Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
BrandAge Online
•
ติดตาม
3 ก.ย. 2022 เวลา 08:08 • การตลาด
ตลาด “จัดฟัน” ในไทยน่าสนใจแค่ไหน
ทำไม “เซลฟี่” สตาร์ทอัพสัญชาติสิงคโปร์
จึงต้องเข้ามาทำตลาดเป็นที่แรกของอาเซียน
หากมองเข้ามาที่อุตสาหกรรมทันตกรรมของไทยนั้น พบว่า ในปี 2565 มีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท และคาดว่าในปี 2569 จะมีมูลค่าถึง 3.5 หมื่นล้านบาท
เมื่อมองมาที่เฉพาะในเรื่องของการจัดฟันแล้ว พบว่า การจัดฟันแบบใส หรือ Clear Aligner มีการเติบโตที่ดีที่สุดถึง 31% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า จากมูลค่าตลาดสูงถึง 1,200 ล้านบาท ในปี 2565
ยิ่งมองเข้ามาที่ในรายละเอียดของตลาด พบว่า ยังมีช่องว่างอีกค่อนข้างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของราคาที่มีค่อนข้างสูง เฉลี่ยถึงกว่าแสนบาทต่อการจัดฟันแบบใส 1 ครั้ง
เช่นเดียวกับเรื่องของผู้บริโภคที่ยังมี Pain Point ในเรื่องของการเข้าถึงการจัดฟัน โดยเฉพาะในมุมของจำนวนของทันตแพทย์มีน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร
ซึ่งในประเทศไทยมีทันตแพทย์เพียง 0.02% ต่อจำนวนประชากร หรือ ทันตแพทย์ 1 คน ต่อ คนไข้ 4000 คน ขณะที่มีเพียง 600 ท่าน ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดฟัน และร้านทำฟันส่วนมากจะเปิดอยู่แค่ตามหัวเมืองใหญ่ กระจุกตัวอยู่ในย่านที่มีคนอาศัยอยู่มาก ทำให้คนที่อยู่พื้นที่ห่างไกลต้องเสียเวลามากในการเดินทางเข้ามารักษาฟัน
ทั้งหมดนั้น น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญของการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยของ Selfie (เซลฟี่) สตาร์ทอัพสายเทคโนโลยีทันตกรรมเพื่อความงามและการดูแลช่องปากระดับพรีเมียมสัญชาติสิงคโปร์ ที่เลือกเข้าตลาดไทยเป็นที่แรก เนื่องจากมองเห็นช่องว่างของตลาดที่ยังไม่มีใครเข้ามา “ปักธง” เพื่อเปิดตลาดนี้
พิมลพัชร์ ธนุสุทธิยาภรณ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและ Chief Marketing Officer บริษัท เซลฟี่ เเคร์ จำกัด บอกกับเราว่า นอกจากตลาดบ้านเรา จะเป็น Emerging Market ที่ยังมีโอกาสในการเติบโตได้อีกมากแล้ว การเข้าตลาดด้วยการวางตัวเองเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ด้านทันตกรรมเพื่อความงาม ยังไม่มีใครเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจัง ขณะที่เทรนด์ของการจัดฟันเองก็กำลังมุ่งไปในเรื่องของความงาม เป็นอีก 1 ในโซลูชั่นที่ทำให้ตลาดทันตกรรมของบ้านเรา ก้าวข้ามเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ Beaty Care
“เซลฟี่ เข้าตลาดครั้งแรกเมื่อปี 2564 มีเป้าหมายที่จะทำให้ประสบการณ์ทันตกรรมดูแลช่องปากและฟันเป็นเรื่องง่ายและเข้าถึงได้สำหรับทุกคน โดยเน้นไปที่การสร้างภาพลักษณ์“New Llifestyle” สำหรับคนรุ่นใหม่ ผ่านบริการนวัตกรรมจัดฟันแบบใส เป็นทันตกรรมเพื่อความงามที่ยังไม่มีใครเคยเข้ามาทำตลาดอย่างจริงจังมาก่อน”
การเป็น “เทค สตาร์อัพ” ของเซลฟี่ นั้น ทำให้ มีการทำธุรกิจด้วยการใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ โดยในครั้งนี้ มีการนำเทคโนโลยี Smart Dentistry ซึ่งเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของเซลฟี่ที่ช่วยลดระยะเวลาการเข้ารับการรักษาที่คลินิก แต่แพทย์สามารถติดตามผลการรักษาได้จากทางไกล หรือ Teledentistry ที่ตอบโจทย์การบริการผ่านออนไลน์ที่สะดวก และรวดเร็วมากขึ้น
“เซลฟี่ยังมีจุดเด่นในด้านการให้บริการจัดฟันแบบใส คือ การพัฒนาบริการที่สามารถแก้ Pain Point ของผู้ใช้บริการที่ยังไม่มีแบรนด์ใดในตลาดทำได้ ไล่ตั้งแต่ เรื่องของความสะดวกสบาย สามารถเข้ารับบริการและคำปรึกษาได้ทุกที่ทุกเวลา การมีค่าบริการที่สมเหตุสมผล และมีผลลัพธ์การรักษาที่เชื่อถือได้และคุณภาพที่สม่ำเสมอด้วยเทคโนโลยีของเซลฟี่ โดยบริการของเซลฟี่ประกอบไปด้วย แพ็กเกจการจัดฟันแบบใส, การพิมพ์ฟันหรือสแกนฟันสำหรับประเมินกับทันตแพทย์ และ ผลิตภัณฑ์อื่นๆ”
อธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ ขั้นตอนการจัดฟันของเซลฟี่ จะแตกต่างกับการจัดฟันกับร้านหมอฟันทั่วไป เพราะลูกค้านั้นไม่จำเป็นต้องเข้าพบกับทันตแพทย์โดยตรงเลยก็ได้ โดยขั้นแรกนั้น ลูกค้าสามารถสั่งแบบพิมพ์ฟันไปพิมพ์ด้วยตนเองและส่งกลับมาให้ทางผู้เชี่ยวชาญรับรอง หรือเข้าไปสแกนฟันที่สตูดิโอของเซลฟี่ได้ฟรี
เมื่อทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญรับรองแล้วก็จะทำแผนการรักษาโดยสแกนออกมาเป็นภาพ 3 มิติ ให้เห็นรูปฟันรอบด้าน ก่อนจะส่งอุปกรณ์จัดฟันใสกลับไปให้ลูกค้า ใช้เวลา 1 เดือนครึ่ง ถึง 2 เดือน ซึ่งค่าใช้จ่ายเริ่มต้นจะอยู่ที่ 35,990 บาทสำหรับแพ็กเกจ Selfie Express ซึ่งเป็นแพ็กเกจจัดฟันแบบใสที่ออกแบบมาสำหรับลูกค้าที่ให้ความสำคัญในเรื่องของระยะเวลา เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับลูกค้าที่ต้องการจัดฟันรอบสอง หรือ ลูกค้าที่มีฟันห่าง ซ้อนเก ระดับเล็กน้อย สามารถเห็นผลได้ภายในระยะเวลา 3-4 เดือนเท่านั้น
ส่วนอีกแพ็กเกจที่นำเสนอก็คือ Selfie Extra แพ็กเกจจัดฟันแบบใสที่เน้นความสะดวกสบายและแผนที่ครอบคลุมครบจบในแพ็กเกจเดียว ด้วยชุดอุปกรณ์ไม่จํากัดจํานวนเซ็ตขึ้นอยู่กับการประเมินของทันตเเพทย์ โดยมีระยะเวลาการรักษาเฉลี่ย 3-9 เดือน มีราคา 53,990 บาท ซึ่งการทำเองที่บ้านนั้น หลังจากได้รับอุปกรณ์แล้ว หากมีปัญหาก็สามารถติดต่อกับผู้เชี่ยวชาญผ่านทางช่องทางออนไลน์ได้ตลอดเวลา
รูปแบบแพ็กเกจที่นำเสนอออกมาทั้ง 2 แพ็กเกจนั้น เป็นการเจาะตรงเข้าหาลูกค้าที่ไม่สะดวกในการเดินหน้าเข้ามารักษาต่อเนื่องที่คลินิกทันตกรรม ซึ่งเป็นการทลาย Pain Point ที่ สามารถเข้าถึงดีมานด์ที่มีอยู่จำนวนมหาศาล โดยสินค้าที่นำเสนอให้กับตลาดนั้น จะมีราคาถูกกว่าการจัดฟันแบบใสตามคลินิกทันตกรรมทั่วไปถึง 1.5 เท่า
“สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้และปี 66 เราจะเน้นการขยายการบริการให้ครอบคลุมโดยเฉพาะการเปิด Selfie Studio และ Selfie Clinic Partner เพื่อให้ครอบคลุมการให้บริการใน 20 จังหวัดหัวเมือง รวมถึงการพัฒนาบริการ ผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุมให้ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การดูแลช่องปากและฟัน โดยตั้งเป้าการขยายตัวของลูกค้าที่ 3-5 เท่าในทุก ๆ ปี สำหรับอีก 3 ปีข้างหน้า”
การเติบโตในตัวเลขแบบนั้น ส่วนหนึ่งจะมาจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้กับตลาด โดยพิมลพัชร์ บอกว่า เซลฟี่ จะเป็นแบรนด์ที่มุ่งเจาะ D2C Cosmetic Dentistry ที่เจาะตรงเข้าหาลูกค้า เพื่อเป็น1 ในโซลูชั่นเรื่องความงาม ที่ต้องการให้เรื่องของ Oral Care เป็นส่วนหนึ่งของ Beauty Care ซึ่งจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อื่นๆ ตามมา อาทิ น้ำยาบ้วนปาก และยาสีฟัน ที่จะเน้นในเรื่องของเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยตอบโจทย์หรือแก้ Pain Point ให้กับลูกค้า
ถือเป็นการวางเส้นทางการเติบโตของสตาร์ทอัพจากสิงคโปร์ ที่เข้ามาด้วยเทคโนโลยี และการมองหา Pain Point ของผู้บริโภค เพื่อนำมาเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์รวมถึงโซลูชั่นใหม่ๆ ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยมองว่า เรื่องของทันตกรรม ไม่ได้ถูกจำกัดวงอยู่แค่เรื่องของการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับช่องปากเท่านั้น แต่ยังเป็น 1 ในโซลูชั่นที่เข้ามาช่วยเสริมหรือตอบโจทย์ในเรื่องความงาม ซึ่งเป็นมุมมองในการทำตลาดที่แตกต่างจากคลินิกทันตกรรมที่มีอยู่เดิมในตลาด
เป็นอีกการทำตลาดที่น่าสนใจของสตาร์ทอัพรายนี้.....
https://brandage.com/article/32402
#BrandAgeOnline #ตลาดจัดฟัน #เซลฟี่
ติดตามเทรนด์ การตลาดที่น่าสนใจได้ทาง
Website:
https://www.brandage.com
Facebook:
https://www.facebook.com/brandageonline
Blockdit:
https://www.blockdit.com/brandageonline
Instagram:
https://www.instagram.com/brandage_online/
Twitter:
https://twitter.com/brandage_online
Tiktok:
https://www.tiktok.com/@brandageonline
Line:
https://line.me/ti/p/@brandageonline
ธุรกิจ
แนวคิด
กลยุทธ์การตลาด
4 บันทึก
8
6
4
8
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย