะครับ
ได้มีโอกาสกลับมาสะท้อนครับ สะท้อนสิ่งที่ตัวเองทำ
หรือว่าได้มีเวลาคิดถึงสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำ
ว่าเราจะจริงจังและเราจะทุ่มเทแค่ไหนต่อไป
กับชีวิตการเป็นผู้ประกอบการของเรา เพื่อที่เรา
จะได้เตรียมตัวเตรียมใจ และก็กำหนดแนวทางชีวิต
และก็กิจการของเราได้ ครับ
ถ้าเราลองเห็นภาพชีวิตหรือว่าวงจรชีวิต
ของผู้ประกอบการกันนะครับ เราก็จะสามารถ
ที่พอเห็นภาพ และเข้าใจได้ว่าในแต่ละช่วงของชีวิต
ผู้ประกอบการนั้นต้องเจออะไรแล้วต้องเตรียมตัวอะไร
ดังนั้น ถ้าผมจะขออนุญาตอธิบายภาพชีวิตของผู้ประกอบการ
ให้เห็นก็คงจะขอเปรียบเปรยกับการปลูกต้นไม้สักต้นครับ
ช่วงแรกของชีวิตการเป็นผู้ประกอบการ
เราจะเรียกผู้ประกอบการในช่วงนี้ว่า Nascent Entrepreneur
หรือว่าผู้ประกอบการมือใหม่นั่นเอง
และผู้ประกอบการที่กำลังเข้าสู่กระบวนการนี้
เป็นใครสักคนครับ ที่เพิ่งเริ่มต้นที่จะอยู่ในช่วงของ
การก่อร่างสร้างกิจการ
ถ้าเปรียบเป็นการปลูกต้นไม้สักต้นจริง ๆ ช่วงนี้
เป็นเพียงแค่เสมือนช่วงของการปลูกเมล็ดพันธุ์เท่านั้นเอง
เมล็ดความฝันนั้น ยังเป็นเมล็ดที่เล็กอยู่มากครับ
เรายังไม่รู้เลยว่าจะรอดหรือไม่รอด แต่อย่างน้อยที่สุด
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ คุณได้เริ่มต้นแล้วนะครับ
และก็คุณก็ได้เป็นผู้ประกอบการแล้วครับ
แต่ว่ายังเป็นผู้ประกอบการที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเท่านั้นเอง
สำหรับในช่วงนี้นะครับ เราก็ยังไม่รู้เลยว่ากิจการของเรา
จะเป็นยังไง จะเติบโตมั๊ย จะเติบใหญ่มั๊ย
ช่วงนี้นั้นเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการก็จะยังไม่มีเงินทุนมากมาย
ยังไม่มีพนักงานที่เราจะกล้าจ้างมาเต็มอัตรา
ยังไม่แน่ใจว่าธุรกิจจะรอดหรือไม่รอด
ดังนั้นความสำคัญในช่วงนี้ก็คือความใส่ใจดูแล
และก็ความสามารถของตัวผู้ประกอบการนั่นเอง ครับ
มีคำนึงครับ ที่ผมอยากจะฝากทุกคนไว้
เป็นคำที่ผมชอบมากนั่นคือคำพูดที่ว่า
ผู้ประกอบการก็คือพนักงานคนแรกขององค์กรนั่นเอง
ดังนั้นในช่วงนี้นะครับ เป็นช่วงที่ผู้ประกอบการ
จะต้องทำทุกอย่างในกิจการด้วยตัวเองครับ
ไม่ว่าจะเป็นงานขาย งานบริการ หรือแม้แต่งานเบ็ดเตล็ด
จิปาถะต่าง ๆ คุณอาจจะเหนื่อยมากนะครับ เตรียมใจไว้เลย
แต่อย่าลืมสิครับ ว่าหัวใจของการเป็นผู้ประกอบการ
นั่นก็คือความสามารถในการประกอบการนั่นเอง
ดังนั้นแล้วจริง ๆ การทำงานที่หลากหลาย ในช่วงแรก
ของการเป็นผู้ประกอบการ ก็จะช่วยให้คุณนั่นแหล่ะครับ
สามารถที่จะเข้าใจในทุกบทบาททุกมิติขององค์กร
และก็ทุกฟังก์ชันขององค์กร ซึ่งก็จะสอดคล้อง
กับแนวคิดของ Multidisciplinary
หรือว่าพหุปัญญานั่นเอง
ในช่วงนี้นั้นก็ถือซะว่า
เป็นการเตรียมพร้อมครับ ให้ผู้ประกอบการเข้าใจ
ถึงภาพรวมขององค์กร ซึ่งจะนำไปสู่ความสามารถ
ในการจ้างงานในอนาคต เมื่อกิจการจะต้องขยับขยายได้
เมื่อเมล็ดแห่งความฝันนั้นอยู่รอดนะครับ
ก็จะกลายเป็นต้นกล้าละครับ ถ้าสมมุติว่า
คุณได้ผ่านช่วงแรกมานั้น และเข้าสู่ช่วงที่ 2 ได้แล้ว
ก็ยินดีด้วยครับ ท่านกำลังจะเข้าสู่ช่วงชีวิตที่ 2
ของการเป็นผู้ประกอบการนะครับ นั่นก็คือผู้ประกอบการ
ที่เราเรียกว่า Novice Entrepreneur นั่นเอง
หรือความหมายก็คือผู้ประกอบการที่ได้เป็น
เจ้าของกิจการแรกล่ะครับ แต่ยังมีแค่กิจการเดียวนะครับ
ถ้าเราเปรียบเปรยกับเรื่องของต้นไม้อีกสักครั้งหนึ่ง
ก็ลองนึกภาพตามดูนะครับ ว่าเมล็ดพันธุ์เล็ก ๆ
ที่เราได้ทำการปลูกเนี่ย ได้เปลี่ยนเป็นต้นกล้า
แล้วตอนนี้ก็กลายเป็นต้นไม้แล้วครับ มันสูงพอ
จะให้เงาให้ดอกให้ผล และก็สามารถที่จะหล่อเลี้ยง
ที่ชีวิตต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้มันได้แล้ว
และมันก็อาจจะใหญ่พอที่จะแผ่ร่มเงาให้กับหลาย ๆ คน
ที่มาอยู่อาศัยภายใต้ร่มไม้นี้ได้เช่นกันนะครับ
ในขณะที่หลาย ๆ คน มองว่านี่เป็นเรื่องน่ายินดีนะครับ
ที่กิจการของเรา จากครั้งนึงเคยเป็นความฝัน
บัดนี้ก็ได้เติบใหญ่อแล้วก็กลายมาเป็นต้นไม้แล้ว
แต่ก็ต้องพึงระวังนะครับ ท่านกำลังจะเข้าสู่ช่วงชีวิต
ที่เรียกว่า Entrepreneurial Dilemma
หรือว่าเป็นภาวะกลับตัวก็ไม่ได้ไปก็ไปต่อไม่ถึง
เพราะอะไรครับ เพราะว่าเป็นช่วงที่ผู้ประกอบการหลายคน
จะต้องเลือกครับ เลือกที่ว่าจะยังทำทุกอย่างเอง
ดูแลกิจการต่าง ๆ ต่อไปด้วยตนเอง โดยที่ไม่มีเวลาครับ
ที่จะไปสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือว่าต่อยอดจากกิจการเก่า
ในขณะที่หลายท่านครับ ก็กลับพบว่ากิจการ
เราสร้างขึ้นมานั้นยังไม่สามารถที่จะสร้างรายได้เพียงพอ
ที่จะหล่อเลี้ยงชีวิตเรา ทำให้เราต้องไปสร้างกิจการใหม่ ๆ
ในขณะที่เราก็ยังวุ่นวายอยู่กับการต้องดูแล
จัดการต้นไม้ที่ยังไม่ได้แข็งแรงมากนัก
ดังนั้นในช่วงนี้นะครับ ผู้ประกอบการต้องเตรียมตัวละครับ
ในการสร้างคน สร้างระบบ และก็สร้างองค์กร
เพื่อเตรียมพร้อมให้องค์กรสามารถที่จะขยับขยายต่อไปได้ในอนาคต
มีผู้ประกอบการหลายคนครับ ที่ก็ยังพอใจแล้วก็เลือก
ที่จะเพียงพอกับชีวิตของการเป็น Novice Entrepreneur
หรือว่าผู้ประกอบการที่มีกิจการที่เราเป็นเจ้าของ
แค่กิจการเดียว
แต่ว่าก็มีหลายคนนะครับ
ที่เมื่อเขาปลูกต้นไม้เป็นหนึ่งต้นแล้ว เขาก็ยังไม่พอใจครับ
เขาเลือกที่จะปลูกต้นไม้ต้นอื่น ๆ ด้วย
และเมื่อต้นไม้บางต้นเติบโตครับ พอที่มันสามารถ
ที่จะค้าขายทำกำไรได้แล้ว เขาก็ไม่ได้เลือกที่จะเก็บไว้ครับ
แต่เขาเลือกที่จะขายต้นไม้เก่าแล้วก็ปลูกต้นไม้ใหม่ต่อไปเรื่อย ๆ
ซึ่งผู้ประกอบการแบบนี้เราเรียกว่า Serial Entrepreneur
นั่นเองครับ Serial Entrepreneur คือคนที่สามารถ
ที่จะสร้างกิจการใหม่ ๆ ได้และก็ขายกิจการเก่า ๆ ออกไปได้
ก็เปรียบเสมือนกับคนที่ปั่นจักรยานเป็นครับ
ถ้าเคยปั่นจักรยานเป็นครั้งหนึ่งแล้ว ก็เหมือนผู้ประกอบการ
ที่ทำธุรกิจเป็น เขาก็จะเข้าใจกระบวนการที่เริ่มต้นธุรกิจ
จนกระทั่งขายธุรกิจ ว่ามีกระบวนการอย่างไร
Serial Entrepreneur ก็เลยเลือกที่จะมองโอกาสต่าง ๆ
มากกว่าครับ เมื่อเขาเห็นโอกาสที่เหมาะสมแล้ว
เขาก็ไม่ยึดติดอยู่กับกิจการใดกิจการหนึ่ง
เหมือน Novice Entrepreneur นะครับ
แต่ว่าเขาเลือกที่จะกระโดดเข้าสู่โอกาสใหม่ตลอดเวลา
ดังนั้น ถ้าเราเลือกที่จะเป็น Serial Entrepreneur นะครับ
ความท้าทายของเราก็คือการบริหารจัดการ ระหว่างสิ่งต่าง ๆ
กิจการเก่าที่มีอยู่ และโอกาสใหม่ ๆ เข้ามา
เพราะว่าท่านจะรู้สึกสนุกแล้วเห็นว่าโลกนี้มีแต่โอกาส
แล้วก็กิจการที่น่าจะเริ่มต้นเต็มไปหมดเลย นั่นเองครับ
ประเภทสุดท้ายนะครับ ของ Entrepreneur
ที่ผู้ประกอบการหลายคนเลย ฝันอยากจะไปให้ถึง
นั่นก็คือผู้ประกอบการที่เราเรียกว่า
Portfolio Entrepreneur
ถ้าจะเปรียบให้เห็นภาพนะครับ เกี่ยวกับเรื่องการปลูกต้นไม้
ก็คือใครสักคนหนึ่ง ที่เขาไม่ได้เพียงแค่ปลูกต้นไม้
ไม่กี่ต้นแล้วครับ แต่ว่าต้นไม้ทุกต้นที่เค้าปลูก
และก็เติบโตนั้น ได้เติบใหญ่ แผ่แตกกิ่งก้านสาขาออกไป
จนตอนนี้รวมเป็นป่าละครับ ซึ่งมีระบบนิเวศใหญ่โตแล้ว
