25 ส.ค. 2022 เวลา 03:06 • ความคิดเห็น
วันนี้ ส่องโพสต์เก่า ๆ ในเฟซบุ๊ค เห็นความรำพี้รำพันของตัวเองแล้วขำดีค่ะ
ตอนเด็ก ๆ เราอยากเรียนศิลปะมาตลอด แต่ไม่เคยมีโอกาส ได้แต่เรียนในชั้น ในชั่วโมงเรียน
สมัยเป็นนักเรียน เราชอบสีไม้มากกว่าสีน้ำเพราะรู้สึกว่าควบคุมการลงสีได้ง่ายกว่า ขณะที่สีน้ำคือสีที่ระบายแล้ว "เน่า" ตลอด เป็นเรื่องน่าหงุดหงิดสำหรับ Control Freak หรือพวกบ้าการควบคุมทุกอย่างให้ได้ดังใจอย่างเรา
แถมในวิชาศิลปะสมัยประถมฯ ครูมักสอนให้ระบายสีน้ำแบบสีทึบแสงเหมือนพวกสีโปสเตอร์หรืออะคริลิก ไม่ใช่แบบที่สีน้ำควรจะถูกใช้จริงๆ เมื่อไม่เข้าใจสิ่งที่ใช้ จึงไม่แปลกอะไรที่งานจะออกมาไม่เคยดีงาม แล้วก็พานให้เราเกลียดการใช้สีน้ำไปด้วย
พอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ได้มีโอกาสกลับมาลองวาดรูปใหม่อีกครั้ง พบว่าถูกจริตกับสีน้ำมากกว่า ถึงจะยังระบายได้ไม่เอาไหนเหมือนเดิม ยังเชื่อมสีได้งูๆ ปลาๆ ไม่เนียนสวยเหมือนคนที่วาดเก่งๆ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป เพราะความสนุกของการวาดสีน้ำไม่ได้อยู่ที่การระบายได้สวย (ซึ่งไม่เคยทำได้) แต่คือการทำความเข้าใจธรรมชาติของสี น้ำ และปฏิกิริยาของทั้งสองอย่างที่มีต่อกระดาษที่อยู่ตรงหน้า และอาจรวมถึงความชื้นหรือแห้งของอากาศด้วย
ยังมีที่ดีกว่านั้นคือ สีน้ำสอนให้เราปลงได้ ทำใจง่ายขึ้นเมื่อเจอข้อผิดพลาด ลดการเป็น Control Freak เพราะเป็นสีที่คุมยากมาก ถ้าคุณไม่ชำนาญ แล้วยังฝึกให้เราต้องคิดแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อสิ่งที่วาดกับสิ่งที่คิดมันสวนทางกัน
อดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเราทิ้งสีน้ำไปจริง ๆ เพียงเพราะประสบการณ์แย่ ๆ ในวัยเด็ก เราอาจไม่ได้พบความสุขอีกแบบหนึ่งในวันนี้
บางสิ่งบางอย่างที่เคยผ่านเลยชีวิตเราไปแล้ว อาจต้องใช้ทั้งเวลา โอกาสและจังหวะที่ลงตัว ถึงจะกลับมาและกลายเป็นสิ่งที่เรารักได้.
เวลาเราเครียด เราชอบทำชาร์ตสี โปรดอย่าถามว่ามีสีกี่ชุดแล้ว สายอุปกรณ์ดีเด่นเขาไม่ถามนะคะ เขารู้แต่ว่าสีออกใหม่ = ของมันต้องมี 🤣
โฆษณา