จับตาปัญหาผมร่วงของชาวจีน ตลาดที่แอบซ่อนมูลค่ากว่าแสนล้านหยวน
รายงานการศึกษาแชมพูป้องกันผมร่วงปี ค.ศ. 2022 ของบริษัท Ipsos บริษัทวิจัยตลาดระดับโลก เปิดเผยว่า ประเทศจีนมีคนหัวล้านกว่า 250 ล้านคน ในที่นี้เป็นเพศชายประมาณ 163 ล้านคน คิดเป็นเกือบ ร้อยละ 70 ของคนหัวล้านทั้งหมด โดยผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปี ก็คิดเป็นเกือบร้อยละ 70 เช่นกัน ทำให้ตลาดแชมพูหรือยาสระผมป้องกันผมร่วงของจีนขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกปี โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) กว่าร้อยละ 10 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมานี้
นอกจากนี้ ยังพบว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วงทางออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยมีจำนวนผู้บริโภคเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 40 ซึ่งสอดคล้องกับรายงานการสำรวจผู้บริโภคฉบับหนึ่งที่เปิดเผยว่า ในปี ค.ศ. 2030 มูลค่าของตลาดสุขภาพขนและเส้นผมจะมีมูลค่ากว่า 200,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 1.06 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ ด้วยมูลค่าของตลาดที่เติบโตมากขึ้น และตลาดขยายตัวอย่างกว้างขวาง ทำให้ปัจจุบันตลาดป้องกันผมร่วงและให้กำเนิดผมของจีน มีแบรนด์สินค้าที่เกี่ยวข้องกว่า 450 แบรนด์ (อัตรา แลกเปลี่ยน 1 หยวน เท่ากับ 5.3 บาท)
แอปพลิเคชันป้ายตู้อีเตี่ยน ได้สรุปสาเหตุของการเกิดปัญหาผมร่วงที่สำคัญ ได้แก่ ปัจจัยทางพันธุกรรม อายุที่เพิ่มขึ้น ความผิดปกติของภูมิคุ้มกัน ความเครียด ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ ผลข้างเคียงของการใช้ยา การติดเชื้อ และการบาดเจ็บที่หนังศีรษะ เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาจากมุมมองทางการแพทย์ พบว่าสาเหตุของปัญหาผมร่วงมีความซับซ้อน ในขณะที่เมื่อพิจารณาจากผลิตภัณฑ์แก้ไขปัญหาผมร่วง และผลสำรวจการบริโภคภายในตลาดผลิตภัณฑ์แก้ไขปัญหาผมร่วง สามารถแบ่งกลุ่มผู้มีปัญหาผมร่วงได้ ดังนี้
กลุ่มแรก
กลุ่มผู้ที่มีปัญหาผมร่วงเล็กน้อยหรือวิตกกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียเส้นผม ผู้บริโภคกลุ่มนี้ต้องการผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วง เพื่อป้องกันการเกิดอาการผมร่วง
กลุ่มที่ 2
กลุ่มผู้ที่ต้องการผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและให้กำเนิดผม ผู้บริโภคกลุ่มนี้ต้องการผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ขณะเดียวกันผู้บริโภคมีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ในเวลาและปริมาณที่เหมาะสมตามคำสั่งแพทย์ รวมถึงเข้ารักษาตามกำหนด ปรับยา จนถึงเห็นผล
กลุ่มที่ 3
กลุ่มที่ผมร่วงรุนแรง ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่ผมร่วงมาจากฮอร์โมนเพศชายหรือสาเหตุจากพันธุกรรม ซึ่งผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วงหรือยาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ต้องพึ่งพาการศัลยกรรมเท่านั้น ผมถึงจะเกิดขึ้นใหม่
ดังนั้นผลิตภัณฑ์ชำระล้างและดูแลป้องกันผมร่วงจึงเหมาะสำหรับผู้บริโภค 2 กลุ่มแรกที่เกิดปัญหาผมร่วงในระยะเริ่มต้นถึงกลางเท่านั้น นอกจากนี้ข้อมูลจาก Journal of International Medical Research ยังเปิดเผยว่า ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีผมร่วง พบว่า ผู้ที่มีอายุ 21 – 25 ปี และ 26 – 30 ปี คิดเป็นสัดส่วน ค่อนข้างสูง แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มปัญหาผมร่วงที่เกิดขึ้นในกลุ่มคนหนุ่มสาวอย่างชัดเจน
โดยสาเหตุหลักเกิดจากความกดดันของการทำงานและการแต่งงานในกลุ่มคนหนุ่มสาว ประกอบกับระดับการศึกษา และความสามารถในการบริโภคที่สูงขึ้น จึงมีความสนใจในการจัดการรูปลักษณ์ภายนอกของตนมากขึ้น ทำให้มีการ คาดการณ์ว่าในอนาคตคนหนุ่มสาวจะกลายเป็นกลุ่มผู้บริโภคหลักของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพขนและเส้นผม
และถึงแม้ว่าผลการสำรวจของคณะกรรมาธิการด้านสาธารณสุขแห่งชาติจีน (National Health Commission of the People’s Republic of China) จะเปิดเผยว่า ในกลุ่มคนที่มีผมร่วงของจีนปี ค.ศ. 2020 จะมีเพศชายจำนวน 164 ล้านคน และเพศหญิงจำนวน 87 ล้านคน และสัดส่วนของเพศชายจะสูงกว่า เพศหญิง แต่อย่างไรก็ตาม ในด้านยอดขายนั้นกลับพบว่าผู้หญิงคือกำลังซื้อหลักของผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วง
ผลการสำรวจความต้องการในท้องตลาดทั่วไปพบว่า ผู้หญิงต้องการป้องกันผมร่วง ขณะที่ผู้ชาย ต้องการผมเกิดใหม่ เนื่องจากผู้หญิงให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอกมากกว่าผู้ชาย ทำให้การที่ผมยิ่งยาว ย่อมก่อให้เกิดปัญหาผมร่วงมากขึ้น แต่สำหรับผู้ชายที่ผมสั้น เมื่อรู้ตัวว่าผมร่วงก็สายไปแล้ว จึงต้องการให้ผม เกิดใหม่ไวที่สุดเช่นกัน
