12 ส.ค. 2022 เวลา 11:17 • ครอบครัว & เด็ก
วันแม่ เล่าถึงแม่พอกรุบกริบ....
แม่เป็นผู้หญิงที่ไม่ได้เรียนอะไรมาก
คล้ายกับผู้หญิงยุคก่อนหลายๆคน และไม่ได้โตมาในครอบครัวแบบอบอุ่นในฝัน แต่เพราะชีวิตแม่ที่ไม่อบอุ่น แม่จึงตั้งใจว่า แม่จะเลี้ยงลูกให้อบอุ่น
แม่เป็นคนช่างสังเกต ช่างคิด และหัดทำอะไรใหม่ๆด้วยตัวเองเสมอ แม่เป็นผู้หญิงเก่งในสายตาเรา....
เพราะแม่เป็นแม่บ้าน ทุกอย่างพ่อดูแล แม่จึงสอนลูกสาวว่า โตขึ้นดูแลตัวเองให้ได้ อย่าต้องขอเงินผู้ชายใช้ ...(แต่เราจะริบ 😆😆😆)​
แม้พ่อจะดูแลแม่อย่างดี ให้ทุกอย่างตามฐานะ ไม่เคยตำหนิหรือว่าให้เสียใจ แต่แม่คงหมายถึงความภาคภูมิใจ
หลายครั้งที่เราเห็นแม่เรียนรู้และทำอะไรใหม่ๆด้วยตัวเอง
อาหารที่ทานแล้วอร่อย แม่ลองเอามาแกะสูตรทำที่บ้าน
เสื้อผ้าแม่ตัดให้ลูกๆใส่เอง ลูกมีเสื้อผ้าใส่ด้วย ประหยัดด้วย เด็กสามคน ใส่ชุดลายเดียวกันจากผ้าพับเดียวกัน จากฝีมือคนตัดคนเดียวกัน
เวลาผมยาว สมัยก่อนไม่เคยได้เข้าร้านเลย
แม่เป็นช่างตัดผมประจำตัว ฝีมือตัดผมแม่คือ ผ่านเกณฑ์โรงเรียนร้อยเปอร์เซ็นต์​รับรองคะแนนความประพฤติไม่มีทางโดนหัก
หน้าม้า เหนือคิ้ว ด้านข้างเห็นติ่งหู...
ทรงกะลาครอบชัดๆ
ตอนเล็กแม่เลี้ยงลูกเองทุกคน อาหารสามมื้อ เสื้อผ้า ที่หลับที่นอน ทุกอย่างที่เป็นความสุขสบายและความปลอดภัยของลูกแม่ดูแลให้ทั้งหมด แม่ตื่นก่อน นอนทีหลัง และไม่ปล่อยให้ลูกตื่นสาย...
มีเวร่ำเวลา
เพราะแม่ต้องรับมือกับเด็กสามคน อย่าบอกเรื่องไม่โดนตี เอาแค่จะวิ่งหนีกันทันหรือเปล่า ต้นไม้คือที่หลบไม้เรียวแม่แบบสนุก ตื่นเต้นที่สุดแล้ว
ตอนเราโดนยุงกัดที่สวนแล้ว ผื่นขึ้นตามแขนขา ถามแม่ว่า ตอนเล็กๆโดนยุงกัดเป็นแบบนี้มั้ย
แม่ตอบว่า.... ตอนเด็กๆฉันไม่เคยปล่อยให้แกโดนยุงกัด...
ซึ่ง... แม้จะจำไม่ได้แต่คิดว่า น่าจะใช่จริงๆ เพราะ แม่เคยพูดตลอดว่า
แม่ขอโทษนะ แม่ไม่รู้จริงๆว่าพวกมด พวกแมลงเอาแป้งฝุ่นเด็กไล่ได้ แม่ก็คอยแต่จุดยาไล่มัน ไม่รู้ได้สารพิษกันไปหรือเปล่า แม่ขอโทษ.. เราเคยได้ยินแม่พูดแบบนี้สองสามครั้ง แกนึกโกรธมดที่มาตอมลูกแกตอนเด็กๆจนต้องคอยไล่กัน
.... ที่แม่พูดไม่ใช่ไม่โดนกัดเลย แต่เขาคงตั้งใจปกป้องมาก
มีอีกคำถามที่เราเคยถามแม่ เราถามไปเมื่อสองอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เอง...
ทำไม แม่ปล่อยให้เราและน้องๆเขียนฝาบ้านลายพร้อยได้ทั้งหลัง เขียนจริงจัง พ่อแม่ไม่ว่าอะไรสักคำ...แม่รู้ไหม มันเป็นการเลี้ยงที่ทันสมัยมากนะ ทำไมแม่กล้าปล่อยลูกทำเลอะแบบนั้น
คือนึกถึงบ้านหลังที่เคยอยู่สมัยเด็กๆ เราเป็นเด็กที่ชอบขีดเขียนฝาบ้านมาก เขียนตั้งแต่จับดินสอได้ ฝาบ้านก็ลายทันที เขียนตั้งแต่สามสี่ขวบ จนเริ่มขึ้นประถมสอง ถึงได้เลิก
เขียนทุกอย่างที่อยากเขียน ขีดมั่วๆ วาดรูป หัดเขียนเลข หัดเขียนกอไก่ ทุกสิ่งในหัวถูกระบายลงบนฝาบ้าน ฝาบ้านลายทั้งหลัง หาที่ดีไม่ได้เลย เลอะไปตามระดับความสูง พอน้องโตก็เป็นเขียนตามกัน สามคนพี่น้องยืนเรียงกันเขียน ไม่เคยถูกตี ถูกบ่นเลย
1
นี่บ้านอื่น ฝาบ้านเราตอนเด็กๆเลอะกว่านี้เยอะมากๆ หาที่ว่างไม่ได้เลย ค่อยๆเลอะขึ้นตามลำดับความสูง
แม่ตอบว่า ให้ซนที่ฝาบ้านปลอดภัยกว่าไปซนที่อื่นไหม งานบ้านแม่ก็ต้องทำ แกวุ่นวานกับฝาบ้านแม่ก็สบายใจแล้ว พ่อบอกว่า เล่นกันอยู่ในบ้าน ซนในบ้านให้มันซนไปเถอะ ดีกว่าออกไปซนข้างนอก โตมามันก็เลิกเขียนฝาบ้าน ซนอย่างอื่นแทน 😅.. ..
เค้าปล่อยเราซนตามวัยจริงๆนะ
เพราะด้วยความเป็นเด็กที่แม่เลี้ยงเอง ในขณะที่แม่ต้องดูแลงานบ้าน และงานอื่นทุกอย่าง ปลูกผัก ทำสวนครัวก็ใช่ เวลาพ่อออกไปทำงานเราอยู่กับแม่เต็มๆ เราจึงถูกเลี้ยงแบบโตไปกับแม่ แม่ทำอะไรทำด้วย ปลูกผัก ทำสวนครัว ไปตลาดกับแม่
แม่บ่นตลอดว่า ซนเหลือเกิน สองสามขวบพอเดินได้ แม่กวาดบ้านก็กวาดด้วย ถูบ้านก็ถูด้วบซักผ้าซักด้วย ล้างจานล้างด้วย เล่นน้ำเลอะเทอะ ทำกับข้าว เด็ดผัก หั่นผัก จับตะหลิว เจียวไข่ กิจวัตรของแม่ทุกอย่าง เราจะทำคู่ไปด้วย และแม่จะใช้ให้ทำมากขึ้นตามกำลังตามวัย เล็กๆแม่ให้แค่นี้ โตขึ้นมางานเดิมแม่ให้ทำมากขึ้นๆ จนทำได้เอง แม่จะปล่อยทำเอง
อยู่ป.6 ก็ทำงานบ้านได้ทุกอย่างพอดี จันทร์ถึงศุกร์ อาจช่วยงานบ้านนิดหน่อยหลังเลิกเรียน เพราะมีภาระหน้าทีเรื่องเรียนด้วย แต่ก็ต้องงานบ้านเสร็จ แม่เรียกใช้จนเลิกเรียกเราถึงจะได้นั่งทำการบ้านแบบสบายใจไปยาวๆ เป็นแบบนี้จนโต เขามหาวิทยาลัย...แม่เลิกเรียกใช้ตอนอ่านหนังสือตอนเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว
1
เสาร์อาทิตย์งานบ้านเสร็จถึงเล่นได้
พอเรียนจบทำงานแล้วเลย ได้ถามแม่ว่า ทำไมตอนเด็กๆเรียกใช้จัง ทำการบ้าน อ่านหนังสือต้องเรียกใช้ทำงานบ้าน ให้ทำกับข้าวช่วยตลอด แทนที่จะปล่อยลูกอ่านไปยาวๆ
แม่ตอบว่า กลัวลูกเครียด เรียนหนักแล้ว อ่านแต่หนังสือ ทำอย่างอื่นบ้าง พักสมอง เค้าเลยเรียกให้มาช่วยทำกับข้าวทุกวันตอนเย็น กับข้าวแม่ไม่เสร็จการบ้านไม่เป็นอันได้ทำดีๆ 😆
สุดท้ายกลายเป็นความคุ้นเคยกับงานบ้านที่แม่มอบหมายให้ตามวัย
แม่ให้ความสำคัญกับอาหารของลูกมาก
แม่ทำให้เอง แม่จะไม่ปล่อยให้ลูกไปทานอาหารบ้านคนอื่น ถ้าไปคือไปพร้อมพ่อแม่ในโอกาสพิเศษ แม่บอกว่า ช่วงทานข้าวคือช่วงสำคัญ ได้พูดคุย ได้สอนกัน กินข้าวบ้านอื่นก็คุ้นมือคนอื่น ลูกเราให้เขาคุ้นเรา เราจะได้สอนได้ ทำกับข้าวให้ลูกกิน ลูกจะได้อบอุ่น....
ภาพของแม่ที่คอยตามกลับมาให้ทานข้าวบ้าน ทั้งตะโกน ทั้งเรียกเมื่อถึงเวลาอาหารทุกครั้ง ทุกมื้อที่อยู่บ้าน เราไม่ได้ทานอาหารบ้านคนอื่นจริงๆ ไปวิ่งเล่นไกลแค่ไหนก็ต้องหิ้วท้องกลับมาทานข้าวบ้าน
วิ่งไปเล่นบ้านเพื่อนได้ แต่เที่ยงและเย็นต้องกลับมาทานข้าวบ้าน กลับมาให้แม่เห็นหน้า หาอาหารให้ แล้วถามว่าไปทำอะไรมา เล่นที่ไหนมาบ้าง และจะไปไหนอีก
อิ่มแล้วก็ออกไปเล่นต่อ พร้อมกับคำเตือนแม่ ห้ามไปเล่นน้ำในหนองน้ำ ในสระเด็ดขาด ห้ามตามคนแปลกหน้าไป ระวังงู
การทำกับข้าวของแม่ คือการบอกรัก
จนมาเรียนต่อหมอเด็ก.... แม่คือตำราพัฒนาการเด็กเล่มแรก ความน่าเบื่อของการอ่านและท่องให้จำ กับการเป็นคนที่ไม่เคยมีลูก ง่ายที่สุดคือถามแม่ว่า...
แม่ๆ หนูเริ่มจ้องหน้าแม่ตอนกี่เดือน อ้อแอ้ได้ตอนไหนเหรอ หัวเราะเมื่อไหร่ คว่ำได้ตอนไหน บลา บลา บลา สนุกที่สุดคือคุยเรื่องของตัวเอง ถามแล้วเปรียบเทียบกับตำรา อืมมม ใช่นะ ....
