"Make Noise"
เต้นนี้เพื่อลืมเธอ
“อยากพูดแต่พูดไม่ได้!!”
หลายครั้งที่ชีวิตเรามักเจออะไรบางอย่าง
ที่ไม่ว่าจะมีผลกับความรู้สึกแค่ไหน
ก็พูดออกไปไม่ได้หรือพูดยากไม่เต็มปาก
ยิ่งด้วยธรรมชาติของ “เสียง” ที่ถูกกำหนด
ให้สื่อสารด้วยการเปล่ง ปล่อย บอก
แล้วพอโตมากลับถูกบีบว่าต้องเก็บ
ไม่อาจพูดได้ทุกอย่างที่รู้สึก
จนบางทียิ่งเก็บเอาไว้ลึกก็ยิ่งอึดอัด
หัวใจดวงน้อยๆ ถูกบีบรัดกดแน่นไปหมด
ขืนปล่อยไว้นานก็อาจถึงขั้น
สูญเสียตัวตนที่เป็นอยู่
หลายครั้งการเงียบก็ทำให้เราดู
เหมือนยอมรับว่าเป็นไปตาม
เสียงที่ใครๆ เค้าว่ามานั้นนั้น
ทั้งที่จริงแล้วมันอาจไม่ใช่เลยซักนิด
การพยายามแสดงความเข้มแข็ง
ไม่แสดงออกด้วยคำพูด
ทั้งที่ข้างในนั้นปวดร้าวอยู่
กลายเป็นดาบสองคมโดยไม่รู้ตัว
เป็นแบบนี้ก็คงต้อง “ส่งเสียง”
Make some noise ทำอะไรซักอย่าง
ส่งแรงสั่นสะเทือนให้รู้บ้าง
ว่าเราเองก็มีความรู้สึก
มีความนึกคิดที่ร่ำร้องก้องอยู่
วันนี้ถึงเวลาแล้วรึยังที่จะยืนหยัดด้วยเสียงของเรา
ใจความสำคัญส่วนนึงจาก “Make Noise”
เพลงของเหล่า Under Girls จาก #GE2022
ที่มาพร้อมซาวด์ดนตรีอันหนักหน่วง
ส่งกลิ่นอายความเป็น EDM ขั้นสุด
เพียงแค่ Intro เปิดมาก็ให้ความรู้สึก
เหมือนกำลังเต้นอยู่ในผับ
ปลดปล่อยความรู้สึกไปกับเพลง
ออกสเต็ปตามทำนอง จังหวะ
เคล้าบรรยากาศสลัวยามค่ำคืน
ท่ามกลางแสงไฟวิบวับจับตา
หันซ้ายขวาแล้วเจอสาวๆ สวยพริ้ง
ยิงดาเมจผ่านสายตาอันเร่าร้อน ซาบซ่าน จับใจ
ทำเอาอยากจะเดินเข้าไปชนแก้ว
แล้วเต้นปลดปล่อยความมันส์
ขยับสเต็ปหัวใจให้ตรงกันก็คงดี
แต่ถ้าโดนหักอกหรือเมินใส่ที
การเต้นครั้งนี้ก็คงเพื่อลืมเธอจริงๆ
รวมถึง MV และโชว์ที่ไม่ต้อง
สร้าง Story อะไรให้มากมาย
โชว์ไลน์เต้นเมมเบอร์ให้เห็นกันจะๆ
ระเบิด Performance กันจุกๆ
ชนิดที่ดูครั้งแรกถึงกับรู้สึก
“ดุเดือด เร่าร้อน แข็งแกร่ง”
จะโยก สะบัด พลิกแพลงท่วงท่า
ก็ทำเอาจอหรือเวทีแทบลุกเป็นไฟ!!
