18 ส.ค. 2022 เวลา 03:00 • ความคิดเห็น
วิทยาศาสตร์ว่าด้วย ‘ทำไมความคิดดี ๆ หรือภาวะสมองแล่นของเรามักเกิดขึ้นเมื่อตอนอาบน้ำ’ พร้อมวิธีจุดประกายไอเดีย
.
“คุณไม่มีอะไรให้ทำมากนัก ไม่ได้มองเห็นอะไรมากมาย และมีแต่เสียงสีขาว” (White Noise คือเสียงรบกวนที่ไพเราะน่าฟัง สร้างความสงบให้กับจิตใจ โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นเสียงธรรมชาติเช่นฝนตก หรือเสียงสายน้ำไหล) จอห์น คูนอยส์ (John Kounios) นักประสาทวิทยาด้านความรู้ความเข้าใจและผู้อำนวยการห้องวิจัยความคิดสร้างสรรค์ (Creativity Research Lab) จากมหาวิทยาลัยเดรกเซล์ในฟิลาเดลเฟียกล่าว
.
หากคุณเคยมีไอเดียหรือความคิดดี ๆ ตอนเวลาอาบน้ำหรือหลังจากการพาสุนัขไปเดินเล่น สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่สามารถอธิบายได้โดยวิทยาศาสตร์ ซึ่งเริ่มจากการวิจัย ‘เครือข่ายโหมดเริ่มต้น’ ในสมอง (The Default Mode Network : DMN) มันคือรูปแบบการทำงานของสมองชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นขณะที่บุคคลกำลังพักผ่อนหรือทำงานตามปกติที่ไม่ได้คิดแก้ปัญหาหรือการตัดสินใจมากนัก กระตุ้นให้เกิดการเชื่อมต่อการทำงานของสมองส่วนต่าง ๆ ที่ไม่ได้ใช้งาน
.
“เมื่อคุณไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับการแก้ปัญหาใด ๆ สมองจะหมุนไปเรื่อย ๆ และสามารถจัดโครงสร้างองค์ประกอบของปัญหาขึ้นมาใหม่ ส่วนต่างๆ ทางความคิด (ในปัญหา) จะถูกสลับสับเปลี่ยน และบางอย่างก็คลิกกันได้ ช่วยให้คุณรวบรวมข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ ขึ้นมาใหม่รวมทั้งจำลองความเป็นไปได้ของปัญหานั้น ๆ” คูนอยส์กล่าว
.
ขณะที่โจนาธาน สคูลเลอร์ (Jonathan Schooler) นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย กล่าวเสริมว่า “DMN ดูเหมือนจะเป็นแหล่งของความคิดสร้างสรรค์ อันที่จริงแล้วการศึกษาที่เผยแพร่ใน Human Brain Mapping ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2022 พบว่าการฝันกลางวันเชิงบวกอันมีลักษณะที่สร้างสรรค์ (คือการวางแผนสร้างความคิดที่น่าพึงพอใจ ภาพที่สดใส และความอยากรู้อยากเห็น) เกี่ยวข้องกับกิจกรรมใน DMN”
.
‘การเหม่อลอยนั้นมีประโยชน์’ ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม เราทุกล้วนแต่ ‘เหม่อลอย’ อยู่เป็นประจำ งานวิจัยระบุว่าเกิดขึ้นร้อยละ 47 ของเวลาทั้งหมดในแต่ละวัน สิ่งนี้ทำให้สมองสร้างความคิดใหม่ ๆ ผ่านกระบวนการเชื่อมโยงที่อยู่ในจิตใต้สำนึก
.
“เมื่อจิตใจของคุณหลุดลอยไปสู่อาการ ‘เหม่อลอย’ ในสภาพที่น่าพึงพอใจนี้ คุณกำลังปล่อยให้ความคิดได้โลดแล่นอย่างสนุกสนาน” สคูลเลอร์กล่าว เขาได้ทำการศึกษาหนึ่งซึ่งขอให้นักเขียนมืออาชีพและนักฟิสิกส์จดบันทึกเกี่ยวกับเวลาที่เกิดความคิดสร้างสรรค์ที่สุดของพวกเขาภายในวันนั้นเป็นเวลา 2 สัปดาห์
.
