7 ก.ย. 2022 เวลา 17:38 • ความคิดเห็น
ค่ำคืนที่ฝนตกหนักบ้างเบาบ้างตลอดทั้งคืนสำหรับคนกรุงเทพฯ นอกจากบรรยากาศในการนอนที่เย็นสบาย ก็ยังไม่เห็นประโยชน์จากการที่ฝนตก แต่กลับสร้างความหวั่นวิตกกับคำว่า "น้ำท่วม"
หากย้อนกลับไปศึกษาประวัติศาสตร์ของกรุงรัตนโกสินทร์ จะทราบว่าเหตุการณ์น้ำท่วมเป็นปรากฏการณ์ที่อยู่คู่กับกรุงเทพฯ เสมอมา
ในปีพ.ศ 2328 หลังจากตั้งกรุงรัตนโกสินทร์มาได้เพียง 3 ปีก็เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ที่รู้จักกันในชื่อว่า "น้ำท่วมใหญ่ปีมะเส็ง" ความลึกของน้ำที่ท่วม วัดได้ที่ท้องสนามหลวงมากกว่า 4 เมตร และปรากฏการณ์น้ำท่วมกรุงเทพฯ ยังคงต่อเนื่องมาจนถึงรัชกาลปัจจุบัน
ในยุคที่มีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครปรากฏการณ์น้ำท่วมใหญ่ก็มีมาอย่างต่อเนื่อง
~น้ำท่วมปีพ.ศ 2518 นายธรรมนูญ เทียนเงิน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ
~น้ำท่วมปีพ.ศ 2521 นายชลอ ธรรมศิริ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ
~น้ำท่วมปีพ.ศ 2523 นายเชาวน์วัศ สุดลาภา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ
~น้ำท่วมปีพ.ศ 2526 พล.ร.อ.เทียม มกรานนท์ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ
~น้ำท่วมปีพ.ศ 2529 และน้ำท่วมปีพ.ศ 2533 พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ
~น้ำท่วมปีพ.ศ 2537 และน้ำท่วมปีพ.ศ 2538 ร.อ.กฤษฎา อรุณวงศ์ ณ อยุธยา ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ
~น้ำท่วมปีพ.ศ 2539 และน้ำท่วมปีพ.ศ 2541 นายพิจิตต รัตตกุล ดำรงตำแหน่ง
ผู้ว่าฯ ~น้ำท่วมปีพ.ศ 2549 นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ
นอกจากนี้ก็ยังมีเหตุการณ์น้ำท่วมในกรุงเทพมหานครอีกหลายครั้งซึ่งถือว่า ไม่ถึงขั้นรุนแรง แต่เกิดขึ้นอยู่เสมอ...และล่าสุดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ที่ต้องจดจำคือในปีพ.ศ 2554
สาเหตุที่เกิดปรากฏการณ์น้ำท่วมหลายครั้งต่อเนื่องกันมาอย่างยาวนาน เป็นเรื่องที่คงมีผู้วิเคราะห์ออกมามากมายหลายประเด็นให้ทราบกันอยู่แล้ว...ในเวลานี้ได้แต่ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 ที่ทรงมุ่งมั่นเพื่อแก้ปัญหาและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ มาโดยตลอด ในโอกาสนี้ขออัญเชิญพระราชดำรัสบางส่วนบางตอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อปีพ.ศ 2538 ดังนี้
1
"...ต้องหาวิธีทำโครงการ ที่ทำของชลประทานกับกรุงเทพมหานครมีว่า ทำการระบายน้ำลง แต่ความคิดใหม่ที่คิดแทนที่จะไล่น้ำลง จุดที่เร่งน้ำมีความจำเป็น แต่ยังไม่มีจุดที่สูบน้ำออกทะเลโดยแท้ สูบน้ำออกทะเลนี่ต้องใช้ที่เรียกว่า "ซัมพ์" คือเป็นอ่างหรือเป็นบ่อ ที่จะสามารถเอาเครื่องสูบน้ำขนาดยักษ์มาสูบออก เพราะว่าถ้าแอ่งน้ำลึก 50 ซม. สูบใหญ่นั้นจะฮวบเดียวก็หมดแล้ว สูบนั้นจะพังเพราะว่ามันกินทรายกินกรวดไป จะต้องทำซัมพ์ให้ลึก..."
ทรงพระราชทาน "โครงการแก้มลิง" และพระบรมราชาธิบายเกี่ยวกับระบบการบริหารจัดการน้ำท่วมที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑล
"...ลิงโดยทั่วไป ถ้าเราส่งกล้วยให้ ลิงก็จะรีบปอกเปลือกแล้วเอาเข้าปากเคี้ยว ๆ แล้วเอาไปเก็บที่แก้ม จะกินกล้วยเข้าไปไว้ที่กระพุ้งแก้มได้เกือบทั้งหวี โดยเอาไปเก็บไว้ที่แก้มก่อน แล้วจะนำออกมาเคี้ยวและกลืนเข้าไปภายหลัง ด้วยพฤติกรรมการนำเอากล้วยหรืออาหารมาสะสมไว้ที่กระพุ้งแก้มก่อนการกลืนนี้ จึงเป็นพฤติกรรมตัวอย่างที่จะนำมาใช้ในการระบายน้ำท่วมออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังบริเวณทิศตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา..."
เปรียบเทียบได้กับเมื่อเกิดน้ำท่วมก็ขุดคลองต่าง ๆ เพื่อชักน้ำให้มารวมกันแล้วนำมาเก็บไว้เป็นบ่อพักน้ำอันเปรียบได้กับแก้มลิง แล้วจึงระบายน้ำลงทะเลเมื่อปริมาณน้ำทะเลลดลง
ประเทศไทยโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระอัจฉริยภาพ ทรงเปี่ยมล้นด้วยพระปรีชาสามารถ พระองค์ทรงมีวิสัยทัศน์ในการจัดการน้ำอย่างยาวไกล และทรงทุ่มเททำงานแก้ปัญหาน้ำมาโดยตลอด สิ่งที่พระราชทานไว้ให้นี้ ยังคงหวังว่าผู้มีอำนาจและผู้เกี่ยวข้องจะมองเห็น และนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างจริงจัง...🙏
#มูลนิธิอุทกพัฒน์ในพระบรมราชูปถัมภ์
#โครงการแก้มลิง
โฆษณา