ยิ่งน้องๆ พากันสาดดาเมจออกมา
บอกได้คำเดียวว่าเข่าแทบทรุด
อยากจะลงไปนอนกองกับพื้น
สวยแซ่บสะเด่าเร่าร้อนเหลือเกิน
"ฮูพ" (คนกลาง) ที่นับวันยิ่งเฉิดฉาย เปล่งประกายสุดๆ
โดยเฉพาะเซ็นเตอร์อย่าง #HoopBNK48
ที่นับวันดูจะฉายแสงความโดดเด่นขึ้นไปอีกขั้น
ออร่าจับ ตากลมโตเป็นประกาย
รูปหน้าสวยคม ยิ้มทีตาสระอิ
แต่พอวางมาดจิกทีกล้องแทบแตก
หุ่นดี มีกล้ามเน้นๆ แข็งแรงทั้งท่าเต้น
ที่ไลน์สวยพลิ้ว ทรงพลัง ดูเพลินตา
สีหน้า แววตา อารมณ์ ความสามารถ
เข้าขั้นเอสของรุ่น 3 ฝากผลงาน
ทั้งการเป็นเซ็นเตอร์ “First Rabbit” เคียงคู่ปาเอญ่า
ทั้งการเป็นคนแรกๆ ของรุ่น ที่ได้รับโอกาสขึ้นเธียเตอร์
จนตอนนี้ก้าวขึ้นมาเทียบเคียงบรรดารุ่นพี่ได้อย่างภาคภูมิ
ความสามารถครบเครื่องทั้งร้อง เต้น เล่นหูเล่นตา
ไหวพริบและทักษะดีเป็นเลิศ
อย่างตอนตู้ปลาที่โปรโมต Make Noise
แล้วเธอเล่นเกมส์แพ้ โดนทำโทษให้เต้นแบบเร็วx2
ตอนแรกก็แอบห่วงว่าจะไหวมั้ย
ที่ไหนได้เต้นตามได้หมด
เก็บไลน์ได้เป๊ะทุกรายละเอียด
เพลงเร็วขึ้นไม่ใช่ปัญหาเมื่อเธอสู้กลับ
Shot ที่ฮูพแยกเขี้ยวใส่กล้อง ขยี้ใจสุดดดด
ไม่ว่าจะดูผ่านช่องทางไหน
ก็รู้สึกไม่ต่างกันเลยว่าคนอะไรโคตรสวย
แบบส้วย!! สวยตะโกน
ยิ่งใน MV ช็อต Close Up
ที่แยกเขี้ยวใส่กล้องก็ทำเอาเสียอาการ
แว้บแรกที่คิดในหัวคือ
ถ้าเจอ Doberman สาวพราวเสน่ห์แบบนี้
“กัดพี่ให้จมเขี้ยวเถอะฮูพ”
ความรู้สึกที่เจอเธอครั้งแรกในงานจับมือวันนั้น
ยังคงตราตรึงมาถึงทุกวันนี้เลย
ตรงๆ ตอนแรกแทบไม่ได้คาดหวังอะไรมาก
ด้วยความที่น้องเป็นท็อปเมมของรุ่น
ความนิยมสูงจากผลงานที่ผ่านมา
และแถวยาวที่หลายขดก็เป็นคำตอบได้ดี
ที่ไหนได้กลับเจอโมเม้นต์กระแทกใจแบบไม่ทันตั้งตัว
ฮูพ: ตะกี้พี่ไหว้ไรอ่ะ?
ผม (อึ้ง): แหะ…พี่ยืนทำสมาธิอยู่
ฮูพ: อ๋อ ทำสมาธิ
(ยิ้มทะลุแมสลายคิตตี้ คิมิโนโต๊ะมาก)
ผม: มาจากเพจ Side Stories น้าา
ฮูพ: เฮ้ย! หนูรู้จักกกก! (เขย่ามือเน้นๆ)
ผม(อึ้งต่อ): (พูดไม่ออก ได้แต่ยิ้มและพยักหน้าแทนคำขอบคุณ)
ฮูพ: ไปเลนอื่นมาแล้วอ่ะดิ๊ (โดนนนน ฮ่า)
ผม: อ่อไม่ๆ อันนั้นตัวพี่อีก Multiverse
คิดสด ตอบสด แล้วก็มายืนคิดทีหลัง
น้องจะดูมาร์เวลกะเรามั้ยก่อนนน
เขินแหละเลยต้องรีบตอบ โอยยย
ใดๆ คือเคยได้ยินเรื่องความใส่ใจของฮูพมามาก
แต่ก็ไม่คิดว่าจะใส่ใจขนาดนี้จนได้มาเจอกับตัว
สังเกตกระทั่งเราที่ยืนพนมมือไปมาระหว่างรอถึงคิว
แถมรู้จักเพจเล็กๆ ของเราด้วยโดยที่ยังไม่ทันบอก
ว่าเคยเขียนถึงเธอในบทความไหนไปแล้วบ้าง
อันนี้โคตรประทับใจเลย รู้สึกอิ่มเอมลอยจากเลน
นึกถึงโมเม้นต์นี้ทีไรก็ใจฟูทุกที
เกินปุยมุ้ยยย โดนตกเข้าแล้วเต็มๆ
มองหน้าทีแทบไม่กล้า “กะพริบตา”
ซึ่งเสน่ห์ในความเป็นฮูพนี่แหละ
ที่ส่งเสียงสั่นสะเทือนถึงหัวใจผม
และใครอีกมากมายหลายคน
ผ่านเสียงแห่งตัวตน มุมมอง แนวคิด
จริตจก้าน พร้อมเสน่ห์ที่แรงกล้าบางอย่าง
เลยอยากชวนทุกคนมาออกสเต็ป
โลดแล่นไปกับเรื่องราวระหว่างทางของเธอ
แล้วจะรักเธอมากขึ้นกว่าเดิม!
.
.
1. เสียงเงียบที่ดังก้อง
จริงอยู่ที่บทบาทของไอดอลตามพจนานุกรมหมายเลข 48 คือ นักสร้างแรงบันดาลใจที่ส่งพลังบวกให้คนที่เค้ารักและรักเค้าจากตัวตน ผลงาน ความคิดและการกระทำต่างๆ ไม่ว่าเหนื่อยล้ามาแค่ไหน เวลาออกงานพบปะแฟนคลับก็พร้อมดีดนิ้วรีด
เอเนอจี้ทั้งหมดออกมาได้ใหม่ เป็นไอดอลต้องสดใส เข้มแข็ง ถ้าทำได้ก็จะพยายามไม่แสดงความอ่อนไหว เจ็บปวด หวาดกลัวออกมาให้เห็น เพราะกลัวพวกเราจะเป็นห่วง
ทั้งที่ความจริงแล้วพวกเธอก็เป็นเด็กสาวธรรมดาคนนึงที่มีความรู้สึก มีจุดเด่น มีข้อจำกัด เจออะไร Toxic เข้ามากระทบจิตใจบ่อยๆ มันก็บั่นทอน เหมือนมีโซ่ตรวนมาล่ามหัวใจไว้ จะเชื่อใจใครก็ไม่ง่ายเท่าไหร่สมัยนี้ บางทีเสียงข้างในอาจกำลังร่ำร้อง เกิดเป็นความเงียบที่ดังก้องไม่หยุด แต่แล้วก็ต้องพยายามกล้ำกลืนเก็บมันเอาไว้ก่อนจะยิ้มสู้ทำงานต่อ สุขนอกเศร้าในใครเล่าจะได้ยิน
"Doberman Pinscher" สุนัขตำตรวจ สายอารักขา ดูแล
เปรียบดั่ง “Doberman Pinscher (โดเบอร์แมน พินเชอร์)” ที่น่าเกรงขาม กล้าหาญ พลังงานล้นเหลือ ทำอะไรก็ดูปราดเปรียว แยกเขี้ยวพร้อมขย้ำผู้ร้ายไม่ว่าใคร อันตรายใดๆ เข้ามาก็พร้อมวิ่งเข้าใส่ จึงมักได้รับหน้าที่ให้เป็นสุนัขตำรวจหรือคอยอารักขา เฝ้าบ้าน ดูแลความปลอดภัยต่างๆ มองจากภายนอกอาจดูดุร้าย
ทั้งที่ข้างในเค้าคือเพื่อนผู้ซื่อสัตย์ และรักเจ้าของสุดๆ ชนิดที่หากพูดถึงน้องหมาที่ฉลาดและจงรักภักดี ต้องนึกถึงพันธุ์นี้เป็นอันดับแรกๆ ซึ่งก็เพราะตัวตนที่ดุดันแบบนี้แหละ ทำให้ยากที่จะแสดงความกลัวออกมา ไม่รู้ว่าต้องทำยังไง เสียใจรึกลัวแค่ไหนแต่ต้องทำเป็นเข้มแข็ง อย่างที่เราอาจเคยได้ยินว่าบางทีหมาเห่าก็ทำไปเพื่อป้องกันตัว ทำเพราะมีความกลัวที่ซ่อนอยู่ในใจ
ภาพของเด็กสาวที่ปกติเป็นคนร่าเริง เฮฮา ใส่ใจทุกคนมาตลอด พอถึงวันนึงที่ไม่อาจเก็บความรู้สึกที่อัดอั้นไว้ได้อีก หยดน้ำใสๆ ก็ไหลจากสองตาในไลฟ์วันนั้นยังจำได้ดี คิดอีกทีก็ยิ่งสงสารจับใจ ด้วยภาระ หน้าที่ ด้วยจังหวะและอะไรหลายๆ อย่าง ไม่มีทางที่จะ Fan Service ได้เท่ากันไปตลอด
ไม่ว่าฮูพรึเมมคนไหน ไม่มีใครคู่ควรต้องมาเจอปัญหาดราม่าแบบนั้น ขณะเดียวกันเรื่องนี้ก็ทำให้ฮูพได้เรียนรู้และเติบโตไปอีกขั้นว่าเธอควรไปต่อยังไงในแบบที่พอดีกว่าเดิม เชื่อว่ายังมีแฟนคลับอีกมากมายพร้อมเข้าใจและรักเธอไม่เปลี่ยน เป็นเธอที่เป็นเธอแบบนี้แหละดีที่สุด
2. เสียงแห่งความกล้า
"สาวนักซิ่ง" สายดริฟต์ตัวยง คือภาพจำแรกที่เราได้จากฮูพ
ใครที่ติดตามฮูพมาตลอดจะสังเกตได้ว่าเธอจะเป็นคนแมนๆ ลุยๆ กล้าคิดกล้าทำ อยากทำอะไรก็พาตัวเองออกไปสัมผัส ไปลองให้รู้ให้อินไปกับมันจริงๆ ชอบเล่นผาดโผน ชอบความ Challenge มาแต่เด็ก มองว่าการดริฟต์รถ ควบคุมทิศทางรถให้ได้คือการฝึกทักษะและไหวพริบในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า
“ความยากของการดริฟต์รถคือ
เราจะสู้ใจตัวเองได้แค่ไหน ในการจะเริ่มทำมัน!”
ฮูพ BNK48
แล้วเอามาปรับใช้กับเรื่องอื่นๆ อย่างการซ้อม เต้น โชว์ให้ดียิ่งขึ้น จากแต่ก่อนที่เธอยอมรับว่าตัวเองเป็นคนไม่กล้าทำอะไร กลัวที่จะลองสิ่งใหม่ๆ กลัวการเจอเพื่อนใหม่ๆ ก็พาตัวเองข้ามผ่านกำแพงตรงนี้มาเป็น BNK48 ดูซักตั้ง แล้วทำมันให้สุดทุกหยาดเหงื่อ พอได้โอกาสขึ้นสเตจเธียเตอร์ ได้เป็นเซ็นเตอร์เพลงแห่งรุ่น 3 ก็ไม่หยุดที่จะเรียนรู้และพัฒนาต่อ ฟีลแบบยังหรอก ชั้นยังไปได้อีก!!
เรื่องการร้องเพลงที่เป็นคนเนื้อเสียงดี ร้องเพราะ เข้าขั้นกลุ่มอันดับต้นๆ ในรุ่น แต่ยังมีปัญหาเสียงแกว่งบ้าง เพี้ยนบ้างตรงบ้าง ทว่าสิ่งที่ฮูพทำให้ผมทึ่งมากๆ คือในไลฟ์นึงที่เธอร้องเพลงแบบรัวๆ แล้วบอกว่าไม่กลัวที่จะโชว์ให้เห็นข้อจำกัดเรื่องเทคนิคและประสบการณ์ร้อง มองว่ายิ่งร้องสิดี ยิ่งได้ฝึกตัวเองให้ได้พัฒนาขึ้นอีก เพลงไหนไม่แม่นก็พยายามลองผิดลองถูก ยิ้มรับเฮฮาไปต่อ
พอมาเพลงนี้ที่ได้เป็นเซ็นเตอร์เดี่ยว ได้รับโอกาสให้เป็นคนอัดเสียง Demo นำให้ทุกคน (ปกติคณะครูจะอัดให้) จากตอนแรกที่ฟังแล้วไม่มั่นใจเลย ไม่ชินเสียงตัวเอง แต่ฟังไปเรื่อยๆ ก็ชั้นเป็นชั้นแบบนี้ นี่เป็นเสียงของชั้น! ซึ่งใครที่ดูไลฟ์เธอเมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา ตอนเปิดเสียง Demo จะเห็นได้ว่าเสียงร้องของฮูพพัฒนาขึ้นมาก ช่วงเสียงกว้างขึ้น เสียงสูงไปถึงได้แบบไม่มีปัญหา มาไกลจากเดิมมาก
รวมถึงการเป็นไอดอลผู้เป็นตัวอย่างของความกล้าในการสปีคอิงลิช ซึ่งใครหลายๆ คนมักเจอปัญหากลัวพูดผิดแกรมม่า ไม่กล้าพูด เดินหนีฝรั่ง ไม่รู้จะสื่อสารยังไง สิ่งที่ฮูพทำให้เห็นไม่มีอะไรมากไปกว่าพูดออกมาเถอะ ฝึกให้คุ้นเคยในชีวิตประจำวัน แบบที่เธอและพี่ชายชอบคุยอังกฤษกันไปมา เป็นวิธีที่ครอบครัวพยายามปลูกฝังลูกๆ ให้ได้ฝึกภาษา จะผิดจะถูกอย่างน้อยก็ได้
ฝึกความกล้าจนชินเป็นธรรมชาติ หรือหาแรงบันดาลใจให้อยากเก่งอังกฤษขึ้นก็ได้แบบที่เธอเคยเรียนพิเศษแล้วเจอครูฝรั่งหล่อๆ ก็ฝึกจนพูดคล่องปากเลยทีนี้55+ ไม่แน่ว่าวันนึงฮูพอาจเป็น Influencer ด้านภาษาขึ้นมาก็ได้นะ ทั้งน้ำเสียง สำเนียง ความมั่นใจของเธอเต็มสิบไม่หักเลยล่ะ
ฮูพในงาน Matsuri
กล้าที่จะคิด กล้าที่จะพูด ส่งเสียงตัวเองออกไปให้ทุกคนได้รู้ อย่างล่าสุดกับงาน Matsuri ฮูพที่ต้องเรียนไปด้วย ทำงานไปด้วยก็รู้ตัวเองดีว่าไม่ไหวแน่ ก็บอกอาจารย์ไปตรงๆ ว่าต้องทำงานนี้ “จับปลาสองมือไม่ได้ เราก็ต้องเลือกเสียอะไรซักอย่าง” เรียนรู้ที่จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นไปอีกขั้น
“การเข้ามาเป็น BNK48 ทำให้หนูได้ลองทำอะไรหลายๆ อย่าง ไม่เคยคิดมาก่อนว่าอยู่วงนี้แล้วเราจะได้ลองเป็นแม่ค้า ได้ลองมาทำอะไรของตัวเองจริงๆ ได้เอาสิ่งที่เราเรียนมาทำด้วยซ้ำ เอากราฟิกมาทำ ได้ลองคำนวณนั่นนี่ บางทีงานเยอะมากแต่เราไม่เคยทำมาก่อน เลยรู้สึกว่ามันได้มากกว่าสิ่งที่เราเคยคาดหวังไว้ตอนก่อนเข้าวง มันทำให้ใจฟูมาก เข้ามา 2 ปี หนูได้ใช้เวลาคุ้มมาก ขนาดติดช่วงโควิดด้วย ถ้าโดยรวมแล้วเหลือปีนึง ก็นับว่าหนูได้ทำอะไรเยอะมากๆ”
ฮูพ BNK48
3. เสียงที่เรียกว่า “ความเชื่อมั่น”
First Performance ของ Make Noise ในงาน Matsuri
ต้องบอกเลยว่าการมาเป็นเซ็นเตอร์ของฮูพในครั้งนี้ ทำให้เธอได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ค่อนข้างมากทีเดียว แต่ด้วยตัวตนความเชื่อมั่นที่มีอยู่เป็นทุนเดิม ก็ลุยไปตามเสียงหัวใจที่ส่งมานั่นแหละ เริ่มจากเหตุผลที่เลือก Make Noise จาก 3 เพลงที่มีให้เลือก เพราะฟังครั้งแรกแล้วรู้สึกใช่เลย ชอบทำนองเพลงนี้มาก เป็นอารมณ์เพลงที่วัยรุ่นน่าจะชอบกัน นับเพลงที่แข็งแรงและทรงพลังที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนใน 48 Group ไทย คนจะต้องสนใจมากแน่ๆ คิดว่าเป็นเพลงเข้ากับตัวเองที่สุดและจะทำได้เต็มที่ที่สุดเพื่อแฟนคลับที่เธอเลือกมา
มีส่วนตั้งแต่การอัด Demo เลือกแบบชุดเสื้อผ้า ฮูพก็เป็นคนส่ง Ref. ว่าอยากได้ประมาณนี้ ทางญี่ปุ่นเลยเอาไปออกแบบต่อ ออกมาเป็นบอดี้สูทที่ช่วยซ่อนรูป ไม่ให้เห็นสีเนื้อที่เป็นรอยต่อระหว่างชุด เน้นเสื้อผ้า เน้นท่าเต้นให้แน่น นับเป็นครั้งแรกที่วงได้มีชุดเซ็มสีดำ มีโซ่คล้องเท่ๆ
เป็นเพลงที่ Challenge ตัวเองในหลายด้าน ทั้งการร้องที่ทุกคนต้องจำเนื้อเพลงทั้งหมดให้ได้ ไม่ใช่แค่ท่อนตัวเอง ไม่มีช่องไฟให้หายใจ ต้องเก็บลมกันให้ดี ส่วนท่าเต้นก็ต้องเต้นเยอะใช้กล้ามเนื้อเยอะ ท่าต้องเก็บทุกบีท ต้องซ้อมกันเยอะและซ้อมหนัก 90% ของเพลงคือการเต้น ชนิดที่เมมเบอร์ยังบอกเลยว่านี่คือเพลงที่เต้นยากและเต้นแรงที่สุด!!
ได้รับท่าและเริ่มฝึกซ้อมเพลงกันประมาณ 2-3เดือน มีเวลาเรียนท่ากับครูญี่ปุ่นแค่ 2 ชม. แถมได้ซ้อมรวมกัน 16 คนจริงๆ แค่ 1 วันก่อนถ่าย MV ดังนั้นทุกคนต้องซ้อมเดี่ยว เก็บรายละเอียดกันให้เป๊ะที่สุด ซึ่งฮูพและ Under Girls ทุกคนได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเธอทำได้ดีแค่ไหน
อย่างโชว์ First Performance ในงาน #BNK48CGM48Matsuri2022 เมื่อเพลงอันสนุกสดใส “ชอบเธอมากกว่าเมื่อวาน” ของน้องๆ Next Girls ได้จบไป วินาทีที่ไฟดับลง แฟนคลับที่กำลังเครื่องติด ก็ตะโกนโห่ร้องอย่างบ้าคลั่ง เพียงแค่เห็นเหล่า Under Girls ทยอยกันเดินออกมา ยืนประจำตำแหน่ง แท่งไฟสีแดงถูกเตรียมพร้อมชูขึ้น และเพียงแค่บีทแรกกระแทกขึ้นมา และเมมเบอร์ที่เคลื่อนไหวตามจังหวะแขนของฮูพ เสียงเฮก็ดังลั่นสนั่นฮอลล์ เหมือนกำลังอยู่ในบรรยากาศ After Party โยกกันมันส์ลืมตาย
เป็นโชว์ที่ตราตรึง เหมือนถูกฟาดด้วยความเกรี้ยวกราด ดุดัน และความแข็งแรงของน้องๆ ทุกคน ท่าเต้นมีความซับซ้อนกว่าเพลงปกติของ 48 Group รวมถึงการยืนตำแหน่งที่ต้องโยกฝั่งไปมาตลอด แต่ภาพที่ออกมาคือยอดเยี่ยม สวยงาม พร้อมเพรียง
แสดงให้เห็นว่าน้องๆ ทุกคนมุ่งมั่นตั้งใจกับโชว์ที่ออกมาจริงๆ มีการซ้อมที่เตรียมมาเป็นพิเศษ แม้จะมีงานในการทำบูธงาน Matsuri แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับการทำโชว์ที่ออกมาเลยแม้แต่น้อย ถ้านี่คือการเต้นเพื่อลืมใครซักคน ก็เชื่อว่าพวกเธอได้ลืมคนนั้นไปจากใจจริงๆ ปลดปล่อยความอัดอั้นทั้งหมดออกมา สลัดภาพเค้าทิ้งไป แล้วก้าวใหม่ให้ดีกว่าเดิม
ยิ่งฟังเนื้อหาและดู MV ซ้ำไปมาก็จะยิ่งเห็น “Messages” หลายอย่างที่ถูกสอดแทรกไว้ในนั้น โดยส่วนตัวผมแอบวิเคราะห์ได้ประมาณนี้คือ
🪞 “กระจก” ที่สะท้อนเงาในฉากแรก สื่อถึงเสียงที่แห่งตัวตนที่ดังอยู่ข้างในของเมมเบอร์ ว่าภายใต้ภาพความสดใส ดุดัน พวกเธอก็ยังมีอีกตัวตนของความเป็นเด็กสาวธรรมดาอยู่ในนั้น
🖤 “ชุดดำ” คือ ความดาร์คหม่นในใจของที่ได้แต่เก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึก ไม่อาจแสดงออกมาได้ง่ายๆ เลยต้องเริงระบำไปกับแสงสีแดงที่ต้องแสดงให้คนเห็นว่าชั้นยังเข้มแข็ง แกร่งอยู่ ไม่เป็นไรง่ายๆ ❤
