24 ส.ค. 2022 เวลา 10:31 • ปรัชญา

Limbo แดนผู้ตายในตำนาน

Limbo แดนผู้ตายในตำนาน : การรอคอยในแดนมรณา
ชาวคริสต์ในยุคโบราณพัฒนาความเชื่อต่อไปว่า ก่อนพระเยซูคริสต์จะถูกตรึงกางเขนเพื่อไถ่บาปให้มนุษย์ ไม่มีใครได้ไปสวรรค์เลยตั้งแต่ยุคของอาดัมและเอวา ทั้งสองทำผิดพระบัญชาของพระเจ้าโดยการกินผลไม้ต้องห้าม มนุษย์ทั้งปวงจึงถูกสาปให้ตายและถูกกักขังไว้ใน ‘แดนมรณา’ หรือ ‘ลิมโบ’ โดยบรรดาซาตานและพรรคพวก
ส่วนในสวรรค์นั้นว่างเปล่า มีคนเพียง 2 – 3 คนเท่านั้น ในพระคัมภีร์ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าพระเจ้าทรงรับเขาขึ้นสวรรค์โดยตรง เช่น ประกาศกเอลียาห์ซึ่งพระเจ้ารับเขาขึ้นสวรรค์โดยรถม้าเพลิง และไม่มีใครได้เห็นเขาอีกเลย และเอโนค ผู้ที่พระคัมภีร์กล่าวไว้สั้นๆ ว่า “เขาเดินไปพร้อมกับพระเจ้า”
การสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาปมนุษย์ของพระเยซูคริสต์ เท่ากับเป็นการเปิดทางเข้าสู่สวรรค์ของบรรดาผู้ที่ตายไปตั้งแต่สมัยปฐมกาล
ในยุคกลางเชื่อกันว่าหลังจากที่พระเยซูสิ้นพระชนม์ไปเป็นเวลา 3 วัน พระองค์เสด็จลงไปยังดินแดนมรณา-ที่อยู่ของบรรดาปีศาจ เจ้าแห่งโลกนี้ (Prince of The World) ซาตานและสมุนพยายามป้องกันประตูเหล็กไม่ให้พระองค์เสด็จเข้าไป แต่พระคริสต์ทรงใช้ไม้กางเขนตีไปที่ประตูจนโซ่ตรวนนั้นหักลง ทรงฉุดบรรดาผู้ตายตั้งแต่ยุคแรก คืออดัมกับเอวาขึ้นจากแดนมรณา และเหล่าผู้ชอบธรรมอย่างอับราฮัม กษัตริย์ดาวิด บรรดาประกาศ และพาไปสู่สวรรค์
ความเชื่อนี้ปัจจุบันไม่ได้รับการกล่าวถึงนัก แต่ก็ปรากฏเป็นภาพคริสต์ศิลป์ที่ชวนตื่นเต้นหวือหวามาก โดยเฉพาะตอนพระคริสต์ทรงทำลายประตูนรก ส่วนบางความเชื่อกลับแตกต่างออกไป คือบรรดาผู้ชอบธรรมในยุคพันธสัญญาเดิม อาศัยอยู่ในลิมโบอย่างผาสุก รอคอยการเสด็จมาของพระคริสต์อย่างสงบ
มีอะไรใน Limbo ไขข้อสงสัยเรื่องความตายในจักรวาลวิทยาของคริสตศาสนา, ชีวิตหลังความตายในคริสต์ศาสนา
พระคริสต์เสด็จลงไปรับวิญญาณของผู้ชอบธรรมในแดนมรณา ในภาพจะเห็นว่าทรงทำลายกลอนประตูนรกและเหยียบไว้ใต้ฝ่าพระบาท ทรงฉุดอดัมและเอวา มนุษย์คู่แรกขึ้นจากแดนผู้ตาย ล้อมรอบด้วยบรรดากษัตริย์ ประกาศกและผู้ชอบธรรมจากยุคโบราณ
นอกจากนี้ยังมีเกร็ดปลีกย่อยเป็นตำนานในยุคกลางออกไปอีกว่า ในขณะที่พระคริสต์ทรงถูกตรึงกางเขนพร้อมโจรสองคน โจรคนหนึ่งได้ขออภัยบาปต่อพระองค์ด้วยใจสำนึกจริงๆ พระองค์จึงทรงสัญญาว่าเขาจะได้ไปสวรรค์ในวันนี้ เมื่อเขาตายลงเพราะความทรมาน ก็พบว่าตัวเองแบกไม้กางเขนอยู่ เขาจึงแสดงไม้กางเขนนี้ให้เทวดาเฝ้าประตูเห็นว่าเป็นสัญลักษณ์ที่พระคริสต์ทรงสัญญาว่าจะให้เขาเข้าสวรรค์ แต่เทวดาบอกให้เขารออยู่ก่อน จนกระทั่งพระคริสต์นำบรรดาวิญญาณในยุคโบราณขึ้นจากแดนมรณาแล้ว จึงจะได้เข้าไปพร้อมๆ กัน
ลิมโบยังมีอีกความหมายหนึ่ง คือเป็นดินแดนของผู้ตายที่ค่อนข้างคลุมเครือ บางตำนานก็ว่าเป็นแดนของคนที่ตายโดยไม่ได้รับศีลล้างบาป อย่างบรรดาเด็กๆ ที่ตายโดยไร้เดียงสา ไม่ได้ทำบาป แต่ก็ไม่ทันได้รับศีลล้างบาป รวมทั้งคนชอบธรรมที่ไม่ได้ทำบาปหนัก แต่ตายโดยไม่รู้จักพระเจ้า พวกเขายังคงติดอยู่ในแดนลิมโบของผู้ไร้เดียงสา (limbus Infantum) และมีชีวิตอย่างมีความสุข จนกว่าจะถึงวันพิพากษาจึงจะได้ไปสวรรค์
