14 ส.ค. 2022 เวลา 07:25 • ความคิดเห็น
100% ง่ายกว่า 98% เยอะเลย
ผมได้ฟังรายการที่คุณอุ๋ย บุดด้าเบลส สัมภาษณ์คุณแมว จิรศักดิ์ ปานพุ่ม อดีตนักร้องสายร็อคชื่อดัง ถึงประวัติที่ดำดิ่งด้วยการติดเหล้าหนักแล้วเสียครอบครัวไปจนมาหยุดเหล้าได้และค้นพบความสงบจากธรรมะ ฟังแล้วมีแง่คิดมากมาย
4
มีเรื่องหนึ่งที่คุณแมวเล่าไว้แล้วน่าสนใจก็คือตอนที่คุณแมวพยายามจะเลิกเหล้า มีความตั้งใจอย่างเต็มที่ แต่ก็ยังมีคล้ายๆกับคนทั่วไปที่รู้สึกเสียดายประมาณคล้ายๆกับคนที่จะลดน้ำหนักแล้วมี “cheat day” มีแอบติ่งในใจว่านานๆทีละกัน คุณแมวเล่าว่าไอ้นานๆทีนี่แหละพอเหล้าเข้าปากทีไรยิ่งหนักยิ่งกู่ไม่กลับกว่าเดิม ทำอย่างไรก็เลิกไม่ได้ จนในที่สุดคุณแมวก็เลยตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะเลิกแบบไม่หันหลังกลับ ไม่แตะเหล้าอีกเลยไม่ว่าจะเป็นกรณีไหน…แล้วในที่สุดก็เลิกเหล้าได้สำเร็จ
7
อาจารย์เคลยตัน คริสเตนเซน กูรูด้านการจัดการของโลกผู้ล่วงลับไปแล้วเคยกล่าวประโยคหนึ่งไว้ว่า “ 100% commitment is easier than 98%” ซึ่งฟังเผินๆจะดูขัดหูอยู่บ้างเพราะ 98% น่าจะง่ายกว่า 100% อยู่ตามตัวเลข แต่กรณีคุณแมว จิรศักดิ์ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่ดีของเรื่องนี้ เพราะการที่เราตั้งใจแบบ 100% นั้นง่ายกว่าเปิดช่องให้มี 2% ที่ทำให้เราต้องคิดและตัดสินใจเมื่อเหตุการณ์นั้นมาถึงอยู่บ่อยครั้ง
8
เหมือนกับเราตั้งใจจะเลิกเหล้า ลดน้ำหนัก ไม่กินแป้ง หรือทำ IF แต่ก็จะเผื่อมี “cheat day” แล้วเวลาเหล้าเบียร์อยู่ตรงหน้า หรือมีเค้กหน้าตาน่ากินวางอยู่ เราก็จะลังเลและต้องพยายามหักห้ามใจ หลายครั้งก็เผลอมั่วๆนับเป็น 2% หรือ cheat day และก็บ่อยครั้งเช่นกันที่เรื่องเล็กๆที่ดูเหมือนนิดเดียวนั้นทำให้ลามไปถึงเรื่องใหญ่อีก 98% จนเสียความตั้งใจได้ อาจารย์คริสเตนเซนบอกไว้แบบนั้น
3
การที่พยายามจะทำอะไรให้ได้หลักการที่ตั้งใจไว้ 98% ต่างกับ 100% เหมือนกับตัวเลขไม่มาก แต่ในทางจิตวิทยาแล้วต่างกันเยอะมาก เพราะการที่เราตั้งใจ 98% นั้นเป็นการ “แทงกั๊ก” ที่แสดงถึงความไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซนต์ว่าเราเชื่อแบบนั้นหรืออยากเป็นแบบนั้นจริงๆ การตั้งใจลดน้ำหนักเพื่อความผอมสุขภาพดีเป็นตัวอย่างที่ยกทีไรก็เห็นภาพชัดทุกครั้ง การที่เราปล่อยให้มี “บางวัน” หรือบางมื้อที่กินตามใจปากได้นั้น
4
