ในตลาดอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ สหรัฐอเมริกายังคงเป็นผู้ส่งออกอาวุธรายใหญ่ที่สุดของโลก คิดเป็น 43% ของการส่งออกอาวุธทั่วโลกระหว่างปี 2020 ถึง 2024 . ตามข้อมูลจากสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (SIPRI) ซึ่งมากกว่าฝรั่งเศสซึ่งอยู่อันดับสองถึง 4 เท่า รองลงมาคือรัสเซีย จีนอยู่อันดับที่สี่ โดยส่งออกอาวุธเกือบสองในสามไปยังประเทศเดียวคือปากีสถาน . การโฆษณาถึงความสำเร็จของจีนในสมรภูมิอินเดีย-ปากีสถานนั้น ทำให้โลกหันมาสนใจในความเปลี่ยนแปลงของตลาดอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ พร้อมทั้งเกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับความพร้อมของกองทัพอากาศอินเดีย ไม่ใช่แค่ระบบของเครื่องบินเท่านั้น การตัดสินที่ผิดพลาดของอินเดียอาจทำให้อาวุธของปากีสถานดูมีประสิทธิภาพมากขึ้นก็เป็นได้ . ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา จีนจัดหาอุปกรณ์และอาวุธทางการทหารให้แก่ผู้ซื้อใน 40 ประเทศ ความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศทางการทหารของจีน เป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับคู่แข่งในตลาดอาวุธโลก . นอกจากนี้ การพัฒนาเทคโนโลยี ทำให้การทำสงครามในอดีตเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ “สงครามอิเล็กทรอนิกส์” ซึ่งความสามารถทางอิเล็กทรอนิกส์ใหม่นั้น มิใช่เพียงวิธีการขัดขวาง หลอกลวง ปฏิเสธ หรือทำให้การสื่อสาร การนำทาง การสั่งการ และการควบคุมของฝ่ายตรงข้ามเสื่อมลงเท่านั้น . แต่มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นอาวุธที่เลือกใช้ต่อสู้กับโดรนและก่อให้เกิดอันตรายโดยตรงต่อฝ่ายตรงข้ามมากขึ้น ความรวดเร็วในการพัฒนาเทคโนโลยีทางการทหารเหล่านี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อการลงทุนและกฎหมายที่ควบคุมในอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศอย่างแน่นอน.