ดังนั้นพิธีล้างบาปจึงเป็นพิธีกรรมสำคัญมากต่อความเชื่อของผู้คนในยุคกลาง มนุษย์จะรอดไปสวรรค์หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการชำระบาปกำเนิดด้วยพิธีบัปติศมานี้ และเป็นแรงขับดันสำคัญที่ทำให้พระศาสนจักรส่งบรรดามิชชันนารีไปยังดินแดนที่พระคริสต์ยังไม่เป็นที่รู้จัก เพื่อโปรดศีลล้างบาปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อประโยชน์ของวิญญาณเหล่านั้นหลังความตายนั่นเอง ความเชื่อเรื่องลิมโบเช่นนี้ไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจากพระศาสนจักรปัจจุบัน
ไฟชำระ Purgatory สถานที่ที่คนบาปรอคอยพระเป็นเจ้า
ในศาสนาคริสต์บางนิกาย โดยเฉพาะคาทอลิก มีความเชื่อที่ไม่เหมือนนิกายอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องดินแดนแห่งการชำระ หรือเรียกว่าไฟชำระ เรื่องนี้เกิดจากการตีความพระคัมภีร์ว่า
ท่านจะไม่ได้รับการปล่อยตัวออกมาจนกว่าจะได้ชำระทุกบาททุกสตางค์
ลูกา 12: 59
มนุษย์บางส่วนที่ทำบาปแต่ไม่มีโทษหนักถึงนรก เพราะมีจิตใจรักและศรัทธาในพระเป็นเจ้ามาโดยตลอด และตายลงโดยยังรักษาความสัมพันธ์ของเขากับพระเป็นเจ้าไว้ได้ เขาจะต้องชำระมลทินให้หมดไปในไฟชำระ ซึ่งระยะเวลารับโทษก็แล้วแต่ความผิดบาปที่ได้กระทำ เหมือนการชดใช้หนี้ให้หมดก่อนได้เดินทางไปยังสวรรค์ พวกเขาจะแตกต่างจากชาวนรก คือยังมีความหวังว่าสักวันหนึ่งจะได้เห็นพระพักตร์พระเจ้า แต่เพราะมลทินในบาปที่ติดตัวมา พวกเขาจะเข้าไปพบพระองค์ทั้งที่ยังไม่พร้อมไม่ได้
อย่างไรก็ดี คริสต์ศาสนาหลายนิกายปฏิเสธแนวคิดนี้เพราะไม่ได้เขียนไว้โดยตรงในพระคัมภีร์ และมักถูกโจมตีว่า การประกอบพิธีมิสซาอุทิศให้ผู้ตาย เป็นประเพณีที่ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อหาเงินของบรรดาบาทหลวงในยุคกลาง แต่เมื่อพิจารณาประวัติศาสตร์แล้ว ชาวคริสต์เองก็มีธรรมเนียมการสวดภาวนาเพื่อผู้ตายมาตั้งแต่ยุคต้นๆ ในศตวรรษที่ 2 – 3 พวกเขาเชื่อว่าคำภาวนาจะช่วยปลดปล่อยวิญญาณเหล่านั้นไปสู่สวรรค์ได้
มีอะไรใน Limbo ไขข้อสงสัยเรื่องความตายในจักรวาลวิทยาของคริสตศาสนา, ชีวิตหลังความตายในคริสต์ศาสนา
ภาพกระจกสีแสดงวิญญาณในไฟชำระ บางส่วนถูกเทวดาพาขึ้นไปยังสวรรค์ หลังจากรับโทษจนหมดมลทินแล้ว
ส่งท้าย
ศาสนาต่างๆ พยายามตอบคำถามความอยากใคร่รู้ว่ามีอะไรอยู่หลังความตายของมนุษย์ คริสตศาสนาเองก็ตอบคำถามเหล่านี้เอาไว้ 2,000 ปีแล้วตามจักรวาลวิทยาที่มีรากฐานของศาสนายิว และพัฒนาขึ้นตามคำสอนของพระเยซูคริสต์
อย่างไรก็ตาม มนุษย์ไม่จำเป็นต้องรอคอยสวรรค์ในโลกหน้าหลังความตาย พระคริสต์ทรงสอนให้เราภาวนาว่า “ขอให้พระอาณาจักรของพระบิดามาตั้งในโลกนี้” คือทรงประสงค์ให้มนุษย์สร้างอาณาจักรของพระเจ้าบนโลก ผ่านทางความรักซึ่งกันและกัน ไม่ใช่รอคอยวันพิพากษาด้วยความหวาดกลัว
เพราะสิ่งที่เราเริ่มทำในโลกนี้โดยการสร้างสันติภาพและความเมตตากรุณาต่อกันและกัน ก็เท่ากับการสร้างสวรรค์ขึ้นมาบนโลกแล้ว
Thanks : Wikipedia
: Pinterest
โฆษณา