24 ส.ค. 2022 เวลา 08:00 • ข่าวรอบโลก
ส่อง Top 10 ประเทศ "ประชากรสูงสุด" ภายในปี 2593
“สหประชาชาติ” เผยแพร่ข้อมูล “ประชากรโลก” ล่าสุด “อินเดีย” จ่อเตรียมขึ้นแท่นประเทศที่มีประชากรสูงสุดในโลกแซงหน้า “จีน” ภายในปี 2569 และในสิ้นปีนี้ประชากรโลกจะแตะ 8,000 ล้านคน
1
เรื่องโดย กฤตพล สุธีภัทรกุล
ส่อง Top 10 ประเทศ "ประชากรสูงสุด" ภายในปี 2593
สหประชาชาติ หรือ UN ได้เผยแพร่ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับแนวโน้มประชากรโลกทุก 2 ปี โดยได้เผยแพร่ข้อมูล “แนวโน้มประชากรโลก” ฉบับที่ 27 เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา เนื่องใน “วันประชากรโลก” (World Population Day) โดยกรุงเทพธุรกิจได้สรุปสาระสำคัญมาให้อ่านอย่างครบถ้วนดังนี้
อินเดียจะมีจำนวนประชากรแซงหน้าจีน
แม้ว่าจีนครองตำแหน่งอันดับ 1 ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกมาอย่างยาวนานด้วยจำนวนประชากรกว่า 1,400 ล้านคน แต่อัตราการเติบโตของประชากรในจีนลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีในช่วงทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา ทั้งด้วย “นโยบายลูกคนเดียว” ที่ริเริ่มในปี 2522 ในยุคของรัฐบาล “เติ้ง เสี่ยวผิง” เพื่อควบคุมจำนวนประชากรไม่ให้เพิ่มขึ้นมากเกินไป ทำให้หลายครอบครัวเลือกที่จะไปทำแท้งเมื่อรู้ว่ากำลังจะได้ลูกสาว ตามความเชื่อของคนจีนที่มักอยากจะได้ลูกชายไว้สืบสกุลมากกว่า
นอกจากนี้ นโยบายดังกล่าวยังส่งผลกระทบในระยะยาวให้แก่จีน ไม่ว่าจะเป็นภาวะขาดแคลนแรงงาน จำนวนประชากรชายที่มากกว่าหญิงหลายเท่าตัว ตลอดจนการก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ทำให้จีนยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวไปเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2559
ต่อมาในปี 2564 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนได้อนุมัตินโยบายนโยบาย “ลูก 3 คน” แทน พร้อมสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนมีลูกด้วยมาตรการต่าง ๆ เช่น การให้เงินโบนัสในการมีบุตร การอุดหนุนการคลอดบุตรและการช่วยเหลือค่าเรียนการศึกษาของเด็ก แต่ดูเหมือนว่านโยบายนี้จะมาช้าไป
จากข้อมูลอัตราการเกิดประจำปี 2564 ของคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติของจีนพบว่า ในหลายมณฑลของจีนมีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ และบางพื้นที่มีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในรอบ 60 ปี โดยมีอัตราการเกิดเฉลี่ยเพียง 7.52 คนต่อประชากร 1,000 คน
"กวางตุ้ง" ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นมณฑลที่ร่ำรวยและมีประชากรมากที่สุดในจีนนั้น เป็นเพียงมณฑลเดียวจาก 31 มณฑลที่มีเด็กเกิดใหม่ในปีที่แล้วมากกว่า 1 ล้านคน ส่วนมณฑลหูหนาน มีอัตราการเกิดต่ำกว่า 500,000 คนเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 60 ปี ขณะที่มณฑลเจียงซี ทางภาคตะวันออกของประเทศ มีอัตราการเกิดใหม่ต่ำกว่า 400,000 คนเป็นครั้งแรกนับจากทศวรรษ 1950
หยาง เหวินจ้วง หัวหน้าฝ่ายกิจการประชากรและการวางแผน ของคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติของจีน บอกว่า คาดว่าประชากรจีนจะเริ่มหดตัวลงอีกในระหว่างปี 2564-2569 เนื่องจากคนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่เลือกที่จะไม่มีลูก ด้วยเหตุผลด้านค่าครองชีพและภาวะความกดดันจากการทำงาน
ขณะที่อินเดีย แม้ว่าจะมีอัตราการเจริญพันธุ์ลดลงจาก 5.7 คนต่อผู้หญิงหนึ่งคนในทศวรรษที่ 1950 เหลือเพียง 2 คนต่อผู้หญิงหนึ่งคนในปัจจุบัน แต่อัตราอัตราการลดลงนี้เป็นอย่างช้า ๆ ซึ่งแตกต่างจากที่มีนโยบายลูกคนเดียว โดยจากข้อมูลของสหประชาชาติพบว่า ในปี 2568 จำนวนประชากรของจีนและอินเดียจะมีเท่ากันที่ 1,430 ล้านคน ก่อนที่อินเดียจะแซงหน้าจีนในปี 2569 ด้วยจำนวนประชากร 1,440 ล้านคน ส่วนจีนยังคงอยู่ที่ 1,430 ล้าน
นอกจากนี้ รายงานยังพบว่า การเติบโตของประชากรโลกมากกว่าครึ่งตั้งแต่ปัจจุบันจะถึงปี 2593 จะกระจุกตัวอยู่ใน 8 ประเทศเท่านั้น ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก อียิปต์ เอธิโอเปีย อินเดีย ไนจีเรีย ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ สหรัฐ และแทนซาเนีย
สำหรับ 10 อันดับประเทศที่มีประชากรสูงสุดของโลกในทศวรรษ 2050 นั้นประกอบไปด้วย
1. อินเดีย 1,670,490,601 คน เพิ่มขึ้น 18% จากปี 2565
2. จีน 1,312,636,324 คน ลดลง 8% จากปี 2565
3. ไนจีเรีย 377,459,883 เพิ่มขึ้น 73% จากปี 2565
4. สหรัฐ 375,391,965 เพิ่มขึ้น 11% จากปี 2565
5. ปากีสถาน 367,808,468 คน เพิ่มขึ้น 56% จากปี 2565
6. อินโดนีเซีย 317,225,212 คน เพิ่มขึ้น 15% จากปี 2565
7. บราซิล 230,885,728 คน เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2565
8. สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก 217,494,004 เพิ่มขึ้น 120% จากปี 2565
9. เอธิโอเปีย 214,812,308 คน เพิ่มขึ้น 74% จากปี 2565
10. บังกลาเทศ 203,904,891 คน เพิ่มขึ้น 19% จากปี 2565
ส่วนประเทศไทย คาดว่าจะมีประชากรอยู่ที่ 67,880,087 คน ภายในทศวรรษดังกล่าว ลดลง 5% จากปี 2565
โฆษณา