2 ก.ย. 2022 เวลา 08:00 • สัตว์เลี้ยง
จดทะเบียน ‘สุนัขบางแก้ว’ เป็น ‘สุนัขโลก’ สำคัญอย่างไร
ขนปุยยาว มีความสง่างาม ว่องไวและแข็งแรง เวลายืนมักเชิดหน้าและโก่งคอคล้ายม้า... เป็นคำบรรรยายถึงลักษณะส่วนหนึ่งของ “ไทยบางแก้ว” สุนัขสายพันธุ์หนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย และเรามักเรียกสุนัขลักษณะนี้กันสั้นๆ ว่า “สุนัขพันธุ์บางแก้ว”
จดทะเบียน ‘สุนัขบางแก้ว’ เป็น ‘สุนัขโลก’ สำคัญอย่างไร
สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว เป็นอีกสายพันธุ์สุนัขที่คนไทยรู้จักกันมานาน ด้วยลักษณะเฉพาะที่ขนานนามกันว่า “ดุ” ทำให้คนไทยนิยมนำไปเลี้ยงเฝ้าบ้าน เฝ้าเรือน เฝ้าเรือ เฝ้าแพ เฝ้าวัว เฝ้าควาย และเมื่อไม่นานมานี้ สุนัขบางแก้วที่เราคุ้นเคยกันก็เพิ่งได้รับการจดทะเบียนเป็นสุนัขโลกจากคณะกรรมการ FCI (The Fédération cynologique international) ณ กรุงมาดริดประเทศสเปน ต่อจากสุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสุนัขโลกก่อนหน้านี้
การขึ้นทะเบียนของสุนัขโลก ก็ไม่ต่างอะไรกับการขึ้นทะเบียนลิขสิทธิ์ เป็นการป่าวประกาศให้สากลรับรู้ถึงที่มาที่ไปและความเป็นต้นตำรับของสินค้านั้นๆ และที่ผ่านมาสุนัขพันธุ์บางแก้วก็เป็นอีกสายพันธุ์สุนัขไทยที่มีการส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย จีน สวีเดน
“ผู้เพาะพันธุ์สุนัขบางแก้ว ที่เป็นธุรกิจ SME ใน จ.พิษณุโลก มีอยู่ประมาณ 100 ราย การจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ ก็ทำกันมานาน แต่เมื่อได้รับการรับรอง ก็จะทำให้ประเทศไทยเป็นเจ้าของอย่างเป็นทางการ และหากจะนึกถึงสุนัขบางแก้ว ก็ต้องคิดถึงบ้านวังแก้ว จ.พิษณุโลก” ชวลิต มีแม่นวิทย์ กลุ่มผู้เลี้ยงและพัฒนาสุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว จ.พิษณุโลก ให้สัมภาษณ์
1
สุนัขไทยบางแก้วได้รับการตั้งชื่อตามถิ่นกำเนิดคือ “วัดบางแก้ว” ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม สุนัขไทยพันธุ์นี้มีลักษณะคล้ายสุนัขจิ้งจอก หรือเป็นสุนัขลูกผสมของสุนัขจิ้งจอก
ที่มาของสุนัขพันธุ์บางแก้วนั้น มาจากสภาพภูมิประเทศทั่วไปของที่ตั้งวัดบางแก้วขณะนั้นยังคงเป็นป่าพง ป่าระกำ ป่าไผ่ และต้นไม้ชนิดต่างๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าชนิดต่างๆ อย่างชุกชุม เช่น ช้างป่าเป็นโขลงๆ หมูป่า ไก่ป่า หมาจิ้งจอก และหมาใน ซึ่งคาดกันว่าโอกาสที่ สุนัขจิ้งจอก และ หมาในตัวผู้ จะมาแอบลักลอบเข้ามาผสมพันธุ์กับสุนัขไทยตัวเมียที่เลี้ยงไว้ในวัดบางแก้วมีความเป็นไปได้สูง เพราะสุนัขป่าทั้งหลายนี้เป็นสุนัขที่กล้าหาญชาญชัย ว่องไว ปราดเปรียว แข็งแรง
ทุกวันนี้ลูกสุนัขบางแก้วที่จำหน่ายอยู่นั้น มีราคาตลาดเริ่มที่ 3,000-4,000 บาท แต่ถ้าหากเป็นสายพันธุ์แชมป์ที่เคยผ่านการประกวดจะอยู่ที่ 10,000-60,000 บาท ซึ่งแน่นอนว่า เมื่อสุนัขพันธุ์ไทยที่หน้าตาคล้ายสุนัขจิ้งจอกนี้ได้รับรองจากสากลก็จะทำให้ผู้เลี้ยงท้องถิ่นได้ไปพัฒนาต่อยอด สามารถเพาะเลี้ยงเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริมได้
มาตรฐาน FCI นั้นเป็นการรับรองจาก สมาพันธุ์สนัขโลก (Federation Cynologique Internationale) ซึ่งทำหน้าที่รักษากฏเกณฑ์ที่เกี่ยวกับมาตราฐานสายพันธุ์สุนัขเพื่อให้ประเทศสมาชิก ยึดถึอปฎิบัติให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน เช่น การรับรองมาตรฐานสายพันธุ์สุนัข การรับรองการประกวดของประเทศสมาชิก การรับรองกรรการผู้ตัดสินของประเทศสมาชิก ฯลฯ
ปัจจุบันสมาพันธุ์สุนัขมีสมาชิกทั้งหมด 98 ประเทศ มีสุนัขที่ได้รับรองมาตรฐานโดย FCI ประมาณ 370 สายพันธุ์ และการที่สุนัขบางแก้ว ได้รับขึ้นทะเบียน FCI จะทำให้ผู้เข้าส่งประกวด ได้รับใบเพ็ดดิกรี หรือใบรับรองพันธุ์ประวัติ (Certificate Pedigree) ซึ่งแสดงถึงคุณภาพของลูกสุนัข ที่ได้รับการถ่ายทอดพันธุกรรม ลักษณะเด่น ด้อย ทั้งในเชิงกายภาพรูปร่าง หน้าตา ไปจนถึงลักษณะนิสัย
อย่างไรก็ตาม เมื่อครั้งสุนัขไทยหลังอาน (Thai Ridgeback) ได้รับการขึ้นทะเบียนสำเร็จ มีการแสดงความคิดเห็นถึงการกำหนดรูปแบบสุนัขแบบใดแบบหนึ่ง ซึ่งบางความเห็นมองว่า เข้าข่ายผูกขาดความเป็น “หลังอานแท้” ที่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับฟาร์มสุนัขขนาดใหญ่ แต่กับสุนัขไทยหลังอานที่เลี้ยงตามบ้าน ฟาร์มขนาดเล็ก ที่ลักษณะต่างไปบ้างจากที่ขึ้นทะเบียนต้องกลายเป็นสุนัขพลเมืองชั้นสอง ซึ่งส่งผลถึงราคา ความน่าเชื่อถือ จนประเด็นนี้กลายเป็นที่ถกเถียงกันในแวดวงคนทำฟาร์มสุนัข
กรณีของสุนัขบางแก้ว นอกจากความภาคภูมิใจที่สุนัขไทยเป็นที่ยอมรับในสากลแล้ว คงต้องจับตาดูว่าจะมีกรณีเช่นเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีกหรือไม่
อ้างอิง Wikipedia, fci.be (สืบค้นเมื่อวันที่ 1 ก.ย. 65)
โฆษณา