6 ก.ย. 2022 เวลา 05:37 • ประวัติศาสตร์
“ฟาโรห์แฮตเชปซุต (Hatshepsut)” ฟาโรห์หญิงผู้กุมอำนาจแห่งอียิปต์โบราณ
“ฟาโรห์แฮตเชปซุต (Hatshepsut)” เป็นพระราชธิดาใน “ฟาโรห์ทุตโมสที่ 1 (Thutmose I)” และได้ขึ้นครองราชบัลลังก์อียิปต์ภายหลังจากที่พระองค์ได้อภิเษกสมรสกับ “ฟาโรห์ทุตโมสที่ 2 (Thutmose II)”
จากนั้น พระองค์ได้ทำหน้าที่เป็นเสมือนผู้ดูแล “ฟาโรห์ทุตโมสที่ 3 (Thutmose III)” และภายหลัง พระองค์ก็ทรงรวบอำนาจ และขึ้นเป็นผู้ปกครองร่วมในอียิปต์เมื่อ 1,473 ปีก่อนคริสตกาล
เมื่อขึ้นเป็นฟาโรห์ พระองค์ทรงส่งเสริมการค้าและการก่อสร้างต่างๆ มากมาย
ในงานศิลปะหลายชิ้น มักจะให้ภาพฟาโรห์แฮตเชปซุตเป็นบุรุษ หากแต่ก่อนศตวรรษที่ 19 นักประวัติศาสตร์ก็ยังไม่แน่ใจว่าพระองค์มีตัวตนจริงหรือไม่ โดยภายหลังจึงทราบว่าพระองค์เป็นหนึ่งในฟาโรห์หญิงไม่กี่องค์ของอียิปต์
ฟาโรห์แฮตเชปซุต (Hatshepsut)
ฟาโรห์ทุตโมสที่ 1 และพระราชินีของพระองค์ทรงมีพระราชธิดาสององค์ โดยฟาโรห์แฮตเชปซุตทรงเป็นองค์ใหญ่
เมื่อพระราชบิดาสวรรคต ฟาโรห์แฮตเชปซุตวัย 12 พรรษา ก็ได้ขึ้นปกครองอียิปต์หลังจากที่พระองค์อภิเษกสมรสกับฟาโรห์ทุตโมสที่ 2 ซึ่งเป็นพระราชโอรสของฟาโรห์แฮตเชปซุตที่ 1 กับมเหสีรอง
ต่อมาเมื่อราว 1,479 ปีก่อนคริสตกาล ฟาโรห์ทุตโมสที่ 2 สวรรคต และพระราชโอรสที่เกิดจากพระองค์กับมเหสีรอง ก็ได้ขึ้นครองบัลลังก์
ฟาโรห์แฮตเชปซุตได้ทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการแก่ “ฟาโรห์ทุตโมสที่ 3 (Thutmose III)” โดยพระองค์ทรงบริหารราชการแทนฟาโรห์ทุตโมสที่ 3 จนกว่าฟาโรห์ทุตโมสที่ 3 จะถึงวัยที่จะบริหารงานได้
และภายในเจ็ดปี ฟาโรห์แฮตเชปซุตก็ได้ครองอำนาจ ได้แบ่งอำนาจการปกครองกับฟาโรห์ทุตโมสที่ 3
1
ฟาโรห์ทุตโมสที่ 3 (Thutmose III)
ฟาโรห์แฮตเชปซุตได้ทรงอ้างว่าพระองค์มีสิทธิขึ้นครองอำนาจ เนื่องจากสายเลือดอันสูงศักดิ์และการที่พระราชบิดาได้ทรงเลือกพระองค์เป็นรัชทายาท ซึ่งพระองค์ก็ตระหนักว่าการที่พระองค์ขึ้นครองอำนาจ ย่อมทำให้หลายฝ่ายรู้สึกเคลือบแคลง
1
สำหรับพระราชกรณียกิจของพระองค์ ในรัชสมัยของพระองค์ ได้เกิดการก่อสร้างโครงการใหญ่ต่างๆ มากมาย อีกทั้งพระองค์ยังส่งเสริมการค้า มีการนำสินค้าจากดินแดนอื่นเข้ามายังอียิปต์ ทั้งทองคำ งาช้าง ทองแดง เป็นต้น
คาดว่าฟาโรห์แฮตเชปซุตสวรรคตเมื่อราว 1,458 ปีก่อนคริสตกาล หลังจากนั้น ฟาโรห์ทุตโมสที่ 3 ก็ยังปกครองอยู่อีกราว 30 ปี
แต่หลังจากนั้น ฟาโรห์ทุตโมสที่ 3 ก็ได้มีรับสั่งให้ทำลายทุกอย่างที่บ่งบอกถึงการดำรงอยู่ของฟาโรห์แฮตเชปซุต รวมทั้งภาพบนวิหารต่างๆ ที่แสดงถึงการที่ฟาโรห์แฮตเชปซุตเคยทรงปกครองอียิปต์
ด้วยเหตุนี้ ทำให้หลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับฟาโรห์แฮตเชปซุตนั้นมีน้อยมาก จนกระทั่งปีค.ศ.1822 (พ.ศ.2365) ที่มีการค้นพบและวิเคราะห์จากตัวอักษาที่แกะสลักบริเวณที่เก็บพระบรมศพของพระองค์
ในปีค.ศ.1903 (พ.ศ.2446) ฮาเวิร์ด คาร์เตอร์ (Howard Carter) นักโบราณคดีชาวอังกฤษ ได้ค้นพบโลงศพของฟาโรห์แฮตเชปซุต หากแต่ภายในโลงก็ไม่พบพระบรมศพ
พระบรมศพของพระองค์ได้รับการค้นพบในปีค.ศ.2007 (พ.ศ.2550)
วัฒนธรรมของอียิปต์ มักจะไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งในเรื่องของความเชื่อและประเพณี
การที่สตรีขึ้นเป็นฟาโรห์ย่อมเป็นเรื่องที่เห็นได้ไม่บ่อย ทำให้ในเวลาต่อมา มีการทำลายหลักฐานการดำรงอยู่ของฟาโรห์หญิง เช่นเดียวกับฟาโรห์แฮตเชปซุต ที่กว่าผู้คนจะทราบถึงการมีอยู่ของพระองค์ เวลาก็ผ่านไปนานแล้ว
โฆษณา