Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Timeless History (ประวัติศาสตร์ไร้กาลเวลา)
•
ติดตาม
7 ก.ย. 2022 เวลา 03:19 • ประวัติศาสตร์
สงครามระหว่าง “จักรวรรดิโรมัน (Roman Empire)” และ “อาณาจักรดาเซีย (Dacia)”
เมื่อราวค.ศ.100 (พ.ศ.643) เป็นช่วงเวลาที่ “จักรวรรดิโรมัน (Roman Empire)” กำลังรุ่งเรืองสุดขีด ไม่มีดินแดนใดจะยิ่งใหญ่และต้านทานจักรวรรดิแห่งนี้ได้
หากแต่มีดินแดนหนึ่ง ซึ่งหาญกล้าท้าทายจักรวรรดิโรมัน นั่นคือ “อาณาจักรดาเซีย (Dacia)”
กองทัพดาเซียนั้นมีทหารประจำการ 250,000 นาย มีอาวุธที่ดีและเพียบพร้อม และที่สำคัญ พวกเขาเกลียดพวกโรมัน ซึ่งด้วยขนาดกองทัพที่ใหญ่และเกรียงไกร ย่อมทำให้โรมันไม่ไว้วางใจ
“จักรพรรดิทราจัน (Trajan)” จักรพรรดิแห่งโรมัน จึงตัดสินพระทัยจะกำจัดพวกดาเซียให้หมดสิ้นไป
จักรพรรดิทราจัน (Trajan)
สำหรับประวัติศาสตร์ความขัดแย้งระหว่างโรมันและดาเซียนั้น เริ่มจาก “พระเจ้าเบียวบิสตา (Burebista)” กษัตริย์องค์แรกแห่งดาเซีย ได้รวบรวมชนเผ่าดาเซียให้เป็นปึกแผ่น โดยอาณาจักรดาเซียนั้น ในปัจจุบัน คือประเทศโรมาเนียและมอลโดวา
พระเจ้าเบียวบิสตาได้ร่วมมือกับ “ปอมเปย์ (Pompey)” ศัตรูคนสำคัญของ “จูเลียส ซีซาร์ (Julius Caesar)” และทำสงครามกับซีซาร์
ภายหลังจากที่ซีซาร์ได้รับชัยชนะ เขาก็เริ่มวางแผนบุกดาเซีย หากแต่ถูกสังหารเมื่อ 44 ปีก่อนคริสตกาล เช่นเดียวกับพระเจ้าเบียวบิสตาซึ่งสวรรคตในปีเดียวกัน
ภายหลังจากพระเจ้าเบียวบิสตาสวรรคต ดาเซียก็ได้แตกออกเป็นแคว้นเล็กๆ อีกห้าแคว้น ทำให้โรมันไม่ใส่ใจและไม่เกรงกลัวดาเซียอีกต่อไป
พระเจ้าเบียวบิสตา (Burebista)
ต่อมาเมื่อถึงรัชสมัยของ “พระเจ้าดูรัส (Duras)” อาณาจักรดาเซียจึงกลับมามีอำนาจอีกครั้ง ก่อนที่ในปีค.ศ.87 (พ.ศ.630) “พระเจ้าเดเซบาลัส (Decebalus)” จึงได้ขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์แห่งดาเซีย
ในปีค.ศ.85 (พ.ศ.628) ดาเซียได้เริ่มรุกรานดินแดนโรมันซึ่งอยู่ทางใต้ของแม่น้ำดานูบ และในปีค.ศ.86 (พ.ศ.629) ดาเซียก็สามารถซุ่มโจมตีกองทหารม้าโรมันได้ห้ากอง และในปีค.ศ.88 (พ.ศ.631) สงครามระหว่างดาเซียและโรมันก็จบลงด้วยการที่ทั้งสองฝ่ายเสมอกัน และมีการทำสัญญาสงบศึก
ตามสัญญา ดาเซียจะได้รับเงินจำนวนมากจากโรมัน และช่างฝีมือโรมันก็จะต้องเดินทางไปดาเซียเพื่อสอนงานช่างต่างๆ ให้แก่ชาวดาเซีย
พระเจ้าเดเซบาลัส (Decebalus)
สังคมของโรมันนั้นเป็นสังคมทหาร และชัยชนะคือทุกสิ่งทุกอย่าง