แม่.... จำได้ทุกอย่างที่เป็นเราตั้งแต่ตั้งท้อง เริ่มเจ็บท้องคลอด และตอนที่คลอดออกมาแรกๆ ทุกอย่างที่เป็นเรา แม่เก็บไว้ในความทรงจำ
แม่ทำให้การจำพัฒนาการเด็กไม่น่าเบื่อ
น้อยมากในชีวิตที่เราจะทะเลาะกัน แต่ก็มี ถ้าเราทำแม่เสียเราใจ เราก็เสียใจ และสุดท้ายเราก็ต้องปรับความเข้าใจกัน ขอโทษกัน แม่คือคนที่เราต้องแคร์
เวลาที่ไม่สบาย แม่ไม่เคยได้นอนตั้งแต่จำความได้ตอนเด็กจนโต เขาเป็นคนแรกที่มักจะรู้อาการไม่ปกติของเราแม้เราจะปกปิดไว้ แม่มีลางสังหรณ์​ของแม่เสมอ... แม่นซะด้วย
ในวันที่เราโตแล้ว แล้วสองมือนี้ยังคอยเช็ดตัวให้เราในวันที่ไม่สบาย ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เต็มที่ สองมือที่โอบอุ้มเราตั้งแต่วันที่เราเกิด และไม่เคยรังเกียจที่จะโอบอุ้มเราจนลมหายใจสุดท้ายของเขา... นี่คือสองมือของแม่
2
แต่ละคนมีแม่ อาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนกัน เราเลือกแม่ของเราไม่ได้ เราเลือกไม่ได้ว่าเราอยากเกิดกับใคร แม่แบบไหน
แต่เราเลือกได้ว่าเราจะเป็นแม่แบบไหน....
แม่แบบที่เรารัก แม่แบบที่เราอยากพบเจอ ขอให้มีในตัวเรา....
2
สำหรับผู้หญิง หน้าที่ภรรยาไม่ใช่เรื่องง่าย เหนื่อย ต้องอดทน แต่หน้าที่แม่ยิ่งใหญ่ เหนื่อยและยากที่สุด
ความเป็นแม่เกิดขึ้นพร้อมๆกับลูก และเติบโตไปด้วยกัน ลูกอายุ 1 วัน ความเป็นแม่ก็ 1 วัน ลูก 1 ขวบ ความเป็นแม่ก็ 1 ขวบ ลูกคนเดียวก็แม่ของลูกคนเดียว ลูกสองคนก็แม่ของลูกสองคน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตลอด.... แต่ละช่วงเวลา เงื่อนไขของชีวิตเราเปลี่ยนเสมอ
1
ฉะนั้นอย่ากังวลว่าเราจะเป็นแม่ที่ดีพอหรือเปล่า เราเป็นแม่ที่ดีพอหรือยัง เป็นแม่ที่ผิดพลาดไหม เรื่องนี้เจอบ่อยเป็นความทุกข์ของแม่ที่ตั้งใจ
 
ขอแค่เราเรียนรู้และเติบโตไปกับลูกอย่างมีความสุข ก็พอแล้วค่ะ
1
แม่ งานที่ไม่ง่ายเลย แต่ก็เป็นงานที่น่าภาคภูมิใจที่สุดของผู้หญิงที่ได้มีโอกาสนี้.... แม่ คือการสร้างคน
1
ขอให้กำลังใจมนุษย์แม่ทุกๆคนนะคะ 😊🥰
ปล.วันแม่ปีนี้ ลูกเพื่อนเริ่มเป็นสาวกันหลายคนแล้วค่ะ เด็กๆโตเร็วจริงๆ เพิ่งเห็นว่าหัดคว่ำหัดเดิน แป๊บๆ โต สวย จะเป็นสาวกันแล้ว 😊
โฆษณา