10 ก.ย. 2022 เวลา 05:04 • ศิลปะ & ออกแบบ
Ghent Altarpiece ถูกขนานนามว่า "ผลงานที่ถูกขโมยมากที่สุดในประวัติศาสตร์" เป็นผลงานของสองพี่น้อง Hubert และ Jan van Eyck เป็นบานพับภาพที่ประกอบไปด้วย 20 ภาพวาดสีน้ำมันที่เต็มไปด้วยรายละอียดซับซ้อน ตั้งแต่เครื่องดนตรีที่ดูสมจริงจนถึงแสงที่ตกกระทบ จนกระทั่งต้นไม้ต่าง ๆ ภายในพื้นหลังที่ถูกใส่รายละเอียดจนเราสามารถแยกชนิดของมันได้ทุกต้น มันถูกนับว่าเป็น masterpiece แห่งศิลปะยุโรปและเป็นสมบัติที่สำคัญของโลกชิ้นหนึ่ง
เชื่อกันว่า Jan van Eyck ได้เริ่มวาด Ghent Altarpiece ในช่วงปี 1420s และเสร็จสิ้นลงในปี 1432 กินเวลาร่วมกว่า 10 ปี ในขณะที่ปิดอยู่จะปรากฎภาพวาดทั้งหมด 8 ภาพ และเมื่อเปิดออกจะปรากฏอีก 12 ภาพ มันมีขนาดกว่า 5.2 * 3.75 เมตรเมื่อถูกเปิดออก
The Ghent Altarpiece ขณะเปิด
The Ghent Altarpiece ขณะปิด
สำหรับใครที่ต้องการศึกษาและดู Ghent Altarpiece ให้ละเอียดกว่านี้ สามารถเข้าไปได้ที่
ซึ่งมีภาพของ Ghent Altarpiece ที่มีความละเอียดถึง 1 พันล้าน pixel ในช่วงก่อน ระหว่าง และหลังการฟื้นฟู และยังมีภาพในแสงอินฟาเรด เอ็กเรย์ และอื่น ๆ นอกจากนั้นแล้วยังมีผลงานชิ้นต่าง ๆ ของ Van Eyck ให้รับชมกันอีกด้วย
ประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเกือบ 600 ปีของ Ghent Altarpiece นั้นมีความละเอียดซับซ้อนมากมายไม่แพ้กับตัวชิ้นงานเอง ขนาดที่ว่า blog เดียวคงจะครอบคลุมได้ไม่หมดอย่างแน่นอน (ทีแรกผมว่าจะเขียนประวัติตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันอยู่หรอก แต่พอตามอ่านไปเรื่อย ๆ ถึงก็ได้รู้ว่าคงจะกินเวลาเกินไปมาก...แบบว่า มากกกก) และนี่คือเกร็ดความรู้ประวัติศาสตร์โดยย่อของ Ghent Altarpiece
- ในช่วงสงครามนโปเลียน ทหารฝรั่งเศสได้ขโมย 4 ภาพจาก Ghent Altarpiece สำหรับพิพิธภัณฑ์ของนโปเลียนปารีส
- ทั้ง 4 ภาพที่ถูกขโมยตั้งโชว์อยู่ที่ The Lourve และจึงถูกส่งกลับคืนในปี 1815
1
- ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 Ghent Altarpiece ถูกทหารเยอรมันขโมย
- ในสนธิสัญญาแวร์ซายหลังจบสงครมโลกครั้งที่ 1 ในปี 1919 ได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเยอรมนีจะต้องส่งมันคืนให้กับเบลเยียม
- 2 ภาพถูกขโมยไปในปี 1934 ตำรวจเมือง Ghent ได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ แต่กลับใส่ใจคดีโจรขึ้นร้านขายชีสที่เกิดขึ้นบริเวณใกล้เคียงมากกว่า ?