ก็มีต้นไม้หลาย ๆ พันธุ์ นานาพรรณ รายล้อมไปด้วยกัน
Portfolio Entrepreneur นะครับ
คือผู้ประกอบการ ที่มีกิจการมากมายครับ
ในขณะเดียวกัน เขาก็ยังสามารถที่จะดูแลกิจการต่าง ๆ
ที่เคยมีอยู่ได้โดยที่ไม่ได้ขายทิ้งออกไปนะครับ
กิจการต่าง ๆ มากมายที่เขาสร้างนั้นได้กลายเป็นอาณาจักร
ที่มีธุรกิจใหญ่โตซึ่งสามารถที่จะหล่อเลี้ยงความฝัน
แล้วก็ส่งต่อความฝันได้อย่างมากมาย
มีผู้ประกอบการจำนวนน้อยมาก ๆ เลยครับ
ที่จะสามารถเดินตามความฝันมาจนถึงจุดนี้ได้
เพราะว่าผู้ประกอบการนั้นจะต้องผ่านอะไรมากมายเลยครับ
ดังนั้นถ้าคุณกำลังดูอยู่นะครับ และคุณสามารถที่จะพาชีวิต
การเป็นผู้ประกอบการมาถึงจุดนี้ได้แล้ว
ก็ไม่ได้หมายความว่างานของเราจบแล้วนะครับ
ช่วงชีวิตของการเป็น Portfolio Entrepreneur นั้น
เป็นช่วงที่เรายุ่งมากครับ เรามีกิจการต่าง ๆ มากมายแล้ว
เราก็มีเรื่องต่าง ๆ ที่ต้องจัดการ ซึ่งแน่นอนว่า
เราไม่สามารถที่จะทำเรื่องต่างๆ เหล่านั้นได้ด้วยตัวเองอีกต่อไป
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เลยนะครับ ของ Entrepreneur
ตอนนี้ก็คือการสร้างสิ่งที่เรียกว่า Successor
หรือว่าผู้ที่จะมาสืบทอดกิจการต่าง ๆ ต่อไป
ให้ได้ทันเวลานั่นเอง
อย่าลืมนะครับ ว่าเรารู้จักกิจการของเราดีที่สุด
แต่เมื่อเรามี Successor เข้ามาสักคนนั้น
เขาต้องการเวลาครับ ในการที่จะฟูมฟักหล่อหลอม
แล้วก็ถูกหล่อเลี้ยง ให้เข้าใจวัฒนธรรมต่าง ๆ
และวิธีการทำงานขององค์กร ที่เราสร้างในหลากหลายมิติ
เพื่อที่วันหนึ่ง เขาก็จะได้ก้าวขึ้นมาครับ เป็นใครสักคน
ที่สืบทอดอณาจักรที่เราสร้างไว้สืบต่อไป
เอาละครับมาถึงตอนนี้ผู้เรียนคงจะเห็นภาพช่วงชีวิตต่าง ๆ
ในแต่ละช่วงของการเป็นผู้ประกอบการแล้วนะครับ
ซึ่งจะเห็นว่าในแต่ละช่วงของการที่เรามีชีวิต
เป็นผู้ประกอบการ ก็ต้องการการดูแล
การใช้ชีวิตและการบริหารที่แตกต่างกันออกไป
สำหรับท่านไหน ที่ได้มีโอกาสดูมาถึงตอนนี้นะครับ
ผมอยากจะลองให้เราหลับตาครับ และถามตัวเองดัง ๆ
ดูว่าตอนนี้เราอยู่ในช่วงไหนของชีวิตการเป็นผู้ประกอบการ
และเราได้ใช้เวลาชีวิตในช่วงนี้เหมาะสมเต็มที่สุดแล้ว
หรือยังกับสิ่งที่เราควรทำ เพื่อที่เราจะได้ก้าวไปข้างหน้า
ในการมีชีวิตแบบผู้ประกอบการ
ที่มีคุณภาพ และก้าวหน้าเติบโตอย่างมั่นคงครับ
โฆษณา