หลุยส์ ฟิโก้ (2022)
Netflix Documentary 8/10
ปรากฎการณ์ย้ายทีมของหลุยส์ ฟิโก้ที่ต้องเสียค่าฉีกสัญญา 60 ล้านยูโร หรือ สองพันกว่าล้านบาท เรื่องที่ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นไปได้ ราคาที่สูงจนจินตนาการไม่ไหว แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว ผลของมันสร้างทั้งปรากฎการณ์ใหม่ที่รุ่งโรจน์ และเลวร้าย
🔸➖➖➖➖➖➖➖➖🔸
นี่คือ 10 Short Notes หลังดูจบ
1. เกริ่นนำไปก่อนว่า ฉันไม่ดูบอลมานานแล้ว ตอนที่เคยเห่อดูตามผู้ชายอยู่พักนึง ก็เป็นตอนที่ แกรี่ ซินิเกอร์ ยังเฉิดฉาย พอล แก๊สคอย ของไก่เดือยทอง คือนักเตะในดวงใจฉัน ซึ่งหลังจากนั้นแค่ไม่กี่ปี ฉันก็เลิกสนใจกีฬาฟุตบอลไปเลย หันไปดูบาสเก็ตบอลแทน ดังนั้น หลุยส์ ฟิโก้ คือใคร? ยิ่งใหญ่ขนาดไหน? ฉันไม่รู้จัก
🔸➖➖➖➖➖➖➖➖🔸
2. แต่เลือกกดดูสารคดีเรื่องนี้ เพราะอยากรู้ว่าผู้กำกับและคนเขียนบท จะสามารถทำให้ฉันสนุกทั้ง ๆ ที่ไม่ได้รู้เรื่องราวตื้นลึกหนาบางได้รึเปล่า ซึ่งไม่ผิดหวัง คนดูไม่จำเป็นต้องรู้อะไรมาก่อน เนื้อหาสาธยายให้เข้าใจได้ง่าย ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง
🔸➖➖➖➖➖➖➖➖🔸
3. เปิดเรื่องมาที่ภาพฟุตเทจ ของการแข่งขันระหว่างทีม รีลมาดริด และ บาเซลโลน่า ซึ่งจับภาพไปที่หลุยส์ ฟิโก้ในชุดขาวเบอร์ 10 กำลังเดินหลบออกมาจากมุมสนาม เพราะไม่สามารถเริ่มบอลได้ เนื่องจากคนดูปาขวดน้ำ กระป๋องน้ำ และข้าวของมากมายลงมาเกลื่อนสนาม ตัวเขาเองก็ได้รับการป้องกันจากการ์ดหลายนายที่คอยยกโล่ห์พลาสติกกันให้ พร้อมกับกล้องค่อย ๆ แพนไปที่แฟนบอลที่กำลังตะโกนด้วยสีหน้าชิงชังโกรธแค้น และป้ายที่เขียนว่า “คนทรยศ”
🔸➖➖➖➖➖➖➖➖🔸
4. ฉันที่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับกีฬาและกติกาของฟุตบอล แต่รู้ว่าเรื่องนี้ต้องสนุกแน่ ๆ เพราะไม่น่าจะเกี่ยวกับฟุตบอลโดยตรง น่าจะเป็นเรื่องคนตีกันซะมากกว่า ซึ่งมันก็เป็นแบบนั้น
🔸➖➖➖➖➖➖➖➖🔸
5. สารคดี นำผู้คนที่เกี่ยวข้องในเรื่องราวยอกย้อนซ่อนเงื่อน หักหลังอำพรางนี้ มาสัมภาษณ์เมื่อเวลาผ่านพ้นไป 20 ปีแล้ว ข้อสงสัยต่าง ๆ นานา เรื่องซุบซิบซุบซาบที่ยังไม่เคยถูกเปิดเผยว่าจริงแท้แค่ไหน วันนี้ตัวจริงของทั้งสองฝ่ายออกมานั่งเล่าอย่างหมดเปลือก
แต่ก็อย่างที่รู้กัน มนุษย์เราจำไม่ค่อยแม่นหรอก อดีต 20 ปีที่แล้ว ต่อให้บอกว่าจำแม่นแค่ไหน แต่เมื่อเล่าในวันนี้ มันก็คือการเขียนขึ้นมาใหม่อย่างที่เราอยากจำ ดังนั้นเราจึงได้ยินการตอบสัมภาษณ์ว่า “โกหก ผมไม่ได้พูดแบบนั้น”
🔸➖➖➖➖➖➖➖➖🔸
6. การสัมภาษณ์คนจริง ถูกตัดสลับไปกับภาพฟุตเทจในอดีต เหมือนกับสารคดีอื่น ๆ ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าผู้กำกับจงใจยั่วยุคนดูหรือชี้นำคนดูในบางครั้งเหมือนกัน ด้วยการตัดต่อสีหน้าคนที่ให้สัมภาษณ์สลับกับเสียงคนอื่น เช่น เสียงกำลังสัมภาษณ์หลุยส์ ฟิโก้ แต่ขึ้นหน้ายิ้มเยาะของอีกคนแทน เสมือนว่าสิ่งที่ฟิโก้พูดนั้นไม่จริง ...ซึ่งมีช๊อตแบบนี้อยู่หลายครั้ง ส่วนตัวแอบด่าผู้กำกับอยู่ในใจว่า “อีบ่างช่างยุ”
🔸➖➖➖➖➖➖➖➖🔸
7. สารคดีควรนำเสนออย่างเป็นกลาง คนดูจะตัดสินเองว่าจะเลือกฟังความข้างไหน คนทำสารคดีมีหน้าที่เอาข้อมูลที่หาได้ทั้งหมดมาเรียบเรียง แล้วถ่ายทอดออกมาโดยไม่ใส่อารมณ์ความคิดเห็นส่วนตัวเข้าไป นี่ไม่ใช่ละครนะจ๊ะ
🔸➖➖➖➖➖➖➖➖🔸
8. เรื่องนี้สอนฉันอย่างนึงว่า คนรักมาก ก็พร้อมจะเกลียดมากขึ้นไปอีก ยิ่งถ้ารักแบบตั้งความหวังไว้สุดใจ ก็จะเกลียดเข้ากระดูกดำ ด่าแม่ด่าเมีย ด่าสาดเสียเทเสียไม่มีชิ้นดี ... นี่คือกระจกสะท้อนของความรักอีกด้านนึง
🔸➖➖➖➖➖➖➖➖🔸
9. หลุยส์ ฟิโก้ผ่านมันมาได้โดยไม่ได้เป็นซึมเศร้าหรือเป็นบ้าไปเสียก่อน ก็นับว่าเก่งมาก มีจิตใจที่แข็งแกร่งมาก ... คิดว่าฟุตบอลนี่แหละที่ดึงสมาธิให้เค้ายังจดจ่ออยู่กับเรื่องที่เป็นเรื่องมากกว่า ดูจากผลงานที่ไม่ตกเลยแม้จะย้ายมาอยู่ด้วยแรงกดดันมหาศาล ก็ยังคงผลงานที่ดีอย่างเสมอต้นเสมอปลาย -- นับถือเค้าในเรื่องนี้
🔸➖➖➖➖➖➖➖➖🔸
10. สารคดีตั้งคำถามตลอดเรื่องว่า “ฟิโก้ ทำไปเพราะเงินใช่หรือไม่” ทุกคนสรุปรวมกันว่า “เพราะเงิน!!” แต่ฟิโก้ตอบว่า ถ้าอยู่บาเซลโลน่าเหมือนเดิมต่อ เดี๋ยวก็ได้เงินเท่านี้แหละ เรื่องเงินไม่ใช่ประเด็น การถูกละเลยคุณค่าไปต่างหากล่ะที่สำคัญ --- ไปดูสารคดีเองนะคะ ว่าใครละเลยคุณค่าของฟิโก้ และละเลยอย่างไร?
🔸➖➖➖➖➖➖➖➖🔸
สรุปว่าเป็นสารคดีที่ดูเพลิน ไม่จำเป็นต้องมีความรู้อะไรมาก่อนเลย ส่วนตัวชอบวิสัยทรรศน์ของ “ฟลอเรนติโน่ เปเรซ” มาก นี่คือคนที่เปิดดีลนี้ และทำให้รีลมาดริดผงาดขึ้นมาอีกครั้ง และไล่ล่าผู้เล่นชั้นนำให้เข้ามาสู่สโมสรตามที่ได้ประกาศไว้ เป็นการเดิมพันที่มีแต่ความเสี่ยงเต็มไปหมด และความเป็นไปได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน แต่เขาก็เลือกที่จะทำมันแบบไม่กลัวและโคตรนิ่ง
❤️
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
2ถูกใจ
915รับชม
แสดงความคิดเห็นของคุณ...