- ภาพหนึ่งจากที่ถูกขโมยไปถูกส่งกลับคืน ส่วนอีกภาพยังคงหายสาบสูญ ปัจจุบันมันถูกแทนทีด้วยภาพเลียนแบบ
- ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 มันถูกทหารเยอรมันขโมยไปอีกครั้ง โดยเก็บไว้ภายในเหมืองเกลือในออสเตรีย (ในตอนนั้นเหมืองเกลือแห่งนี้ถูกแปลงเป็นที่จัดเก็บผลงานศิลปะที่ขโมยมาของนาซีเยอรมัน โดยเก็บไว้มากกว่า 6,000 ชิ้น)
- ปัจจุบัน Ghent Altarpiece จัดแสดงอยู่ในมหาวิหาร Saint Bavo เมือง Ghent ประเทศเบลเยียม สถานที่ที่คู่ควรของมัน
นี่คือเหตุผลว่าทำไม Ghent Altarpiece ถูกเรียกว่า "ผลงานที่ถูกขโมยมากที่สุดในประวัติศาสตร์"
หลังจากมันถูกปล่อยทิ้งให้เสื่อมสภาพมาเป็นเวลานาน ในที่สุด Ghent Altarpiece ก็ได้ถูกปัดฝุ่นเสียใหม่โดยโครงการฟื้นฟูผลงานศิลปะโดยพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งเมือง Ghent โดยเริ่มต้นจากการฟิ้นฟูภาพด้านนอกในปี 2012
กระบวนการฟื้นฟูชิ้นงานดำเนินมาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งปี 2019 เมื่อพวกเขาเดินทางมาถึง The Lamb of God ที่อยู่ตรงใจกลางของผลงาน และเจ้าแกะตัวนี้เองที่เป็นที่ถกเถียงกันมากมายเมื่อความลับที่ถูกซ่อนอยู่ภายใต้สีน้ำมันมาอย่างยาวนานนั้นถูกเปิดเผย
The Lamb of God ก่อนที่ได้รับการฟื้นฟู
ถึงแม้ส่วนหัวของ The Lamb of God จะเป็นส่วนที่มีขนาดเพียง 3 ซม. จากภาพที่มีขนาดใหญ่กว่า 5 เมตร แต่มันกลับสร้างความสงสัยและคำถามภายในใจของผู้ชมมาเป็นเวลากว่าร้อยปี นั่นคือ "ทำไมมันถึงมี 4 หู"
จนกระทั่งความจริงถูกค้นพบในปี 2019 ว่าใบหน้าของ The Lamb of God เคยถูกวาดทับในช่วงศตวรรษที่ 16 โดยสีที่วาดทับนั้นได้จางไปตามกาลเวลาจึงปรากฏให้เห็นใบหูคู่ล่างที่เป็นมีอยู่แต่เดิม
The Lamb of God หลังจากได้รับการฟื้นฟู
นี่ก็คือ The Lamb of God ที่ Jan van Eyck ได้วาดไว้เมื่อ 600 ปีก่อน ซึ่งก็ยังคงเป็นที่แปลกใจของสายตาประชาชนอยู่ดี เนื่องจากมันมีใบหน้าที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนมนุษย์ แทนที่จะมีดวงตาอยู่ด้านข้าง มันกลับอยู่ด้านหน้า และมีใบปากเป็นกระจับแปลกจากแกะทั่วไป
และเมื่อเปรียบเทียบกับสัตว์ตัวอื่น ๆ ในภาพแล้ว The Lamb of God เป็นตัวเดียวที่ถูกวาดออกมาโดยมีสัดส่วนไม่สมจริง
ใบหน้าแรกเริ่มของ The Lamb of God ทำให้ผู้เข้าชมเกิดความรู้สึกที่
เข้มข้นมากกว่า ... นักประวัติศาสตร์ศิลป์คงจะต้องศึกษาต่อว่าทำไม Van Eyck ถึงได้เลือกวาดใบหน้าที่ดู 'คล้ายการ์ตูน' แบบนี้ ซึ่งแตกต่างจากความสมจริงในส่วนอื่นของภาพ ... นักพฤกศาสตร์สามารถแยกชนิดพืชได้ทุกต้น สำหรับต้นที่แยกไม่ได้นั้นเป็นพืชที่ถูกวาดทับ
Hélène Dubois, หัวหน้าทีมการฟื้นฟูชิ้นงาน
การฟื้นฟูใบหน้าของ The Lamb of God เสร็จสิ้นลงในปลายปี 2019 และเนื่องจากเป็นกระบวนการที่เปิดใช้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าชมได้ตลอด ในช่วงต้นปี 2020 ใบหน้าที่ดูอยู่ผิดที่ผิดทางนี้จึงได้กระจายว่อนไปทั่วโลกอินเตอร์เน็ต
ความเข้าใจผิดส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากทวีตโง่ ๆ ไม่กี่อันที่บิดเบือนบริบทไป
Hélène Dubois
และแน่นอนว่ามันถูกมีมเช่นเดียวกัน
Credit
โฆษณา