AI GEN จะพามาทำความรู้จักกับโซลูชัน AI สำหรับธุรกิจว่าสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจประเภทต่างๆในรูปแบบใดได้บ้าง เพื่อให้ธุรกิจได้นำเป็นไปไอเดียและริ่เริ่มใช้กับธุรกิจของตนเอง ให้ธุรกิจก้าวทันกับสภาพแวดล้อม และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปที่จะยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การนำโซลูชัน AI เข้ามาใช้กับธุรกิจ
การนำโซลูชัน AI เข้ามาใช้กับธุรกิจนั้นต้องเริ่มต้นจากโจทย์ หรือเป้าหมายทางธุรกิจ หรืออาจจะเป็น pain point ของธุรกิจที่มีอยู่ และต้องการนำโซลูชัน AI เพื่อมาแก้ไขปัญหา pain point นั้นๆได้ เช่นนำ AI มาใช้กับกระบวนการทำงานนี้แล้วจะทำให้องค์กรลดต้นทุนได้มหาศาล หรือสามารถสร้างรายได้ให้กับองค์กรได้มากขึ้น โดย AI จะเหมาะกับ Task หรือหน้าที่งานที่ต้องทำแบบซ้ำๆไปมา และมีข้อมูลที่เข้ามาเป็นจำนวนมาก
ตัวอย่างเช่น การทำเคลมของประกันต้องใช้พนักงานในการตรวจเอกสารที่เข้ามาเป็นจำนวนมาก เพื่อที่จะดึงข้อมูลไปประมวลผลต่อ การนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้จะทำให้ประหยัดเวลาในการทำงานในส่วนนี้ไปได้มาก หรือการใช้แชทบอทในการตอบคำถาม หรือคัดกรองลูกค้าเบื้องต้นก่อนที่จะส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ให้บริการลูกค้า เป็นต้น
ตัวอย่างการนำโซลูชัน AI ไปใช้งานกับแต่ละประเภทธุรกิจ
1. ธุรกิจการเงิน และธนาคาร
โซลูชัน AI ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบที่ลูกค้า และบริษัทสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงิน โดย AI ที่นำมาใช้กับธุรกิจการเงิน และธนาคารมีในหลากหลายรูปแบบตั้งแต่แชทบอทจนถึงการตรวจจับการฉ้อโกง และการทำงานแบบอัตโนมัติ โดยสถาบันการเงินที่นำโซลูชัน AI เข้ามาใช้งานจะทำให้กระบวนการทำงานคล่องตัวมากขึ้น และยกระดับการสร้างประสบการณ์การให้บริการลูกค้าให้สามารถเข้าถึงบริการทางด้านการเงินได้ 24 ชั่วโมง โดยโซลูชัน AI ที่ธุรกิจการเงิน และธนาคารสามารถนำมาใช้งานได้มีดังต่อไปนี้
• AI กับการประเมินเครดิต
เป้าหมายอีกหนึ่งอย่างของการนำ AI มาใช้ในการประเมินคะแนนเครดิตคือ AI หรือการใช้คอมพิวเตอร์นั้นไม่ใช้อคติในการตัดสินใจเหมือนกับการใช้พนักงานในการพิจารณา
ธนาคารดิจิทัล และแอปพลิเคชันในการปล่อยสินเชื่อใช้อัลกอริทึ่มของ Machine learning ในการประเมินข้อมูลทางเลือก หรือ Alternative data เช่น ข้อมูลการชำระค่าสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อประเมินความสามารถในการกู้ยืมเงินของผู้ขอใช้สินเชื่อ และนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินได้แบบรายบุคคล
• AI กับการป้องกันการฉ้อโกง
ธนาคารเองก็ได้นำ AI มาช่วยในการเปิดเผย และป้องกันอาชญากรรมทางการเงินประเภทอื่นๆ นั่นก็คือการฟอกเงิน โดยที่ระบบคอมพิวเตอร์จะตรวจจับกิจกรรมทางการเงินที่น่าสงสัย และช่วยลดค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบถึงแผนการฟอกเงิน ซึ่ง AI สามารถลดภาระงานในการตรวจสอบได้ถึง 20%
• AI กับกระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติ
AI สำหรับการประมวลผลเอกสารแบบอัตโนมัติทำให้หน้าที่งานที่เดิมกินเวลาการทำงานเป็นจำนวนมาก และทำให้ค่าใช้จ่ายโอทีเพิ่มสูงขึ้นสามารถทำได้โดยอัตโนมัติ ด้วยเทคโนโลยี AI ทำให้ซอฟต์แวร์ AI-Powered OCR สามารถประมวลผลและตรวจสอบข้อมูล และสร้างเป็นรายงานตามตัวแปรที่กำหนด รวมถึงรีวิวเอกสาร และดึงข้อมูลจากเอกสารประเภทต่างๆได้แบบอัตโนมัติ เช่น ฟอร์มการสมัคร บัตรประชาชน สัญญาต่างๆ เป็นต้น
2. ธุรกิจประกัน
ธุรกิจประกันเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้มีการนำ AI เข้ามาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นประเมินความเสี่ยง ป้องกันการฉ้อโกง และลดข้อผิดพลาดในการทำงาน ทำให้ผู้ให้บริการประกันมีตัวช่วยที่ดีที่ช่วยในการขายประกันที่เหมาะกับลูกค้าแต่ละคน รวมถึงในมุมของลูกค้าเองก็ได้ประโยชน์จากการที่บริษัทประกันนำโซลูชัน AI มาใช้งาน ทำให้ลูกค้าได้รับบริการที่ดีเยี่ยม และกระบวนการเคลมที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว
• AI กับขั้นตอนการเคลมที่รวดเร็ว
บริษัทประกันมีหน้าที่ดำเนินการช่วยเหลือลูกค้าในการเคลมประกันที่เป็นไปตามเงื่อนไขในกรมธรรม์ แต่การเข้าถึงการเคลมประกันไม่ใช่เรื่องที่ง่าย พนักงาน หรือตัวแทนประกันจำเป็นต้องตรวจสอบเงื่อนไขหลายอย่าง และรวบรวมทุกรายละเอียดเพื่อกำหนดว่าลูกค้าจะได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนเป็นจำนวนเท่าไหร่ เรียกได้ว่าเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความพยายาม และอุตสาหะเป็นอย่างมาก ซึ่งโซลูชัน AI สามารถช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้
ด้วยอัลกอริทึ่มของ AI สามารถลดเวลา และจำนวนข้อผิดพลาดของการส่งต่อข้อมูลจากแหล่งข้อมูลหนึ่งไปยังอีกทีหนึ่งได้ เพียงแค่ล็อกอินเข้าไปในระบบ และอัพโหลดเอกสารที่เป็นไฟล์ PDF เข้าไป บริษัทประกันสามารถลดเวลาในการกรอกข้อมูลเข้าไปในระบบ และทำให้ข้อมูลมีความแม่นยำมากขึ้นด้วยโซลูชัน AI ประมวลผลเอกสารแบบอัตโนมัติ
3. ธุรกิจค้าปลีก
ธุรกิจค้าปลีกเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ต้องมีการปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อให้ก้าวทันกับพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนแปลง การนำโซลูชัน AI เข้ามาใช้งานจะทำให้ผู้ค้าปลีกสามารถยกระดับการสร้างประสบการณ์กับลูกค้า นำเสนอบริการและตอบรับการความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจในยุคของเทคโนโลยี AI และ Big data
เมื่อความต้องการในการพัฒนาประสบการณ์การให้บริการลูกค้าแบบรายบุคคลเติบโตมากขึ้น ธุรกิจจึงได้นำโซลูชัน AI มาใช้งานเพื่อช่วยในการเติมช่องว่างในส่วนนี้ ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี AI ได้ยกระดับให้การทำงานในองค์กรมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะงานในด้านบริการ การนำแชทบอทมาใช้กับงานการให้บริการลูกค้าถือเป็นแนวหน้าในการเปลี่ยนแปลงนี้