สมดุลส่วนต่างพรีเมียม Part 1/2
.
ถ้าเป็นสาย Short มองผลรวมพรีเมียม (SC+SP) แต่สายสาด Spread รัวๆ แบบผม มองส่วนต่างพรีเมียม.. แล้วมองยังไง ดูอะไรได้บ้าง.. ซึ่งจากตรงนี้เป็นประสบการณ์เทรดของผมล้วนๆ นะครับ
จากที่เคยบอกไปหลายครั้งว่า สาย Short จะได้เปรียบเมื่อพรีเมียมสูง เพราะการเทรดได้ผลรวมพรีเมียมที่สูง = กราฟสูงและฐานกว้าง แต่ความได้เปรียบแบบนั้น มักไม่แน่นอน เพราะไม่ใช่ทุกซีรีส์ที่จะมีพรีเมียมสูง เอาจริงๆ หลายรอบหลังๆ พรีเมียมค่อนข้างกลางถึงต่ำมาตลอด (หรือจริงๆ ทุกวันนี้ คือ พรีเมียมปกติก็เป็นได้) ดังนั้น ถ้ามองแบบ Naked Short แล้วอยากกำไรเท่าเดิมหรือมากขึ้น ก็ต้องใช้จำนวนสัญญาเยอะขึ้น = ฐานแคบลงและเหวมากขึ้น = ใช้ Margin มากขึ้น = เสี่ยงเพิ่มขึ้น.. ยังไม่นับว่ามูลค่าพรีเมียมลดลงตามเวลาอีก
แล้ว มองส่วนต่างพรีเมียม ได้เปรียบยังไง? ก่อนไปถึงตรงนั้น.. ในมุมมองผม การเทรดออปชั่นแบบนี้ เราควรมองมันในมุมรายรับและรายจ่าย ดังนี้
[1] มองในมุมการทำธุรกิจ ซึ่งเราควรจะต้องมี รายรับ > รายจ่าย = มีกำไร .. เปรียบได้เสมือนกับทำ Ratio Spread (เช่น LC 1 : SC 2)
[2] มองในมุมรายจ่ายซื้อของประจำวัน ที่ควรซื้อของแบบมีโปรโมชั่นส่วนลด = ประหยัดรายจ่าย .. เปรียบได้เสมือนกับทำ Spread 1:1
เมื่อรายรับ = SC/SP และรายจ่าย = LC/LP จึงเกิดเป็นมุมมองของส่วนต่างพรีเมียม ซึ่งตรงนี้เองที่ผมจะบอกคุณว่า มันมีสมดุลในตัวมันเองในแต่ละซีรีส์ ที่มี %ความต่าง พอๆ กันทุกรอบ ไม่ว่าพรีเมียมรวมจะสูง กลาง หรือต่ำ.. นี่คือความได้เปรียบที่ทำให้เราสามารถเทรดได้ในทุกสภาวะตลาด..
.
แล้วต้องมองยังไง? ก็ดูระหว่าง Strike เลย เน้นแค่โซน Strikes เทรดที่ผมเคยบอกไป (ATM -1 ไป OTM) โดยมองแยกฝั่ง Call และ Put เช่น Call Spread : รับ SC1000 จ่าย LC975 หรือ Put Spread : รับ SP925 จ่าย LP950
ลองไปส่องดูครับว่าเห็นเหมือนกันรึเปล่า? และค่อยมาว่ากันตอนต่อไปว่าแบบไหนเรียก สมดุลส่วนต่างพรีเมียม
.
#zardspreadoptions
#SET50indexoptions #TFEX #Options
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
