19 ส.ค. 2022 เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
สมดุลส่วนต่างพรีเมียม Part 2/2
.
ได้ลองไปส่องส่วนต่างพรีเมียมดูมั้ยครับ? ลองดูรูปที่แนบมากับโพสนี้ดูครับ ว่าเห็นเหมือนกันมั้ย.. แล้วมาดูกันว่าผมมองและใช้มันยังไง
[1] เน้นดูเฉพาะ ATM -1 ไป OTM ของแต่ละฝั่ง Call/Put จากที่เคยโพสเรื่องการเลือกโซน Strikes เทรด (https://www.facebook.com/zardspreadoptions/posts/126759970092419)
[2] จับคู่ Strike ไปเรื่อยๆ โดยเริ่มจาก ATM -1 ไป แล้วดูว่า Strike ถัดไปคิดเป็นกี่ % ของ Strike คู่ตัวเอง
โดยผมจะมองเหมือนเราจ่ายเงินซื้อของแล้วได้ส่วนลด = Spread 1:1 เป็นหลักก่อน.. ดังนั้น ซื้อของได้ส่วนลดมาก = คุ้ม และจากประสบการ์ณผม สมดุลส่วนต่างพรีเมียมในทุกรอบจะอยู่ที่ระดับ 50% ** ให้ยึดเรทนี้ไว้เป็นมาตรฐาน ฟิลประมาณซื้อ 1 แถม 1 นั่นแหละครับ
[รูป 1 ก.ค. – วันที่ 2 ของ U22]
A. ATM 950 : ภาพใหญ่ Sideway Down แต่วันนี้ฟิวเจอร์ดีดขึ้น = Call ขึ้น Put ลง
B. ส่วนต่างพรีเมียมเฉลี่ย Call = 52% และ Put = 62% ดังนั้น ทั้งสองฝั่งยังมีส่วนต่างพรีเมียมที่สมดุล (> 50%)
C. ลงไปดูรายละเอียดฝั่ง Call จะเห็นว่ามี 1000:975 / 1025:1000 / 1050:1025 ที่ < 50% .. ส่วนทุกคู่ของฝั่ง Put นั้น > 50%
ตัวอย่างการวางแผนเทรดจากข้อมูลนี้
[1] ฝั่ง Call ถ้าจำเป็นต้องทำ Spread 1:1 คู่ 975:1000 ยังพอทำได้ แต่ไม่ควรเน้น เพราะเสียเปรียบจากการได้ส่วนลดแค่ 45% (ส่วนต่างพรีเมียมไม่สมดุล) จริงๆ แล้วควรเลือก LC1025 / LC1050 จะได้เปรียบกว่า เพราะให้ส่วนลดต่ำสุดคือ 42% และ 43%
[2] ส่วนฝั่ง Put ถือว่าทำได้ทุกกลยุทธ์ Spread เพราะส่วนต่างยังสมดุล ให้ส่วนลดที่เยอะมาก แต่ก็ควรระวังไว้ว่า วันนี้ตลาดดีดขึ้น = Put ถูก = อย่าโหม SP และควร SP อย่างมีวินัย
[รูป 25 ก.ค. – วีคสุดท้ายเดือน 1 ของ U22]
A. ATM 950 : ภาพใหญ่ Rebound และตลาดดีดขึ้นจาก Bottom แล้ว
B. ฝั่ง Call ยังคงให้ภาพแบบเดิม จะเห็นว่ามี 1000:975 / 1025:1000 / 1050:1025 ที่ < 50% แต่ 1025 และ 1050 ถูกกดลงหนักมาเหลือแค่ 39%
C. ฝั่ง Put ส่วนต่างพรีเมียมเริ่มไม่สมดุล เริ่มมี 850 และ 875 ที่ < 50%
ตัวอย่างการวางแผนเทรดจากข้อมูลนี้
[1] ฝั่ง Call คงมุมมองเดียวกับวันที่ 1 ก.ค. และเลือกทำ LC1025 / LC1050 จะได้เปรียบกว่า
[2] ส่วนฝั่ง Put ถ้าเลือกทำ Spread ให้โฟกัสแค่ 900/925/950 เพราะส่วนต่างพรีเมียม > 50% และทำ LP850 / LP875 ได้เปรียบกว่า
และถ้าสังเกตจากข้อมูล 2 วันของ 2 ช่วงเวลาของซีรีส์ จะเห็นได้ว่าส่วนต่างพรีเมียมจะมีความสมดุลอยู่ช่วงเวลาหนึ่งตามค่า Time ของพรีเมียม ดังนั้น ช่วงที่สมดุลที่สุด คือ เดือนที่ 1 ของซีรีส์ = ช่วงปั้นกราฟ Payoff และเมื่อเข้าสู่เดือนที่ 2 ของซีรีส์ไปแล้ว จึงเป็นช่วงเวลาของการบริหารพอร์ตจากต้นทุนที่เราเซทอัพ Payoff มา ส่วนต่างจะเริ่มเสียสมดุล ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น การใช้กลยุทธ์จะต้องรอบคอบขึ้น
โดยรวมน่าจะพอเห็นภาพในหลักการมองและนำไปใช้กันนะครับ และถ้าสังเกตทุกวันจนชำนาญ คุณแค่มองบนกระดานก็รู้ว่า คู่ Strike ไหนได้เปรียบเสียเปรียบ ควรเทรดแบบไหน โดยไม่ต้องใช้ตารางอะไรมาช่วย
.
#zardspreadoptions
#SET50indexoptions #TFEX #Options

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา