11 ส.ค. 2022 เวลา 12:00 • สุขภาพ
ความสุขของคนหนุ่มสาวกับคนสูงวัยแตกต่างกัน
1
ใกล้ถึงวันแม่แล้ว เชื่อว่า ลูกหลายคนอาจจะกำลังหาอะไรพิเศษๆ เพื่อเป็นของขวัญแสดงถึงความรักที่มีต่อคุณแม่ หลายคนอาจจะยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไร หรือให้อะไรดี เพราะต้องการจะให้สิ่งที่มันพิเศษ หรือต่างไปจากทุกปี
2
ผมเลยอยากจะชวนอ่านบทความเก่าที่ผมเคยเขียนไว้หลายปีแล้ว
เผื่อจะช่วยให้คิดออกได้ง่ายขึ้นครับ
2
ก่อนอื่นเลย ผมขอท้าวความเดิม จากเนื้อหาที่ผมเขียนในหนังสือ 500 ล้านปีของความรัก เล่ม 1 นะครับ ผมอธิบายในหนังสือว่า สมองของผู้ชาย ผู้หญิง และเพศตรงกลางทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น เกย์ กระเทย ทอม ดี้ ฯลฯ นั้น อาจพูดเล่นๆ ได้ว่าเป็นอวัยวะเพศอีกอวัยวะนึง
1
หมายความว่า สมองของผู้ชาย ผู้หญิงนั้น มีบางส่วนที่ต่างกัน คล้ายๆ กับที่ผู้ชายมีอวัยวะเพศชาย ผู้หญิงมีนม ผู้ชายกล้ามเนื้อใหญ่กว่า ผู้หญิงผิวเนียนกว่า
1
เมื่อสมองของผู้ชาย ผู้หญิง และเพศตรงกลางทั้งหลายต่างกัน แต่ละเพศจึงมีความคิด การรับรู้อารมณ์ การได้กลิ่น การมองโลกที่ไม่เหมือนกัน
2
แต่ที่ผมไม่ได้เขียนถึงในหนังสือคือ สมองของคนสูงอายุเองก็ต่างไปจากคนหนุ่มสาวด้วยเช่นกัน
1
แล้วความต่างนี้ไม่ได้แปลว่า สมองคนสูงอายุจะเสื่อมกว่าเสมอไป
แต่ความต่าง อาจจะมองได้ว่า ต่างแบบที่สมองผู้ชายต่างไปจากสมองผู้หญิง
ปกติเมื่อเราพูดถึงสมองของคนสูงอายุ เรามักจะนึกถึงสมองที่เสื่อมลง ด้อยลง คิดได้ช้าลง จำได้น้อยลง แต่จากงานวิจัยจริงๆ แล้ว ไม่ได้พบเช่นนั้นเสมอไปครับ เพราะระยะหลังพบว่าเมื่อคนมีอายุมากขึ้น จริงอยู่ว่าหลายอย่างทำงานได้ลดลง แต่ก็มีหลายอย่างที่ทำงานได้ดีขึ้น หรือเราอาจจะมองได้ว่า สมองของคนสูงอายุ "ต่างไป" จากคนหนุ่มสาว
3
และหนึ่งในสิ่งที่สมองคนสูงอายุต่างไปแล้วทำให้การรับรู้ หรือการมองโลกต่างไป ก็คือเรื่องของความสุข
1
คนหนุ่มสาวโดยทั่วไป มักจะมีความสุขเมื่อได้พบประสบการณ์ชีวิตแปลกๆ ใหม่ๆ เช่น เดินทางไปในที่ใหม่ๆ ได้ไปต่างประเทศ ได้ลองกินอาหารใหม่ๆ ได้สิ่งของใหม่ๆ เจอคนใหม่ๆ
1
แต่สมองคนสูงอายุ มักจะหาความสุขกับสิ่งธรรมดาๆ ที่เห็นเป็นปกติในชีวิตประจำวันทั่วไปได้ดีกว่าคนหนุ่มสาว เช่น การไปนั่งในสวนที่คุ้นเคย การได้ไปกินข้าวในร้านอาหารที่เคยกินตอนหนุ่มสาว การได้ทำอาหารให้ลูกหลานกินในบ้านตัวเอง ก็ทำให้มีความสุขได้
3
ที่เป็นเช่นนั้น เพราะสมองของคนหนุ่มสาวยังไม่มีความทรงจำ ประสบการณ์หรือเรื่องราวดีๆ ใหม่ๆ สะสมไว้มากเพียงพอที่จะเรียกมาใช้เพื่อให้ระบบความสุขทำงาน
1
แต่คนสูงอายุ มีแนวโน้มที่จะความทรงจำดีๆ เก่าๆ มากมายให้นึกถึงกับเหตุการณ์ สถานที่หรือชีวิตประจำวันธรรมดาๆ
