19 ส.ค. 2022 เวลา 12:11 • ธุรกิจ
เฟซบุ๊กกำลังลด Reach อย่างรุนแรง ในทุกเพจ
7
ตอนนี้ใครทำเพจในเฟซบุ๊ก อาจต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ ยอดรับชมทั้ง Reach และ Impression ตกลงอย่างรวดเร็ว ขึ้นอยู่กับว่าใครจะตกมาก หรือตกน้อย
5
บางเพจยอด Reach เฉลี่ยตกลงไปเหลือ 50% จากของเดิม หรือบางเพจตกลงเหลือ 20% จากของเดิมก็มี
3
แล้วเรื่องนี้จะส่งผลกระทบกับคนทำเพจอย่างไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
1
แก่นของเรื่องนี้ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของทุกอย่างก็คือ “เฟซบุ๊ก อยากเลียนแบบ TikTok”
1
ซึ่งสิ่งที่ส่งผลกระทบกับคนทำเพจ ไม่ใช่การที่เฟซบุ๊กอยากเลียนแบบ วิดีโอสั้นของ TikTok
1
แต่เป็นการที่เฟซบุ๊กอยากเลียนแบบการ “แนะนำโพสต์ที่ไม่ได้ติดตาม” แบบ TikTok
เมื่อเข้าไปใน TikTok เราจะเห็นหน้าแรกเป็น For You ซึ่ง TikTok จะใช้ระบบ AI ในการแนะนำวิดีโอสั้น ที่ผู้ใช้งานน่าจะสนใจมาให้
เฟซบุ๊ก ก็เลยอยากทำตามบ้าง จึงตั้งชื่อระบบนี้ว่า Discovery Engine หรือระบบที่จะทำให้เราได้เจอกับอะไรใหม่ ๆ โดยถ้าเราเจอคำว่า Suggested for you นั่นแหละ เป็นโพสต์ที่มาจาก Discovery Engine..
2
แต่ประเด็นก็คือ หน้าฟีดที่ทุกคนไถเป็นหลัก ก็คือหน้า Home
ดังนั้นก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ Suggested โพสต์ของเฟซบุ๊กจะมาเบียดโพสต์ที่เราติดตามในหน้า Home
จากเดิมที่เราใช้เฟซบุ๊ก วันละ 5 นาที เราจะเจอ
โพสต์ที่เราติดตาม 3 นาที
โพสต์ของเพื่อน 1 นาที
โพสต์โฆษณา 1 นาที
5
ในตอนนี้มี Suggested และ Reels มาแทรก เราก็อาจจะเจอ
โพสต์ที่เราติดตาม 1 นาที
โพสต์ของเพื่อน 1 นาที
โพสต์โฆษณา 1 นาที
โพสต์ Suggested 1 นาที
โพสต์วิดีโอสั้น Reels 1 นาที
3
และนี่ก็เป็นสาเหตุว่าทำไมคนทำเพจจะต้องเจอกับ เหตุการณ์ที่ยอดรับชมทั้ง Reach และ Impression ตกลง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
4
ซึ่งการที่เฟซบุ๊กทำอย่างนี้ ผู้ใช้งานหลายคนก็ไม่ได้รู้สึกชอบ และอยากให้เฟซบุ๊กกลับไปเป็นเหมือนเดิม จนมีคำกล่าวว่า “ไม่มีใครทำลายเฟซบุ๊กได้เท่ากับคนที่สร้างมันมา”..
10
แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้มีข้อเสียเสมอไป
เพราะคนที่ได้ประโยชน์ก็คือ คนที่ทำโพสต์ให้เกิดไวรัลได้ เพื่อไปติดเป็นโพสต์ Suggested ให้กับคนอื่นอีกที
2
ซึ่งก็ต้องทำใจว่า ต่อให้เพจจะเก่งแค่ไหน ก็เป็นไปได้ยากที่จะทำคอนเทนต์ให้เป็นไวรัลได้ทุกโพสต์
3
ดังนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเพจเฟซบุ๊ก ลงทุนแมนคิดว่า จะถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มก็คือ
2
1. เพจใหญ่ ที่คนมีส่วนร่วมมาก ในหลาย ๆ โพสต์อยู่แล้ว
2
สำหรับกลุ่มนี้ จะได้รับผลกระทบก็คือ โพสต์ที่มีส่วนร่วมมาก ยอด Reach ก็จะไปไกลในระดับหลายแสนถึง หลายล้าน Reach ได้ง่ายขึ้น
2
แต่ถ้าฟอร์มตกในบางโพสต์ โพสต์ที่มีส่วนร่วมน้อย ก็จะทำให้ยอด Reach ลดน้อยลงกว่าเดิมมากได้เช่นกัน
ดังนั้นกลุ่มนี้จะมียอดสถิติแต่ละโพสต์ที่เหวี่ยงมากขึ้น โพสต์ที่ดีจะได้ยอดรับชมเยอะไปเลย โพสต์ที่ไม่ดีก็จะได้ยอดรับชมน้อยลงมาก
4