ซึ่งพบว่าช่วงเวลา ‘อะฮ่า(Aha)’ (หรือปิ๊งไอเดีย) นั้นเกิดขึ้นขณะที่พวกเขากำลังทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การทำงานหรือกิจกรรมที่ไม่ต้องใช้ความคิดมากนัก ดังนั้นหากคุณต้องจุดประกายความคิดสร้างสรรค์แล้ว คูนอยส์ กล่าวว่า ขั้น
ตอนแรกคือการนอนหลับที่มีคุณภาพ จะช่วยให้คุณจัดการกับอารมณ์และช่วยให้ความจำของคุณดีขึ้น “ข้อมูลที่คุณรับในระหว่างวันจะเปลี่ยนจากสภาพชั่วคราวไปยังเป็นสถานะที่คงทนมาขึ้น ซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ต่อไป” คูนอยส์กล่าว เมื่อตื่นจากการพักผ่อนที่เต็มที่ นั่นคือช่วงเวลาที่ความคิดมักจะ “ค่อนข้างดีและลื่นไหล”
.
จากนั้นคือวิธีการกระตุ้น DMN และความคิดสร้างสรรค์อย่างมีสติโดยให้ใช้ในเวลาทำกิจกรรมที่ไม่ต้องการความรู้ความเข้าใจสูง เช่น ไปเดินเล่น อาบน้ำอุ่น หรือทำสวนโดยไมต้องฟังเพลงหรือพอดแคสต์ เพียงแค่ปล่อยจิตใตของคุณล่องลอยไป (คำเตือน : อย่าทำเช่นนี้ขณะขับรถ) ในระหว่างการทำบางสิ่งที่ง่ายและคุ้นเคย ความคิดของคุณจะดำเนินไปอย่างธรรมชาติ
.
นอกจากอาบน้ำแล้ว งานวิจัยบางชิ้นยังแนะนำให้ใช้เวลากับธรรมชาติเนื่องจากกระตุ้นให้เกิดความผ่อนคลาย และ “ความสนใจของคุณจะขยายออกไปเต็มพื้นที่” คูนอยส์ระบุ “การเดินในธรรมชาติสามารถปรับปรุงอารมณ์และขยายความคิดของคุณให้ครอบคลุมรวมทั้งมีการเชื่อมโยงต่าง ๆ”
.
ดังนั้นหากคุณกำลังพยายามหาความคิดใหม่ ๆ หรือแก้ปัญหาใด ๆ จงทำงานให้หนัก จากนั้นหยุดพักและออกไปเดินเล่นเมื่อเจอทางตัน “สิ่งนี้ช่วยให้จิตใจของคุณทำงานโดยไม่รู้ตัวในสิ่งที่คุณกำลังตั้งใจแก้ปัญหาอยู่” คาลินา คริสตอฟ (Kalina Christoff) นักประสาทวิทยาจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบียกล่าวเสริม “เราจำเป็นต้องผ่อนคลายจิตใจให้เพียงพอ ด้วยกิจกรรมที่เป็นนิสัยที่เรามีส่วนร่วมอย่างสม่ำเสมอ เราจึงไม่รู้สึกผิดที่ปล่อยให้จิตใจล่องลอย นั่นคือเวลาที่จิตใจสามารถไปถึงที่ใหม่ ๆ ได้”
.
อย่ากลัวช่วงเวลาที่จะถอดปลั๊กให้ตัวเองและแบ่งเวลาสำหรับการเหม่อลอยเป็นประจำ “ค่าใช้จ่ายอย่างหนึ่งของโลกมัลติมีเดียที่เราอาศัยอยู่นี้คือเราไม่ได้ปล่อยให้มีเวลาสำหรับตัวเอง” สคูเลอร์ กล่าว การให้โอกาสทางความคิดได้โลดโผนคือการลงทุนในความคิดสร้างสรรค์ของคุณ และนั่นก็เป็นเวลาที่ดี
.
สืบค้นและเรียบเรียง วิทิต บรมพิชัยชาติกุล
โฆษณา