11 ก.ย. 2022 เวลา 12:19 • ธุรกิจ
Henri Nestlé ผู้วางรากฐาน Nestlé สู่บริษัทอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก
ในวงการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งมีคู่แข่งหน้าใหม่รอต่อคิวเข้ามาแข่งขันเสมอ
ผู้ที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดได้ต้องแข็งแกร่ง มีเอกลักษณ์ และมีความยืดหยุ่นสามารถปรับตัวไปตามสถานการณ์ได้
2
ซึ่งทั้งหมดนี้ คือ สิ่งที่ Nestlé พิสูจน์ออกมาในช่วงเวลามากกว่า 150 ปี
จนต่อยอดกลายมาเป็นบริษัทอาหารและเครื่องดื่มเจ้าใหญ่ที่สุดในโลก
การต่อยอดที่ยิ่งใหญ่ มักจะมาจากการวางรากฐานที่ยอดเยี่ยม
กรณีของบริษัท Nestlé ก็เช่นกัน เพราะพวกเขามีผู้ก่อตั้งที่วางรากฐานอันมั่งคง ซึ่งมีหลายต่อหลายส่วนยังถูกนำมาปรับใช้กับองค์กรอยู่จวบจนปัจจุบัน
บุคคลผู้นั้น คือ คนที่ Bnomics จะนำเรื่องราวของเขามาเล่าในบทความนี้
โดยชื่อของเขา คือ “Henri Nestlé”
📌 ชีวิตวัยเด็กของ Nestlé
Henri Nestlé หรือชื่อในตอนเกิด Heinrich Nestlé เป็นบุตรคนที่ 11 จาก 14 คน ในครอบครัวช่างตัดกระจกชาวเยอรมันที่ฐานะค่อนข้างดี ซึ่งส่งผลให้เข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าคนทั่วไป
แม้จะอยู่ในครอบครัวที่ฐานะดี แต่ก็มีปัญหาอย่างหนึ่งที่ทางครอบครัวของเขาก็ต้องเผชิญไม่ต่างจากครอบครัวทั่วไปในยุคนั้นเท่าใดนัก
คือ การเสียชีวิตของทารกตั้งแต่ยังอายุน้อย
เพราะในตอนนั้นความรู้ ความเข้าใจด้านการแพทย์และโภชนาการของเด็กยังไม่ดีนัก ทำให้ตอนที่คุณ Nestlé เกิดขึ้นมาใน ค.ศ.1814 ก็มีพี่น้องถึง 5 คนของเขาเสียชีวิตไปก่อนหน้าแล้ว
เรื่องนี้เชื่อกันว่า เป็นเรื่องฝังใจที่จะส่งผลต่อสินค้าเกี่ยวกับเด็กที่เขาพัฒนาในช่วงต่อมา
2
แม้ประวัติด้านการศึกษาช่วงเด็กของเขา จะไม่ถูกบันทึกไว้อย่างชัดเจน
แต่ด้วยฐานะทางครอบครัวก็น่าจะทำให้เขามีโอกาสได้รับการเรียนที่ดี
และเมื่อยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ ในปี 1833 คุณ Nestlé ก็จบหลักสูตรการฝึกงานกับเภสัชกรในเมืองแฟรงเฟิร์ต
ซึ่งถ้าเทียบกับยุคนี้ การจบการศึกษารวมกับการฝึกงานตั้งแต่อายุ 20 ปีก็ดูจะรวดเร็วมาก แต่ในยุคนั้น อายุเท่านี้ถือเป็นช่วงเวลาปกติที่เด็กจากครอบครัวชนชั้นฐานะดี จะเริ่มออกหาตัวตนของตัวเองกันแล้ว
การฝึกงานกับเภสัชกร ยังปูพื้นฐานด้านเคมี ที่ในตอนนั้นยังไม่มีการแยกสอนจากวิชาวิทยาศาสตร์องค์รวม ถ้าอยากเรียนก็ต้องมาศึกษากับคุณหมอยา อย่างที่คุณ Nestlé ทำ
2
📌 ชีวิตหลังจากมาอยู่สวิสเซอร์แลนด์
หลังจากจบการฝึกงานด้านเภสัชกร Heinrich Nestlé (ยังไม่เปลี่ยนชื่อ) ก็ได้เดินทางทั้งในและนอกประเทศเป็นเวลาหลายปี
จนกระทั่งในปี 1839 เขาก็ได้ย้ายมาทำงานที่เมืองโลซานน์ (Laisanne) ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ในฐานะ “ผู้ช่วยเภสัชกร”
และในเมืองนี้เองที่เขาก็ได้สอบใบอนุญาตในการทดลองทางเคมี ซึ่งเป็นการเปิดทางสู่เส้นทางอาชีพเขาต่อมา
ซึ่งเมื่อมารวมกับนิสัยเก่าที่ได้มาจากครอบครัวธุรกิจในสมัยที่ยังอยู่เยอรมนีแล้ว ก็ทำให้เขาทดลองผลิตสินค้าหลายอย่างในช่วงเวลานับ 10 ปี ตั้งแต่ น้ำโซดา ปูนซีเมนต์ น้ำมันประกอบอาหาร เหล้ารัม ไวน์ ฯ
3
แต่การทดลองและการเดินทางอันยาวนานของเขา มาถึงจุดที่ประสบความสำเร็จในช่วงปี 1870 เมื่อเขาได้ผลิต “นมผงสำหรับเด็ก” ขึ้นได้
2
อย่างที่เราเล่าไปตอนต้นว่า คุณ Nestlé เจอกับเหตุการณ์ที่พี่ร่วมสายเลือดต้องเสียชีวิตตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้เขาสนใจเรื่องโภชนการของเด็กมาโดยตลอด
ประกอบกับในยุคนั้น มีทารกจำนวนหนึ่งไม่สามารถทานนมแม่ได้ ในสังคมชนชั้นสูงก็มองว่า การให้นมแม่เป็นสิ่งที่ไม่ร่วมสมัยแฟชั่น ความต้องการนมวัว เพื่อให้เด็กก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ
2
แต่นมสดก็ไม่ได้มีเพียงพอกับทุกเมือง การผลิตนมผง ซึ่งเก็บได้นาน และง่ายต่อการชงเพียงแค่ใส่น้ำร้อน จึงประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ทั้งในประเทศสวิสเซอร์แลนด์เอง ทั่วทั้งทวีปยุโรป และขยายออกมาสู่
โดยโรงงานผลิตนมผงของเขาตั้งอยู่ที่เมืองเวเวย์ (Vevey) สวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งก็ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของ Nestlé มาจนถึงปัจจุบัน
และในช่วงที่เขาย้ายถิ่นฐานมาที่นี่ก็ได้ทำการเปลี่ยนชื่อจาก Heinrich Nestlé มาเป็น Henri Nestlé เพื่อให้เข้ากับวัฒนธรรมชุมชนฝรั่งเศสในเมืองด้วย
1
บริษัทของเขาไม่เคยหยุดนิ่งในการสรรค์สร้างนวัตกรรมใหม่ๆ มีการทดลองเพิ่มโภชนาการและสร้างสินค้าใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลาในโรงงาน
ซึ่งวัฒนธรรมเช่นนี้เป็นสิ่งที่ส่งต่อภายในบริษัทต่อมา จวบจนปัจจุบัน ที่การทำวิจัยและพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ก็ยังเป็นรากฐานที่สำคัญที่สร้างมูลค่าให้บริษัทมาเสมอ
สะท้อนผ่านออกมาผ่านสินค้าใหม่ๆ ที่ Nestlé เป็นผู้นำหลายอย่าง ที่โด่งดังและประสบความอย่างยิ่ง หนึ่งในนั้น คือ “กาแฟผง”
1
นอกจากนี้ แม้แต่บริษัทที่ Nestlé ได้ทำการควบรวมกิจการมา ก็ถูกพัฒนาต่อยอดความรู้ จนสร้างเป็นสินค้าใหม่ ยกตัวอย่างเช่น “ช็อคโกแลตแท่ง KitKat”
3
มรดกชิ้นสำคัญอีกอย่าง ที่คุณ Nestlé ได้ทิ้งไว้ให้กับบริษัท คือ การสร้าง Branding ตราโลโก้ของบริษัทที่แสนเรียบง่ายแต่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากนามสกุลของเขาเอง ที่แปลว่า “รังนกอันเล็ก”
1
ผู้เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References:
เครดิตภาพ : houseofswitzerland.org
#APEC2022Thailand #APEC2022COMMUNICATIONPARTNER
โฆษณา