7 ก.ย. 2022 เวลา 12:24 • ปรัชญา
เรื่องราวของสิ่งที่เป็นอุปสรรค ขัดขวางเรื่องราว ของความสมหวัง ไม่สมหวัง ที่เรียกว่าโลกนี้ให้เพียงความสมหวัง สมหวังในสิ่งที่อยากได้ ในสิ่งที่เราไปยึดไปถือ หากเกิดความไม่สมหวัง ไม่เป็นไปดังใจก็ผิดหวัง ก็มีความโศกเศร้าเป็นธรรมดา คราวนี้ความที่เรามีกรรม จิตมันก็เลยติดหล่ม จมอยู่กับ สิ่งที่เรายึด ..ทั้งที่บุคคลนั้น เค้าก็ถอยห่างจากเราไป ไปไหนก็เรื่องของเค้า
แต่ที่แน่ๆ คือ เราไม่มีเค้า เป็นเพื่อน สิ่งที่เคยชิน กับสิ่งเรายึดติด คาดหวัง มันเหมือนทำนบเขื่อน ที่พังทะลาย อารมณ์ที่คาดหวังสิ่งนั้นสิ่งนี้ จะทำเรื่องนั้น เรื่องนี้ เรื่องอนาคตที่ยังไม่เกิด ก็ยังคาดหวัง
มันสะสมเหมือยน้ำในเขื่อน ทุกสิ่งทุกอย่างที่คาดหวังมันพังทลาย น้ำที่อยู่ในเขื่อนก็ไหลออกมาไม่ หยุดหย่อน คือ อารมณ์ที่ซ่อนเร้นอยู่กับจิตใต้สำนึก อยู่กับธาตุทั้งสี่ที่ประกอบมาเป็นกายเรา ให้จิตเราอาศัยอยู่ น้ำนั่นอารมณ์กไหลออกมาเรื่อย จิตใจมักทุกข์โศกรำพึงรำพัน กลับเรื่องราวอดีตที่ไหลออกมา จิตมันก็จมอยู่กับอารมณ์ทุกผโศกเศร้าอยู่อย่างนี้นั่น มันเหมือนเป็นกรรม เป็นอารมณ์ที่กดให้จิตเราจมลงไปๆ เหมือนจิตนั่ถูกกักขัง ในห้องของความโศกเศร้าขุ่นมัว
เรื่องนี้ เมื่อเรารู้ว่าเหมือนเป็นกรรมที่กักขังจิตเราอยู่ เราก็อาจเคยไปกระทำเรื่องราวทำนองนี้ สะสมไว้ มันจึงได้มาเกิดกับเรา เราก็นำกายของเราไปทำบุญใส่บาตรพระ กรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร ทำเพื่อให้เกิดเป็นอโหสิกรรม ทำครั้งเดียวไม่หาย เราทำให้บ่อยๆ ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ (อย่าไปเรียกร้องให้ร่ำรวย ยศฐานบรรดาศักดิ์เด็ดขาด เพราะนั้นเค้าเรียกว่า ทำบุญเห็นแก่ตัว ทำบุญให้เค้าไม่จริง เหมือนเราให้ของใครไป แล้วเรียกร้องคืน ไหนล่ะที่ยอกว่าให้ อะไทำนองนี้)
แล้วสิ่งที่เรารู้ตัวว่า อารมณ์โศกเศร้ามันเกิดขึ้น เราก็ไปออกกำลัง อย่าไปอยู่เฉย ยิ่งคิดก็ยิ่งเศร้า เพราะอารมณ์มันเศร้าหมองอยู่ เราก็อย่าไปคิดมัน หาอะไรทำให้เพลินไปก่อน ให้อารมณ์ที่เพลิดเพลินสนุกสนานเข้ามาแทนที่ ตัวโศกน้ำตาเล็ด เราก็อย่าไปเอามันมาคิดมานึก
เราปล่อยวางให้ผ่านพ้นอารมณ์นี้ได้ ให้เค้าไปดี ให้มีความสุขความเจริญ เราให้พรเค้าไปด้วย ..เพื่อจะได้เกิดเป็นอโหสิกรรม จิตเราจะได้ไม่ไปผูกยึดอารมณ์เศร้าหมองที่ไม่มีตัวตน เหลือชื่อเค้าอยู่ในความทรงจำ เราก็ลบมันออกไปๆ จนไม่จดจำเรื่องเค้า มันก็หมดเวรหมดกรรมกับเรื่องราวของเค้าไปได้
โฆษณา