เพจกลุ่มนี้ก็อาจเป็น เพจขนาดใหญ่ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 5 แสนคนขึ้นไป ที่คนมีส่วนร่วมมาก แบบ Organic เป็นระยะ ๆ อยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น เพจข่าวไวรัล เพจบันเทิง เพจสรุปดรามา หรือเพจของอินฟลูเอนเซอร์รายใหญ่
1
ซึ่งแน่นอนว่าเพจใหญ่ถึงแม้จะมีผู้ติดตามมาก แต่ถ้าผู้ติดตามเหล่านั้น ถูกซื้อมาแบบ Inorganic ก็อาจเกิดเหตุการณ์ที่คนติดตามเป็นล้าน แต่ทุกโพสต์มียอด Reach น้อยมากได้เช่นกัน
3
2. เพจที่มีคอนเทนต์ดี แต่เน้นคนติดตามเฉพาะกลุ่ม
สำหรับกลุ่มนี้ จะได้รับผลกระทบอย่างหนักหน่วง และดูเหมือนจะไม่ยุติธรรมเลยกับเพจในกลุ่มนี้ เพราะเพจกลุ่มนี้จะเน้นสร้างโพสต์ที่มีลักษณะเฉพาะกลุ่ม ไม่ได้สร้างโพสต์ที่เน้นเป็นไวรัล ดังนั้นโพสต์ของเพจกลุ่มนี้จะมีโอกาสน้อยที่จะติด Suggested โพสต์
7
และหน้าฟีดของทุกคนก็จะเห็นโพสต์ของเพจกลุ่มนี้น้อยลง
1
เพจกลุ่มนี้ก็อาจเป็น เพจที่นิ่ง ๆ เน้นภาพลักษณ์ หรือเน้นสาระเฉพาะกลุ่ม ตัวอย่างเช่น เพจภาพถ่าย เพจท่องเที่ยว เพจอาหาร เพจประวัติศาสตร์ เพจวิทยาศาสตร์ เพจกีฬา เพจแม่และเด็ก เพจหุ้น หรือเพจหนังสือ
4
3. เพจที่มีคอนเทนต์ไม่น่าสนใจ ไม่มีแฟนเพจเฉพาะกลุ่ม
สำหรับกลุ่มนี้ แทบจะถูกเหยียบให้จมดิน คาดการณ์ว่า 90% ของเพจกลุ่มนี้ จะมียอด Reach ที่ตกลงอย่างน่าใจหาย และทำเพจไปก็เหมือนพูดกับอากาศ ไม่มีใครดู เพราะโพสต์ของเพจกลุ่มนี้ ไม่มีทางที่จะไปติดใน Suggested โพสต์ และก็ยากที่จะไปเบียดกับคนอื่น ๆ ในหน้า Home
5
เพจกลุ่มนี้ก็อาจเป็น เพจขายสินค้า เพจองค์กร เพจบริษัท เพจไดอารีส่วนตัว หรือเพจร้านอาหารเล็ก ๆ
โดยสรุปแล้ว ทุกคนก็จะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเพจเล็กหรือเพจใหญ่
1
เพจเล็กจะเสียเปรียบมากกว่าเพจใหญ่ เพราะจะเกิดได้ยากขึ้น และมันก็จะนำไปสู่ทางออก 2 ทางก็คือ
1. เลิกทำเพจเฟซบุ๊กไปเลย
2. ยอมจ่ายเงินบูสต์โพสต์เฟซบุ๊กมากขึ้น
1
สำหรับลงทุนแมนแล้ว ในฐานะเป็นเพจที่ติดตามเรื่องนี้มาตลอด ก็เริ่มได้ขยายเพจไปยังช่องทางอื่น ๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ตัวอย่างเช่น ลงทุนแมนมี Followers ในเฟซบุ๊ก 2,200,000 คน แต่มี Followers ใน Blockdit 400,000 คนแล้ว
3
ซึ่งดูแล้ว ยอดผู้ติดตามใน Blockdit เป็น 1 ใน 5 ของเฟซบุ๊ก แต่รู้ไหมว่าในบางโพสต์ที่ลงในเฟซบุ๊ก มียอด Reach 20,000 คน ซึ่งน้อยกว่าใน Blockdit ที่มียอด Reach 30,000 คน ก็มี
14
เรื่องนี้ก็เป็นเพราะว่าใน Blockdit แสดงโพสต์ของทุกคนที่ติดตามในหน้า Home ฟีด ซึ่งแตกต่างจากเฟซบุ๊กที่พยายามจะนำเสนออย่างอื่นมาแทรก ดังนั้นการโพสต์ใน Blockdit จะมียอด Reach ที่ไม่แพ้กันได้
4
ในอนาคตก็ไม่รู้ว่าเฟซบุ๊กจะเป็นอย่างไร
มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก จะบีบคนทำเพจอย่างไร
แต่ดูเหมือนที่ผ่านมา มันก็เป็นแบบนี้เสมอมา
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอด และมันก็จะไม่ได้หยุดนิ่งไปเรื่อย ๆ
4
ถ้าถามว่า คนทำเพจควรโฟกัสกับอะไร ในสถานการณ์ที่คับขันตอนนี้
หนึ่งในคำตอบนั้นก็คงจะเป็น
ทำอย่างไรก็ได้ในทุกวิถีทาง ให้เราเป็นคนสุดท้าย ที่รอดชีวิต..
5
หนังสือ BRANDING THE NATION หนังสือที่เล่าถึงการสร้างแบรนด์ของแต่ละประเทศที่ทำให้ แต่ละประเทศเป็นแบบทุกวันนี้
เช่น ทำไมเยอรมนีเป็นประเทศแห่งรถยนต์ ทำไมฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งแบรนด์หรู สั่งซื้อเลยที่
โฆษณา