จักรพรรดิทราจันเป็นจักรพรรดิโรมันองค์แรกที่ไม่ได้มาจากอิตาลี ดังนั้นพระองค์จึงทรงมองหาศึกที่จะได้ชัยชนะ พระองค์จะได้เป็นที่ยอมรับในหมู่ขุนนาง
แต่นอกเหนือจากนั้น เหตุผลที่โรมันต้องการจะโจมตีดาเซีย ก็ยังมีอีก
1.ดาเซียเป็นภัยต่อโรมันโดยตรง
ในราวค.ศ.100 (พ.ศ.643) กองทัพโรมันมีทหารจำนวน 380,000 นาย และมีดินแดนที่ต้องดูแลราวห้าล้านตารางกิโลเมตร ทำให้ต้องมีการแบ่งทหารไปประจำยังจุดต่างๆ
ส่วนกองทัพดาเซียมีทหารราว 250,000 นาย และก็กำลังเป็นพันธมิตรกับชนเผ่าอื่นๆ ซึ่งหากกองทัพดาเซียและพันธมิตรบุกมา โรมันก็น่าจะแย่
นอกจากนั้น ดาเซียยังมีแร่เงินอีกจำนวนมาก อีกทั้งชาวดาเซียก็เชี่ยวชาญในการตีเหล็ก ทำให้สามารถผลิตอาวุธได้อย่างดีเยี่ยม
2.โรมันต้องการจะกอบกู้ชื่อเสียงกลับคืนมา
กองทัพโรมันนั้นมีการฝึกทหารเป็นอย่างดี หากแต่จำนวนทหารก็ถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับพื้นที่กว้างใหญ่ในปกครองของโรมัน
ดังนั้น ทหารโรมันจึงได้ชื่อว่าเป็นทหารที่น่าเกรงขาม สามารถทำให้ศัตรูหวาดกลัวได้ มีน้อยก็เหมือนเยอะ
หากแต่กองทัพดาเซียกลับเข้มแข็งไม่แพ้กัน และสามารถตีเสมอกองทัพโรมันในสนามรบได้ ทำให้โรมันรู้สึกเสียหน้า
หากไม่มีการสั่งสอน ดินแดนต่างๆ จะดูถูกกองทัพโรมัน และอาจจะนำไปสู่การแข็งข้อ และเผ่าต่างๆ ก็อาจจะไม่เกรงกลัวและเข้ามาโจมตีดินแดนโรมันได้
3.เศรษฐกิจของโรมัน หลักๆ มาจากการเข้ายึดครองดินแดนอื่น
เศรษฐกิจของโรมันนั้นต้องพึ่งพาแรงงานทาสและการเข้ายึดครองดินแดน กองทัพโรมันก็เป็นกองทัพที่เกรียงไกร โดยทหารแต่ละคนนั้นก็ต่อสู้เพื่อทองคำและแร่เงิน
ขนาดของกองทัพโรมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนประชากร แต่ขึ้นอยู่กับจำนวนทองคำและแร่เงินที่ดินแดนมี โรมันจึงจำเป็นต้องเข้ารุกรานดินแดนอื่น เพื่อนำของมีค่าเหล่านี้เป็นทุนในการสนับสนุนกองทัพ
1
ภายในปีค.ศ.100 (พ.ศ.643) เหมืองทองคำในสเปนกำลังอยู่ในช่วงขาลง ทำให้เศรษฐกิจโรมันเริ่มอยู่ในภาวะตกต่ำ
หากเข้ายึดครองดาเซีย โรมันก็จะได้เหมืองทองคำขนาดใหญ่ของดาเซีย
1
ด้วยเหตุผลเหล่านี้ จักรพรรดิทราจันจึงตัดสินพระทัยรวบรวมกองทัพจำนวน 175,000 นาย ซึ่งถือเป็นการกระทำที่เสี่ยงมาก เนื่องจากพระองค์ต้องไปดึงทหารที่ประจำการอยู่ตามชายแดนมาร่วมทัพ ทำให้พื้นที่ต่างๆ มีกำลังป้องกันเบาบาง
จากนั้น ในปีค.ศ.105 (พ.ศ.648) พระองค์ทรงมีรับสั่งให้สร้างสะพานยาว 1,135 เมตรข้ามแม่น้ำดานูบ จากนั้น ก็มีการปรับปรุงชุดเกราะและอาวุธต่างๆ ขนานใหญ่