ดร เบนจามิน ฮาร์ดี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาพฤติกรรมบอกว่าจะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “decision fatigue” คือต้องเหนื่อยกับการตัดสินใจอยู่เรื่อยๆ บ่อยครั้งในการคิดว่ามื้อนี้หรืออาหารตรงหน้านี้รวมใน 98% หรือ 2% แล้วเราก็มักจะเอนไป 2% มากกว่าที่เราคิดเสมอ ซึ่งส่งผลทำให้ใครหลายคนกลับไป “ร่างเดิม” หรือเกิด yoyo effect อย่างที่เรียกกันเพราะการที่เราไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์นั้นทำให้อัตลักษณ์ (identity) เราไม่ได้เปลี่ยน แค่พยายามใช้พลังใจสู้กับสิ่งเย้ายวนไปครั้งต่อครั้งเท่านั้น
6
แต่ถ้าเราตัดสินใจแบบ 100% แน่นอนว่าจะยากมากๆในการตัดสินใจได้แบบนั้น ปัญหา decision fatigue ก็จะหมดไป เราจะรู้ทันทีว่าอะไรกินได้หรือกินไม่ได้ในกรณีลดน้ำหนัก เราจะกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่มีอัตลักษณ์ชัดเจนเพราะเราจะเห็นอนาคตของตัวเองทันทีว่าหน้าตาเป็นอย่างไรและเป็นใคร รู้ว่าต้องทำอะไรโดยแทบไม่ต้องคิด
5
ดร ฮารดี้ สรุปถึงความคิดแบบนี้จากคำพูดของไมเคิล จอร์แดน ตำนานบาสเกตบอลของโลกที่เคยกล่าวไว้ว่า “ once I made a decision. I never thought about it again “ พอตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นคนแบบนี้ จะทำแบบนี้แบบ 100% ก็จะไม่คิดถึงมันอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องลดน้ำหนักดูแลสุขภาพที่ตัดสินใจที่จะไม่กินเนื้ออีกเลยเหมือนคุณสุทธิชัย หยุ่นตอนอายุสามสิบกว่าจนสุขภาพดีขึ้นอย่างมากจนอายุเจ็ดสิบกว่าอย่างที่เห็นในตอนนี้ หรือการที่ใส่อะไรจนไม่มีทางถอยอย่างพระเจ้าตากที่ทุบหม้อข้าวให้หมดก่อนตีเมืองจันท์
9
หรือส่วนตัวผมเองที่เคยป่วยหนักจนไม่อยากเป็นแบบนั้นอีก เลยตัดสินใจวิ่งทุกวัน ออกกำลังทุกวันแบบไม่มีหยุดจนปัจจุบัน การใส่แบบ 100% นั้นนอกจากทำให้เราไม่ต้องคิดลังเลอะไรอีกในทุกๆวันแล้ว ยังเปลี่ยนตัวตนเราไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นคนใหม่ที่ทำสิ่งใหม่ที่ไม่เคยทำไปเลย เป็นการสร้าง point of no return experience อย่างแท้จริง
9
แน่นอนว่าการตัดสินใจอะไรยากๆแบบนี้ทุกครั้งนั้น เรามักจะทำเพราะรู้ว่าดีกับตัวเอง หรือเห็นอนาคตของตัวเองที่ดีกว่าปัจจุบัน ถ้าอยากเห็นตัวเองดีขึ้น เป็นอีกคนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ ธุรกิจ หรือความสัมพันธ์ ถ้าเราตัดสินใจจะลุยแล้ว ลองคิดถึงการใส่แบบ 100% แทนที่จะเป็น 98% ดูนะครับ
3
นอกจากจะไม่ต้องเหนื่อยกับ decision fatigue แล้ว ยังจะเปลี่ยน identity ของเราไปตั้งแต่วันแรกที่เริ่มก่อนที่จะเห็นผล และในที่สุดผลลัพธ์ที่ดีที่เราอยากได้ก็จะตามมาและง่ายกว่าใช้ will power เอาพลังใจไปชนะทีละครั้งอย่างแน่นอน
2
มีอะไรค้างในใจ อยากทำแต่ยังไม่ได้ทำ หรือลองทำไปแล้วก็ไปไม่สุด อยากเป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม ลองวิธีเปลี่ยนอัตลักษณ์ด้วยการ commit 100% กันดูนะครับ
3
โฆษณา