14 ก.ย. 2022 เวลา 00:54 • ความคิดเห็น
Blackwashing ระเมิดสิทธิ์คนผิวขาว!!?
เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่าคนภูมิภาคนี้จะไม่อิน ไม่รู้ประวัติศาสตร์และไม่เข้าใจการเหยียดผิวแบบที่เกิดในอเมริกา
ถ้าจะอินก็ต้องเข้าใจ ถ้าจะเข้าใจได้ก็ต้องรู้ก่อน
การเหยียดผิวที่เกิดมันไม่ใช่แค่ด่ากันแบบที่คนเอเชียโดนล้อ หรือโดนทำร้ายจากอาชญากรที่เห็นเป็นข่าวแค่นั้น
แต่อดีตคนดำที่อาศัยในอเมริกาตั้งแต่อดีตเคยมีบรรพบุรุษที่เป็นทาสมาก่อนทั้งนั้น Free people ที่เป็นคนดำที่จะมีบทบาทในสังคมนั้นแทบไม่มี
บางคนถูกสังหาร เผาทั้งเป็น จนถึงเลิกทาสก็เกิด Jim crows law แบ่งแยกคนขาวและคนดำ ตั้งแต่เกิดจนตาย
เกิดการสังหารหมู่ Tulsa มีการทดลองเชื้อโรค Tuskegee โดยการฉีดเชื้อซิฟิลิสให้ชายผิวดำ ยุคนั้นตำรวจไล่ฆ่าคนดำไม่ผิด ใส่ความยังไงก็ได้ โดนไล่ออกจากร้านอาหารที่ติดป้ายว่าห้ามหมา ห้ามคนดำเข้าร้าน
จนกระทั่งเกิด civil rights movement ครั้งใหญ่ที่คนหลายแสนคนรวมตัวกันแน่นสนามใน Washington DC จนเกิดกฎหมาย civil rights act
แต่ก็ยังมีความเหลื่อมล้ำที่หยั่งรากลึกและอคติ เช่นการปล่อยเงินกู้ รายได้ การศึกษา
คนดำมักถูกมองเป็นอาชญากรไว้ก่อนอยู่เสมอ จนจอร์จ ฟรอยด์ตายเลยเกิด black lives matter
ที่อเมริกาและยุโรป
วันนี้ความเหลื่อมล้ำมันยังมีอยู่เพราะอเมริกาเป็น melting pot ที่หลอมรวมคนจากหลากหลายเชื้อชาติ วัฒนธรรม ศาสนา และคนเขาตระหนักว่ามีความเหลื่อมล้ำ เพื่อจะลดความเหลื่อมล้ำ ไม่ใช่เพราะมีความเหลื่อมล้ำหรือการเหยียดผิวที่มากกว่าที่อื่น
ที่ไทยแม้แต่ตัวเลขการเหยียดคนเชื้อชาติอื่นหรือต่างวัฒนธรรมยังไม่มีด้วยซ้ำ ไม่ใช่เพราะมันไม่เคยเกิด แต่เพราะเราไม่ได้สนใจว่ามันเป็นปัญหา ทั้งที่มันเป็นปัญหาของคนที่ถูกเหยียดเหล่านั้น
การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำที่เกิดจากอคตินั้นแก้ได้ยาก แต่ถ้าภาพยนตร์ หนังสือ หรือสื่อ ช่วยกันทำให้เรื่องสีผิว เชื้อชาติ ศาสนา ต่างทำให้เห็นว่าเป็นคนเหมือนกัน
คนรุ่นใหม่ที่เห็นว่าคนที่มีสีผิว เชื้อชาติ ศาสนาเดียวกันกับเขาได้กลายเป็นฮีโร่ที่เขาชื่นชอบ ทำให้เขาหรือเธอเติบโตขึ้นมามีความฝันที่อยากจะทำสิ่งที่ดีแบบที่ฮีโร่ของเขาหรือเธอได้ทำ
คนอื่นๆได้เห็นว่าคนที่ไม่เหมือนเขาก็เป็นคนเหมือนเขา มีความคิด มีความฝัน ที่ไม่ได้อะไรไปจากเขาเลย
เมื่อโทษของมันมีแค่การทำให้คนก่นด่า และเสียรายได้จากคนกลุ่มหนึ่ง ประโยชน์ที่มีต่อคนรุ่นใหม่ ทำให้เกิดความสวยงามของความเป็นมนุษย์ที่ไม่ว่าใครก็ฝันอยากจะใช้ชีวิตที่อยู่ร่วมกันของคนในสังคมอย่างมีความสุข
การไม่อินไม่แปลกอะไร แต่อยากให้มองกว้างๆว่าประโยชน์ของมันคืออะไร และตระหนักย้อนกลับมาดูว่ารอบๆเรามีอคติที่ซ่อนอยู่ (Implicit bias) หรือ ความเหลื่อมล้ำอะไรบ้างที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ มองกว้างกว่าคนรอบตัว และลองไปพบและพูดคุยกับคนเหล่านั้นที่เรามีอคติด้วย
จังหวัดที่เกิด ภูมิภาคที่เกิด อาชีพที่ทำ ศาสนา รายได้ ชื่อโรงเรียน หน้าตา การแต่งตัว รูปร่าง การเมือง ยี่ห้อรถยนต์
โฆษณา