12 ส.ค. 2022 เวลา 09:00 • บ้าน & สวน
เช็คลิสต์ บริการหลังการขาย ที่ต้องมี ก่อนตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์
หากเรามีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลที่อยู่อาศัยของเราให้ดูน่าอยู่ไม่ต่างจากวันแรกที่ซื้อ และไม่ปล่อยมือเราแม้ในวันที่ประกันบ้านหมดอายุแล้วก็ตาม มาดูกันว่า Check-list ที่เราต้องดูในเรื่องของบริการหลังการขายควรมีอะไรบ้าง?
  • ชื่อเสียงและนโบายของบริษัทในด้านบริการหลังการขาย
เริ่มต้นจากการเสิร์ชชื่อบริษัทผู้ผลิตโครงการในด้านบริการหลังการขายเพื่อดูฟีดแบคของผู้ที่อยู่อาศัยจริงว่าได้รับการดูแลอย่างไร เมื่อลูกค้าแจ้งปัญหา ทีมดูแลหลังการขายเข้าไปดูแลล่าช้าไหม? และช่วยแก้ไขปัญหาได้จริงไหม?
รวมไปถึงนโยบายของบริษัทในด้าน ‘บริการหลังการขาย’ ว่าบริษัทให้ความสำคัญในด้านนี้มากน้อยเพียงใด และยิ่งหากมีแนวโน้มที่จะพัฒนาบริการให้ดีขึ้นต่อไปไปในอนาคต ก็ถือเป็นบริษัทผู้พัฒนาแบรนด์อันดับต้นๆ ที่เราควรเลือกซื้อ
  • มีทีมนิติบุคคลผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล
หากเราเลือกโครงการที่มีชื่อเสียงในด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่พร้อมด้วยประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มายาวนาน จะมีข้อได้เปรียบที่เข้าใจในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ และมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ลูกค้าพึงพอใจอยู่เสมอ
โดยหลักแล้วทีมนิติบุคคลของโครงการจะทำหน้าที่บริหารจัดการค่าส่วนกลาง เพื่อซ่อม บำรุงรักษา ทรัพย์สินส่วนกลางให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย สวยงามพร้อมใช้งาน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการให้ใกล้เคียงกับวันแรกที่เข้ามาอยู่ให้ได้มากที่สุด
ดังนั้นการมีทีมนิติบุคคลที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนี้โดยเฉพาะจะทำให้พื้นที่ส่วนกลางน่าใช้งาน และสามารถจัดกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ได้ตรงตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัยได้
  • มีช่องทางติดต่อที่รวดเร็วและไม่ยุ่งยาก
ปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่สามารถเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด หากวันหนึ่งเกิดปัญหาท่อประปาแตก น้ำไม่ไหล ไฟฟ้าลัดวงจร คงทำให้ผู้อยู่อาศัยใช้ชีวิตในบ้านอย่างลำบากไม่น้อย
ดังนั้นอีกหนึ่งเช็คลิสต์ที่ควรมีในการเลือก บริษัทที่ให้บริการด้านบริการหลังการขายที่ดี คือ ช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย มีพนักงานคอยซัพพอร์ตตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้เราได้อุ่นใจขึ้นว่าจะได้รับคำแนะนำที่ดี และมีผู้ช่วยแก้ไขปัญหาให้เราได้แบบไม่ต้องกังวลใจ
  • แพลตฟอร์มที่ซัพพอร์ตความต้องการลูกค้าอย่างรู้ใจ
ในยุคนี้ เทคโนโลยีถือว่าเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในชีวิตประจำวันของเรา เทคโนโลยีที่ทำให้ที่อยู่อาศัยของเราน่าอยู่ขึ้นคงหนีไม่พ้น ‘Smart Home’ เทคโนโลยีสุดสมาร์ทที่ทำให้บ้านฉลาด ผู้อยู่อาศัยสบายขึ้นใช่ไหมล่ะครับ
นอกจากจาก Smart Home แล้วที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ช่องทางการดูแลหลังการขาย บน Application เดียวที่ให้เราสามารถแจ้งปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในบ้านได้ รวมไปถึง ‘การดูแลบ้านก่อนที่จะเกิดปัญหาบานปลาย’ เองก็เป็นเรื่องที่เราควรหมั่นให้ความสำคัญอยู่เสมอ
เช่น Ruejai App ที่มีบริการเรียกผู้เชี่ยวชาญทั้งในด้านการทำความสะอาด, ดูแลสวน, ตรวจสอบสภาพสายไฟ เพื่อให้เราได้ป้องกันก่อนปัญหาจะมาถึง และแก้ไขได้อย่างทันถ้วงทีครับ
การเลือกซื้อบ้านจาก ‘บริการหลังการขาย’ ที่ดี ก็คือการยืดระยะเวลาให้กับบ้าน หรือคอนโด รวมไปถึงสภาพแวดล้อมในโครงการของเราให้น่าอยู่ขึ้นไปอีก และส่วนสำคัญที่สุดของเรื่อง ‘บริการหลังการขาย’ คือ บริษัทผู้ผลิตโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เราเลือก
ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการดูแลโครงการ และเข้าใจความต้องการของลูกค้า อีกทั้งยังมีแนวโน้มว่าในอนาคตจะพัฒนาบริการหลังการขายให้มีประสิทธิภาพต่อไปในอนาคตอีกด้วย
โฆษณา