1
ในสงครามดาเซียครั้งที่ 1 (First Dacian War) ซึ่งเริ่มตั้งแต่ค.ศ.101-102 (พ.ศ.644-645) กองทัพโรมันต้องเสียชีวิตทหารไปจำนวนมาก หากแต่ก็ได้รับชัยชนะ และทำให้พระเจ้าเดเซบาลัสต้องขอสงบศึก
หากแต่เมื่อถึงปีค.ศ.105 (พ.ศ.648) พระเจ้าเดเซบาลัสก็ได้ก่อกบฏ นำมาสู่สงครามดาเซียครั้งที่ 2 ซึ่งเริ่มตั้งแต่ค.ศ.105-106 (พ.ศ.648-649)
แต่ในท้ายที่สุด ด้วยกลศึกของโรมัน ก็ทำให้ดาเซียต้องยอมแพ้
พระเจ้าเดเซบาลัสรีบเสด็จหนี หากแต่ก็ถูกกองทหารโรมันจับองค์ไว้ได้ ทำให้พระเจ้าเดเซบาลัสตัดสินพระทัย ปลงพระชนม์พระองค์เอง ดีกว่าอยู่โดยได้รับความอับอาย
ภายหลังจากที่พระเจ้าเดเซบาลัสสวรรคต พระเศียรและพระหัตถ์ขวาของพระองค์ก็ถูกตัด และนำส่งมาถวายจักรพรรดิทราจัน เป็นการพิสูจน์ว่าพระเจ้าเดเซบาลัสสวรรคตแล้วจริงๆ
ในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ.107 (พ.ศ.650) จักรพรรดิทราจันทรงมีรับสั่งให้จัดงานเลี้ยงฉลองชัยชนะเหนือดาเซีย
งานเลี้ยงฉลองนี้จัดยาวต่อเนื่องถึง 123 วัน และมีการจัดการแข่งขันกลาดิเอเตอร์ครั้งยิ่งใหญ่ มีกลาดิเอเตอร์เข้าร่วมกว่า 10,000 นาย สัตว์ต่างๆ กว่า 11,000 ตัว
นอกจากนั้น ยังมีการสร้างสิ่งก่อสร้างที่อลังการอีกมากมายเพื่อฉลองชัยชนะ
การที่โรมันเอาชนะดาเซียได้ ได้สร้างประโยชน์มหาศาลให้โรมัน
1
ใต้แม่น้ำซาร์เกเซียใกล้กับพระราชวังของพระเจ้าเดเซบาลัส พบทองคำกว่า 165,500 กิโลกรัม แร่เงินอีก 331,000 กิโลกรัม และยังพบทองคำและของมีค่าอีกจำนวนมากในถ้ำใกล้ๆ กัน
แต่ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ คือเหมืองทองคำของดาเซีย
เหมืองทองคำของดาเซียสามารถใช้ในการผลิตเหรียญทองมากกว่าปีละ 700 ล้านเหรียญ ทำให้เศรษฐกิจโรมันเฟื่องฟู และทำให้โรมันมีทุนในการก่อสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆ รวมทั้งมีเงินทุนในการสนับสนุนกองทัพ
อาจจะเรียกได้ว่าสงครามระหว่างโรมันกับดาเซีย เป็นหนึ่งในศึกครั้งใหญ่แห่งยุคสมัย และทำให้อำนาจของโรมันเบ่งบานถึงขีดสุด
References:
https://medium.com/history-of-yesterday/roman-conquest-of-dacia-813be479562d
https://www.worldhistory.org/article/1772/legions-of-the-dacian-wars/
https://www.thecollector.com/emperor-trajan-dacian-war/
https://imperiumromanum.pl/en/wars/dacian-wars-of-trajan/amp/
ประวัติศาสตร์
14 บันทึก
18
1
5
14
18
1
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย