15 ก.ย. 2022 เวลา 12:23 • ประวัติศาสตร์
ประวัติศาสตร์ "พิราบสื่อสาร"
หลายคนอาจจะเคยเห็นภาพ "นกพิราบสื่อสาร" จากในภาพยนตร์หรือนิทานต่างๆ
แต่ทราบมั้ยครับว่าที่มาที่ไปของนกพิราบสื่อสารนี้เป็นยังไง? และทำไมมันถึงสามารถส่งข้อความไปถึงจุดหมายได้?
ลองมาหาคำตอบกันครับ
การใช้นกพิราบสื่อสาร ได้เริ่มมาตั้งแต่ราว 5,000 ปีก่อน
ปกติแล้วการส่งจดหมายหรือข้อความในสมัยโบราณ ก็จะใช้คนขี่ม้าไปส่งให้ หากแต่ก็มีอุปสรรคหลายอย่าง
อย่างแรกเลยก็คือผู้ที่ส่งจดหมายหรือข้อความก็ต้องเชื่อใจในตัวคนส่งจดหมาย ต้องเป็นคนที่ตนไว้ใจได้ ต้องมากังวลว่าคนส่งจดหมายอาจจะแอบเปิดดูจดหมาย
นอกจากนั้น ก็อาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝันได้หลายๆ กรณี เช่น อาจจะเกิดอุบัติเหตุระหว่างทาง คนส่งจดหมายอาจจะถูกศัตรูโจมตี เป็นต้น
หากแต่วิธีการส่งจดหมายที่มีปัญหาน้อยที่สุด ก็คือการใช้พิราบสื่อสาร เนื่องจากพิราบสื่อสารนั้นบินไปได้เร็ว ไม่ต้องเผชิญกับปัญหาการจราจรบนท้องถนน ไม่ต้องเสี่ยงกับภัยธรรมชาติหรืออุบัติเหตุ และอีกหลายข้อที่มนุษย์ต้องเจอ
มีการตั้งไปรษณีย์พิราบอย่างเป็นทางการขึ้นครั้งแรกในช่วงปีค.ศ.1870-1871 (พ.ศ.2413-2414) ซึ่งในทีแรก มีความคิดที่จะส่งจดหมายไปทางลูกโป่ง หากแต่ลูกโป่งก็ไม่สามารถควบคุมได้ และไม่สามารถบังคับให้กลับมา
2
และด้วยความที่นกพิราบนั้นมีสัญชาตญาณในการจดจำทางได้อย่างดี จึงมีการส่งนกพิราบออกไปเป็นจำนวนมาก โดยมีการผูกลูกโป่งไว้กับขาของนกพิราบ ซึ่งผลที่ได้ก็ดีมาก
จากจำนวนนกพิราบที่ส่งออกไปจำนวน 363 ตัว มี 57 ตัวที่บินกลับมา ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ
ในเวลาต่อมา มีการใช้พิราบสื่อสารในช่วงสงคราม และการใช้ไปรษณีย์พิราบก็เริ่มแพร่หลาย โดยหลักๆ ก็ใช้ในการส่งข้อความทางการเมือง การทูต และการทหาร และใช้กันตลอดมาจนถึงสงครามโลกครั้งที่ 2
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนก็อาจจะสงสัยว่าทำไมนกพิราบถึงได้รับหน้าที่ในการนำส่งจดหมาย
นั่นก็เพราะนกพิราบมีสัญชาตญาณในการจดจำทิศทางได้ดี และเมื่อมนุษย์ทราบถึงคุณสมบัติข้อนี้ ก็ได้เริ่มมีการฝึกนกพิราบให้ส่งข้อความ
การฝึกนั้น ก็คือการนำนกพิราบออกห่างจากรังของมันไปเรื่อยๆ และปล่อยให้มันบินกลับรัง ทำให้นกพิราบคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ และทำให้จำทางได้
จะมีการฝึกอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนกว่านกพิราบจะพร้อมบินเป็นระยะทางไกลๆ ด้วยตัวมันเอง
จดหมายนั้นจะนำใส่หลอดเล็กๆ และผูกติดไว้กับหลังหรือขาของนกพิราบ จากนั้นก็ปล่อยนกพิราบให้บินกลับบ้าน
หลังจากนั้น ก็มีผู้ตั้งทฤษฎีมากมายเกี่ยวกับว่าทำไมนกพิราบจึงสามารถจดจำทางได้อย่างเป็นเลิศ หากแต่ทฤษฎีที่ถูกพูดถึงมากที่สุด มีอยู่สี่ข้อ
1.ตำแหน่งของดวงอาทิตย์
นกพิราบจะหันหน้าไปยังทิศทางของดวงอาทิตย์ และใช้เป็นทิศทางที่บินไป
2.ระบบเข็มทิศ
เชื่อกันว่านกพิราบนั้นมีระบบในร่างกายที่ทำหน้าที่คล้ายเข็มทิศ ทำให้มันสามารถบินไปในทิศทางที่ถูกต้อง
3.สนามแม่เหล็ก
นกพิราบนั้นสามารถสังผัสได้ถึงสนามแม่เหล็กโลก และใช้สัญชาตญาณนั้นในการเคลื่อนที่จากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง
4.คลื่นใต้เสียง
เนื่องจากนกพิราบสามารถบินกลับไปได้เพียงแค่บ้านเกิดหรือที่ๆ จากมาเท่านั้น ทฤษฎีนี้จึงเชื่อว่านกพิราบจะฟังเสียงคลื่นความถี่ต่ำ จนกว่าจะเจอเสียงที่ใกล้เคียงกับบ้านหรือที่ๆ จากมา
นี่ก็เป็นประวัติศาสตร์คร่าวๆ ของการส่งจดหมายด้วยนกพิราบ ซึ่งก็ค่อยๆ หายไปตามกาลเวลา
โฆษณา