13 ส.ค. 2022 เวลา 19:23 • ความคิดเห็น
อกหักเป็นครั้งแรกของนักซึมเศร้า
  • รักษาโรคมาแล้ว 9 ปี
  • เป็นฝ่ายถูกขอเลิก
  • แฟนคนแรก คบกันมา2ปี
  • เราอายุประมาณ 3x
ใครๆก็ชอบทำเหมือนคนเป็นซึมเศร้าเป็นพวกรับมือยาก แต่จริงๆไม่น่าใช่หรอก เราก็มีสติแบบปกติ เราแค่ต้องมีวินัยกับสุขภาพมากๆ แม้ในยามที่ยากจะทำ เช่น อกหัก ดังนั้นการมีเพื่อนที่ช่วยดึงเรามาทำกิจวัตรต่างๆจึงเป็นสิ่งที่ดี
นักซึมท่านหนึ่ง
อาการเหมือนคนอกหักทุกคนที่เราเคยได้ยินมา (ข้อดี)ก็คือการเป็นโรคไม่ได้มีส่วนอะไรกับโรค ไม่เหมือนกับคนเป็นธาลัสซีเมียที่คนเป็นโรคจะส่งผลหากมีบุตร ในกรณีของซึมเศร้าไม่มีอะไรเกี่ยวข้อง
(ข้อเสีย)เวลาที่อดนอนเพราะคิดถึงใครมากๆเป็นเวลานานเกินไป มันจะทำให้สุขภาพแย่ลง และจะส่งผลให้อาการซึมเศร้ากำเริบ, การที่คนอกหักมีสไตล์แบบชอบนั่งกะทือหมดอาลัยตายอยากไม่เป็นอันทำอะไรนี่แหละที่ก็ส่งผลลบต่อสุขภาพโดยรวมจนร่างทรุด
ฉันรอดมาได้เพราะ
1.ที่ให้ระบาย ตอนแรกฉันไม่อยากบอกบางคนที่สำคัญอย่างเช่น แม่ แต่สุดท้ายก็จำใจต้องบอก แม่ของฉันก็ตีโพยตีพายเพราะเป็นห่วงลูกสาวและเอาแต่ถามเรื่องราวจากฉันทั้งๆที่ฉันไม่พร้อม จนฉันทนไม่ไหวและบอกกับแม่(พร้อมทั้งปล่อยโฮขึ้นมาทันทีทันใด)ว่า"หนูขอได้ไหม ขอแค่ให้หนูได้ร้องไห้ เพราะตอนนี้หนูอยากจะร้องให้ตายไปเลย ได้โปรดให้หนูได้ร้องให้เถอะนะ! " แม่ตกใจมาก และบอกว่าขอโทษที่ไม่ฟังอะไรเลย จากนั้นแม่ก็กลายเป็นแม่ที่พร้อมซัพพอร์ตฉันตั้งแต่นั้น
2.ที่ปรึกษา ฉันมีเพื่อน 1 คน เป็นคนไม่ตัดสิน ไม่อคติ เมื่อปรึกษาเพื่อนคนนี้จะไม่เอาแต่หาคนที่ผิด และไม่เข้าข้างฝ่ายไหน ทำให้ฉันได้เห็นในข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และถึงแม้ความจริงมันจะเจ็บปวด เพื่อนก็ยังจะบอกโดยไม่ปิดบังอยู่ดี แต่พอเห็นฉันเริ่มร้องไห้ ก็จะปล่อยให้ฉันได้ร้องออกมา
3.วันหยุด การพักผ่อน พบแพทย์
มันจะโชคดีมากถ้าคุณได้มีวันให้หลบไปร้องไห้คนเดียว และการไปหาหมอช่วยได้มากจริงๆ ในเคสของฉัน ฉันได้ไหหาหมอบอกหมอว่าอกหักมา(หมอทำหน้าเฉยๆ) บอกหมอว่านอนไม่ได้เลย (หมอบอกว่าการได้นอนนั่นสำคัญ หมอจ่ายยาที่ช่วยตัดกังวลให้ได้นะ และบอกให้ฉันปล่อยให้ตัวเองได้ร้องไห้ไปเหอะเพราะเป็นเรื่องธรรมดา)
4.ฉันตัดช่องทางโซเชียล
ยิ่งเห็นก็ยิ่งทำใจไม่ได้ ฉันเลยลบแอพเฟสบุ้ค ปิดแมสเซนเจอร์ และพยายามไม่โคจรไปในที่ที่เคยมีความทรงจำด้วยกัน ถ้ามีกิจกรรมอื่นๆให้ทำก็ทำเลยคงจะดี แต่ในกรณีของฉัน ฉันไม่มีกะจิตกะใจจะทำด้วยซ้ำ ฉันคิดว่าฉันคิดถูกที่ปิดช่องทางสื่อสาร ไม่งั้นคงแย่กว่านี้
5.ฉันเขียน
ฉันเขียนว้อทเอฟเวอร์ ลงในสมุด เขียนทุกอย่างเรื่อยๆอย่างไม่มีแบบแผน ความรู้สึก ขีดๆ กาๆ วาดแล้วลบ รู้สึกอะไรเขียนไปหมดเลย เขียนไปร้องไห้ไป บางทีการเขียนมันก็ทำให้เห็นความจริงอะไรขึ้นมา แต่ถ้าไม่อย่างน้อยมันก็ได้ผ่อนคลายระบายออกมา ฉันว่ามันดีถ้าเราพิมพ์ลงโซเชียลเราจะกลับไปแก้ไขมันได้ยาก สมุดแม้จะเป็นหลักฐานแต่ฉันก็แอบคิดอย่างเจ้าเล่ว่าถ้ามีคนมาเห็นคงดีไม่น้อยเหมือนกัน เขาจะได้รู้ว่าฉันกำลังเป็นทุกข์ จะได้ช่วยระวังจิตใจฉันหน่อย
สถานการณ์ปัจจุบันของฉัน
ใครๆก็ชอบทำเหมือนคนเป็นซึมเศร้าเป็นพวกรับมือยาก แต่จริงๆไม่น่าใช่หรอก เราก็มีสติแบบปกติ เราแค่ต้องมีวินัยกับสุขภาพมากๆ แม้ในยามที่ยากจะทำ เช่น อกหัก ดังนั้นการมีเพื่อนที่ช่วยดึงเรามาทำกิจวัตรต่างๆจึงเป็นสิ่งที่ดี
นักซึมท่านหนึ่ง
ตอนนี้ผ่านมา 1 เดือน ก็ยังร้องไห้อยู่ทุกวัน แต่ไม่อยากให้คนที่เลิกราต้องมาชดใช้อะไรให้เราหรอกนะ เพราะเรารู้ว่าคนเจ็บมันเจ็บมาก ความเจ็บไม่สนุกเลย และเราไม่อยากให้คนที่เรารักต้องมาไม่มีความสุข โลกนี้มีคนเจ็บน้อยลงอย่างน้อย 1 คนก็ยังดีกว่ามั้ง
โฆษณา