15 ก.ย. 2022 เวลา 15:42 • ข่าว
ทำไมต้องฆ่า เน็ตไอดอลเขมร อดีตทหารคู่หมั้นลงมือสังหาร หนีกบดานไทย
การจับกุมมือสังหารเน็ตไอดอลสาวชาวกัมพูชา หลบหนีเข้ามาซ่อนตัวในไทยได้เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา บริเวณอำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ถือเป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจไทยและกัมพูชา
โดยคนร้ายเคยรับราชการทหารในกัมพูชา และคบหากับเน็ตไอดอลคนดัง ก่อนจะมีเหตุหึงหวงจนก่อคดีสะเทือนขวัญเมื่อปี 2563 ซึ่งหลังจากนั้นได้หลบหนีเข้ามาในไทย
4
ยอน วัน เดต (Yeun Vandet) อดีตทหารกัมพูชา หนีกบดานมาไทยกว่า 3 ปี ขณะอายุ 30 ปี ภายหลังก่อเหตุเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2563 ยิงคู่หมั้นสาวนักศึกษาแพทย์ และเน็ตไอดอลขายเครื่องสำอางชื่อดัง วัย 26 ปี ซึ่งเป็นที่รู้จักของชาวกัมพูชา จากสาเหตุหึงหวงจนมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรงภายในห้องพักอพาร์ตเมนต์กลางกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จนเกิดเหตุสลดขึ้น
โดยฝ่ายหญิงถูกยิงบริเวณลำคอ และเสียชีวิตขณะฝ่ายชายนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่บรรดาแฟนคลับของเน็ตไอดอลสาว ดีกรีนักศึกษาแพทย์ ได้มีการตั้งข้อสังเกตสภาพศพของผู้ตายบริเวณใบหน้ามีลักษณะยิ้มขณะเสียชีวิต
1
ก่อนหน้านั้นทั้งคู่มีแผนจะแต่งงานในเดือนมีนาคม ปี 2563 หลังการหมั้นหมายเมื่อเดือน ก.ย. ปี 2562 ถือเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่ประชาชนในกัมพูชาให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และตลอดระยะเวลาที่ฝ่ายชายหลบหนี ทางครอบครัวฝ่ายหญิงได้ออกมาวิงวอนร้องขอให้หน่วยงานภาครัฐช่วยติดตามตัวฆาตกรมาดำเนินคดีโดยเร็ว
สำหรับการสืบสวนของตำรวจกัมพูชา ทราบว่า คนร้ายมาหลบซ่อนตัวในไทยตั้งแต่ปี 2563 จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ไทยเข้าจับกุมตัว เนื่องจากเป็นบุคคลอันตรายได้หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย
พร้อมถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามา และพักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้แจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ทราบ
"พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์" ผบก.สส.ภาค 2 และหัวหน้าชุดปฏิบ้ติการ (PCT 5) ให้ข้อมูลว่า ได้เฝ้าสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีดังกล่าว เพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศ
ขณะเดียวกันผู้ต้องหายอมรับว่า เป็นบุคคลต่างด้าว ไม่ได้ไปรายงานตัวต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองในประเทศไทยตั้งแต่เดือน ต.ค. 2563 ส่วนการก่อเหตุที่ประเทศกัมพูชา ทางผู้ต้องหายอมรับว่าในวันเกิดเหตุได้มีปากเสียงกับแฟนสาว เพราะทะเลาะกันเรื่องมีผู้หญิงมาติดพัน แล้วผู้ตายมาโวยวาย จึงบันดาลโทสะและใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย
หลังเสร็จสิ้นการจับกุม เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร.(PCT) ชุดที่ 5 ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายไทย และประสานเตรียมส่งตัวคนร้ายกลับประเทศกัมพูชาตามกฎหมายต่อไป.
ภาพจาก : cambodia expats onlin
โฆษณา