♦ “แสงสี” อาจเป็นความคิดที่โลดแล่นไปมาอยู่ในห้วงความรู้สึก ที่ส่งออกมาในหลายรูปแบบทั้งแสงเส้นตรง ทแยง วับๆ แวมๆ คล้ายกำลังบอกสิ่งที่มันเอ่อล้นอยู่ ยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้
🤍 “ชุดขาว” หมายถึง การปลดเปลื้องความมืดหม่นในใจทั้งหมด ออกมาสู่แสงสว่าง พร้อมเดินฝ่าสปอร์ตไลท์ ส่งเสียงข้างในให้ทุกคนได้รู้ถึงความเป็นตัวตนข้างในจริงๆ
ไหนจะการเปรียบเปรยถึงโดเบอร์แมนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความห้าวหาญ แต่ไม่รู้จะแสดงออกมายังไงได้บ้าง เพลงนี้จึงมีเสน่ห์แห่งเรื่องราวที่สะท้อนแง่คิดอยู่ค่อนข้างมาก และความเรียลที่จับต้องได้ ทุกครั้งที่คุณมาดูโชว์นี้ ก็จะเจอท่าโซ่โล่ของฮูพที่ไม่ซ้ำ เพราะจำท่าไม่ได้ อย่างที่เธอเคยแซวตัวเองไว้55+
ซึ่งจริงๆ ตรงนี้ผมมองว่าเธอตั้งใจทำแต่ละโชว์ให้พิเศษแตกต่างกันไปด้วยนะ ไม่แน่วันนึงอาจเห็นตีลังกาในท่อนนี้ก็ได้ XD อย่างฉากท่อนโซ่โล่ใน MV เธอก็บอกตรงๆ ว่าช็อตนั้นล้มแล้วลุกขึ้นมาเลย แต่พี่ผู้กำกับชอบเลยซื้อทันที555 เรียกได้ว่านี่คือเพลงของฮูพอย่างแท้จริง และเป็นเพลงที่สื่อแทนใจเมมเบอร์ BNK48-CGM48 ทุกคนได้เป็นอย่างดี เหมือนเสียงที่พวกเราได้ยินผ่านบทเพลง
.
.
“ทำยังไง ต้องทำหน้าตาเช่นไร?
เมื่อตอนร้องไห้มีน้ำตา ช่วยบอกชั้นซักที
ต้องทำแบบไหน ยังรอใครคนนั้นรึเปล่า
สอนทีสินิสัยไม่ดี ต้องทำยังไง
.
.
กลัว กลัว กลัวกับการที่ต้องเชื่อใจใครสักคน
ถูกกักตัว ถูกล่ามโซ่ไม่ให้ไปไม่ว่าที่ไหน
ก็กลัวจะต้องเสียตัวตนที่เคยมี
ก็ชั้นไม่เคยจะยอมให้ใคร!”
เสียงของเด็กสาวผู้เต็มเปี่ยม
ไปด้วยความเชื่อมั่นในวันนั้น
ได้ก้องดังไปทั้งใจเราแล้วในวันนี้!
รอดูผลงานความสำเร็จในอนาคตอยู่นะฮูพ
ทั้งซีรีส์ "Thank You Teacher" กับพี่เฌอ
การได้มีโอกาสชิมลางขึ้นสเตจ NV
ได้ตีลังกาหน้าเธียเตอร์ AKB48 ซักวัน
รอเป็นกำลังใจให้กับทุกความฝันเธอเสมอ
ใดๆ ช่วงนี้งานชุก มีจังหวะว่างก็พักเยอะๆ
นอนได้นอนให้หมอนขาดเลยนะ,,,
ขอบคุณภาพจาก: BNK48 และ Hoop BNK48
ที่มา:
- เบื้องหลังการถ่ายทำ “Make Noise”
- ไลฟ์ฮูพวันที่ 30 ส.ค. และ 3 ก.ย.65
- รายการ Senpai BNK48 รุ่นที่ 3
- First Performance งาน Matsuri
#MakeNoiseTH
#BNK48
#SideStories
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