ตอนที่ผมได้อ่านเกี่ยวกับงานวิจัยทางจิตวิทยาเรื่องนี้ ผมก็นึกย้อนไปถึงเรื่องราวหลายปีก่อน สมัยที่ผมเพิ่งจะจบหมอใหม่ๆ
มีคุณยายท่านหนึ่ง ลูกสะใภ้พามาตรวจที่โรงพยาบาล หลังการตรวจเสร็จสิ้นก่อนที่จะคุณยายและลูกสะใภ้จะออกจากห้องตรวจ ลูกสะใภ้ก็หันมาพูดกับผมว่า
4
คุณหมอ ช่วยเตือนคุณแม่ให้หน่อยสิคะ คุณแม่ชอบแอบขึ้นรถไปซื้อขนมที่ตลาดคนเดียวตลอดเลย ลูกหลานห้ามก็ไม่ฟัง คุณแม่เดินก็ไม่แข็งแรง หูก็ได้ยินไม่ชัด กลัวว่าจะเป็นอันตราย หนูบอกว่าจะไปซื้อให้ก็ไม่ยอม เผลอทีไรก็ออกไปเอง
2
ก่อนที่ผมจะพูดอะไร คุณยายก็หันมาพูดกับผมว่า ยายแก่แล้ว ปวดนู่นนี่ไปหมด ร่างกายมันไม่ได้สุขสบายอะไร ให้อยู่นานไปมันก็ไม่ได้มีความสุขอะไร แต่ถ้าจะมีชีวิตอยู่ก็อยากดูแลลูกหลาน ขนมที่ไปซื้อ ก็ซื้อมาให้หลาน ตอนพ่อมันยังเด็กยายก็ทำขนมนี้ให้กินเหมือนกัน
(ผมจำรายละเอียดคำพูดจริงๆ ไม่ได้เลยนะครับ แต่ใจความกับอารมณ์บทสนทนามันก็ออกประมาณนี้ครับ)
ฟังแล้วเราก็เข้าใจทั้งคุณยายและลูกสะใภ้ ใช่ไหมครับ?
ตัวลูกสะใภ้เองก็กังวลเพราะอาจจะโดนญาติพี่น้องหรือคนอื่น ต่อว่า หาว่าไม่ยอมดูแล ปล่อยให้คุณแม่ต้องลำบากไปซื้อเอง แต่ตัวคุณยายเองกลับมองต่างไป ตอนลูกยังเด็กเคยทำขนมให้ลูกกิน ทุกวันนี้ทำไม่ไหวแล้ว ที่พอจะทำได้ก็คือการออกไปซื้อขนมให้หลาน
2
คนอื่นไปซื้อมาให้มันก็ไม่เหมือนกับการไปเดินทางไปเลือกซื้อมาด้วยตัวเอง
1
กิจกรรมเล็กน้อยที่สุดแสนจะธรรมดาในสายตาลูกหลานนี้ มันไม่ใช่ความลำบาก แต่สำหรับคุณยายมันคือความสุขของการมีชีวิตอยู่
7
งานวิจัยเล็กๆ ธรรมดาแบบนี้ บางครั้งมันก็ช่วยเตือนใจเราเหมือนกันใช่ไหมครับ หลายครั้ง เราลงทุนลงแรงพยายามที่จะทำอะไรที่มันพิเศษมากๆ ให้กับญาติผู้ใหญ่ เราลำบากเก็บเงินเพื่อพาไปเที่ยวต่างประเทศ หรือพาไปกินอาหารแพงๆ
1
แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประสบการณ์แปลกๆ ใหม่ๆ เหล่านั้น อาจไม่มีผลต่อความสุขที่เพิ่มขึ้นสักเท่าไหร่
3
ยิ่งถ้าเราไม่เข้าใจตรงนี้ เราเองเสียอีกที่อาจจะผิดหวังว่า อุตส่าห์พยายามตั้งมากมาย แต่ทำไมท่านกลับไม่ตื่นเต้นหรือสนุกกับมันเลย
1
เพราะแท้ที่จริงแล้วสิ่งสำคัญที่ทำให้คนสูงอายุมีความสุข อาจเป็นแค่การได้ใช้เวลาร่วมกันกับลูกหลาน เพื่อทำสิ่งธรรมดาๆ เหมือนที่ทำกันตอนที่เราเป็นเด็กๆ เท่านั้นเอง ...
10
ก็หวังว่าบทความอ่านแล้วจะทำให้เข้าใจความสุขของคนสูงอายุมากขึ้นนะครับ
1
ถ้าสนใจหนังสือเกี่ยวกับการทำงานของสมอง จิตวิทยาและอารมณ์ แนะนำหนังสือ 500 ล้านปีของความรัก เล่ม 1 - 2
#หนังสือเบสท์เซลเลอร์ #ได้รางวัล7booksAward
สามารถสั่งซื้อได้ที่
👉 Line My Shop : https://bit.ly/3Nifwmy
โฆษณา