บริษัท Third Bridge บริษัทวิเคราะห์การตลาดของจีนเปิดเผยว่า ในอนาคตจะมีแบรนด์ต่างประเทศ ที่เป็นที่รู้จักเข้าสู่ตลาดจีนมากขึ้น แต่การแข่งขันโดยรวมในจีนจะยังไม่ถึงขั้นรุนแรง โดยการสร้างแบรนด์จะเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการแข่งขันในตลาดป้องกันผมร่วง
ขณะที่เมื่อพิจารณาจากชนิดของผลิตภัณฑ์จะพบว่า ผลิตภัณฑ์ชนิดป้องกันผมร่วงและสร้างผมเกิดใหม่มีแนวโน้มหลากหลายมากขึ้น และปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์สมุนไพรป้องกันผมร่วง ดูแลเส้นผม ทำความสะอาดหนังศีรษะ ให้กำเนิดผม บำรุงผมหรือเซรัมต่างๆ ที่เริ่ม ได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน ทำให้ในอนาคตแบรนด์ผลิตภัณฑ์เส้นผมต่างๆ จะให้ความสำคัญในด้านการนำเอาเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์มาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายได้อย่างสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
โดยเฉพาะตัวยาสำคัญๆ ที่ถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมสำหรับผมร่วงที่ได้รับการอนุมัติอย่างแพร่หลาย เช่น Minoxidil และ Finasteride ก็เริ่มได้รับความนิยมในการนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันมีชาวจีนกว่า 250 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วนเกือบร้อยละ 20 ของประชากรจีนทั้งหมด กำลังประสบกับปัญหาผมร่วงมากขึ้น หรือกล่าวได้ว่าโดยเฉลี่ยในชาวจีน 6 คน มี 1 คนกำลังมีปัญหาผมร่วง และในที่สุดจะกลายเป็นคนหัวล้าน เนื่องจากชาวจีนยุคใหม่มีความกดดันสูงจากสภาพแวดล้อมและการแข่งขัน ทำให้คุณภาพชีวิตและสภาพจิตใจไม่ดีมากนักเมื่อเทียบกับชาวจีนในรุ่นบรรพบุรุษ
นอกจากนี้ยังพบว่า คนหนุ่มสาวชาวจีนโดยเฉลี่ยประสบกับปัญหาผมร่วงเร็วขึ้น 15 – 20 ปี ทำให้คนหนุ่มสาวเริ่มหันมาให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาผมร่วงและหัวล้านมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจเกี่ยวกับผม อาทิ การปลูกผม ยาบำรุงรักษาเส้นผมและป้องกัน ผมหลุดร่วง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง มีโอกาสเติบโตเป็นอย่างมาก
โดยมีการคาดการณ์ว่าในปี ค.ศ. 2030 ขนาดตลาดสุขภาพขนและเส้นผมจะมีมูลค่ากว่า 200,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 1.06 ล้านล้านบาท และตลาดแชมพูหรือยาสระผมป้องกันผมร่วงของจีนมีขนาดเพิ่มขึ้นทุกปี มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) กว่าร้อยละ 10
ดังนั้นตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและป้องกันผมร่วงของจีนจึงเป็นอีกตลาดที่น่าจับมองของผู้ประกอบการไทยที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ป้องกันผมร่วง ดูแลเส้นผม ให้ผมเกิดใหม่ ดกดำหนา ที่ผลิตและพัฒนามาจากวัตถุดิบธรรมชาติ อาทิ มะกรูด ตะไคร้ กระเทียม เปลือกส้มเขียวหวาน ขิง และเหงือกปลาหมอ ดอกม่วง เป็นต้น
เนื่องจากชาวจีนมีแนวโน้มที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารเคมีและไม่ส่งผลเสียต่อร่างกายมากขึ้น โดยในระยะสั้นผู้ประกอบการไทยต้องให้ความสำคัญกับการศึกษาพฤติกรรมการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รสนิยม และกลุ่มผู้บริโภคหลักของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาผมในตลาดส่งออกเป็นสำคัญ
เพื่อสามารถวางแผนกลยุทธ์ในการนำเสนอสินค้าไทยให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภคชาวจีนที่รักความสวยงาม และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้นทั้งในประเทศจีน และประเทศในภูมิภาคอื่นๆ ขณะที่ในระยะยาวต้องเร่งพัฒนานวัตกรรมและสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์
เพื่อสร้างความประทับใจ เป็นทางเลือกใหม่ และสร้างความนิยมให้แก่ผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย เพื่อให้สามารถครอง ส่วนแบ่งตลาดผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับปัญหาผมในตลาดส่งออกเป็นสำคัญ เพื่อสามารถวางแผนกลยุทธ์ในการนำเสนอสินค้าไทยให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้บริโภคชาวจีนที่รักความสวยงาม และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มมากขึ้นทั้งในประเทศจีน และประเทศในภูมิภาคอื่นๆ
ขณะที่ในระยะยาวต้องเร่งพัฒนานวัตกรรมและสร้างความแตกต่างให้กับผลิตภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างความประทับใจ เป็นทางเลือกใหม่ และสร้างความนิยมให้แก่ผลิตภัณฑ์จากประเทศไทย เพื่อให้สามารถครองส่วนแบ่งตลาดผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาผมร่วง และหัวล้านในตลาดจีนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
