ไปดูมาแล้วค่ะ มายาพิศวง (6 Characters)
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของ หม่อมน้อย ม.ล.พันธ์เทวนพ เทวกุล ที่จากไปในวันเดียวกับวันแรกของการฉายภาพยนต์เรื่องนี้ 15 ก.ย.2565 ถ้าใครเคยดูหนังของท่าน จะเห็นถึงความละเมียดละไม สวยงาม ทั้งฉาก การแต่งกาย นักแสดง ดนตรี เพลงประกอบดูมีศิลป และ คลาสสิกมากจริงๆ เรื่องนี้ก็เช่นกัน
เรื่องนี้ สามารถสะกดคนดูได้ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบ ขนาดตอนจบ คนทั้งโรงยังอึ้งนั่งช้อกอยู่ที่นั่งสักพัก ถึงจะค่อยๆลุกออกไป ประทับใจมากจริงๆ สร้างได้ดีมากค่ะ
การดำเนินเรื่องเป็นลักษณะเหมือนนั่งดูละครเวที แล้วนำมาไว้ในภาพยนตร์ ตัวละคร แต่ละคนพูดเสียงดังฟังชัด และมีฉากหลังเป็นโรงถ่ายภาพยนตร์ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโรงถ่ายภาพยนต์ ในขณะที่กำลังถ่ายฉากเปิดตัวภาพยนตร์แนวสยองขวัญเรื่องนึงอยู่ จู่ๆ ไฟก็ดับเนื่องจากฝนตกหนัก หม้อแปลงระเบิด ได้มีแขกไม่ได้รับเชิญ 6 คนเดินเข้ามาที่โรงถ่าย ขอให้ผู้กำกับฯสร้างภาพยนตร์เกี่ยวกับเรื่องของพวกตน โดยทุกคนจะเล่าเรื่องของพวกตนให้ฟัง
โดยเป็นเรื่องของเศรษฐีคนนึงที่แต่งงานกับนางงามที่อายุน้อยกว่าตนมาก มีบุตรด้วยกัน หนึ่งคน และวันหนึ่งเศรษฐีก็เข้าใจว่า ภรรยาของตนเป็นชู้กับเลขาคนสนิท จึงให้เลขาออก และไล่ภรรยาของตนออกจากบ้าน โดยไม่ได้ให้พบกับลูกชายก่อนไป เลขาเมื่อออกจากงานของเศรษฐีก็ไปทำงานเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย ส่วนภรรยาก็มาอยู่กินกับเลขา มีบุตรด้วยกัน 3 คน การใช้ชีวิตของครอบครัวนี้ อยู่ในสายตาของเศรษฐีโดยตลอด จนวันนึงเศรษฐีได้นำตุ๊กตามามอบให้กับบุตรสาวคนโตของครอบครัวนี้ และได้โอบกอดเด็กสาวด้วยความเอ็นดู
หลังจากวันนั้น เลขาทราบเรื่อง มีความรู้สึกว่า อยากให้ครอบครัวของตนหลุดพ้นจากสายตาของเศรษฐี จึงย้ายไปอยู่จังหวัดอื่น แต่แล้ววันนึงเมื่อเลขา เสียชีวิตลง ฐานะทางบ้านที่ไม่ดีนัก ภรรยานางงามจึงย้ายกลับมาที่จังหวัดเดิม และทำอาชีพเย็บผ้า ลูกสาวคนโตยอมออกจากโรงเรียนเพื่อมาช่วยแม่หาเลี้ยงครอบครัว โดยแม่ไปฝากให้ทำงานที่ร้านตัดเสื้อในเมือง โดยไม่รู้เลยว่า ที่แห่งนั้น เบื้องหน้าเป็นร้านตัดเสื้อหรูหรา แต่ที่ชั้นสองยามกลางคืนเปิดเป็นซ่องโสเภณี ให้บริการเศรษฐีกระเป๋าหนัก และลูกสาวคนโตก็ไม่รอด
กับการเป็น หญิงโสเภณี โดยที่แม่ไม่ทราบเรื่อง และวันหนึ่งความก็แตก เมื่อ แม่เย็บชุดเจ้าสาวเสร็จและรีบนำมาส่งที่ร้านเสื้อ ช้อกมาก เมื่อทราบว่า ลูกสาวของตน กำลังมีอะไรกับอดีตสามี เมื่ออดีตสามีรู้ว่านี้คือครอบครัวของอดีตภรรยา จึงรับเข้ามาอยู่ที่บ้านเพราะรู้สึกผิด ในการกระทำของตน ในขณะที่แม่ดีใจมากที่ได้เจอลูกชาย แต่ลูกชายไม่ยินดีเลย โศกนาฏกรรม กำลังเริ่มจะเกิดขึ้นกับคนในบ้านนี้
เมื่อลูกสาวเดินไปที่ห้องของเศรษฐี และต้องการมีอะไรด้วย บอกว่าประทับใจในอ้อมกอดของเศรษฐีที่เคยกอดในสมัยเด็กๆ ในขณะเดียวกัน แม่นำส้มลอยแก้วที่ลูกชายชอบไปให้ลูกชายที่ห้อง แต่ลูกชายปฏิเสธและเดินออกไปหยิบปืน เพื่อจะไปฝึกยิง ปรากฏว่าปืนหายไป จึงออกเดินตามหา และมาพบเด็กหญิงลูกคนเล็กของแม่จมน้ำเสียชีวิต จึงเข้าช่วย และตะโกนขอความช่วยเหลือ ขณะเดียวกัน ก็หันไปเห็นเด็กชายถือปืนของตน ถือปืนจ่อเข้าที่ศรีษะ ช้อกคนดูทั้งโรง และนักแสดงในโรงถ่ายขณะนั้นสุดๆ
ตายจริงมั้ย ปืนเด็กเล่นไม่ใช่เหรอ? แต่ทำไมเด็กไม่มีชีพจร? หญิงสาวกรีดร้องสุดเสียงและวิ่งออกไปจากโรงถ่าย เศรษฐีและลูกชาย ก็อุ้มเด็ก วิ่งออกไป พร้อมกับอดีตภรรยาด้วยเช่นกัน คนในโรงถ่ายช้อกอยู่สักพัก ผู้กำกับ ให้คนวิ่งไปตาม 6 คนนั้น แต่ไม่พบ
"ผมเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า การแสดงต้องมาจากจิตวิญญาณที่อยู่ข้างใน" คำกล่าวสุดท้ายของผู้กำกับหนังในภาพยนตร์
ถ้าเป็นละครเวที ทุกคนคงจะยืนและปรบมืออย่างดัง กึกก้องไปทั้ง Hall ให้กับการแสดงที่ยอดเยี่ยมนี้ แต่พอเป็นภาพยนตร์ที่สามารถสะกดคนดูได้ตลอดทั้งเรื่องแบบนี้ ได้แต่กล่าวชื่นชมบอกต่อ เล่าถึงความยอดเยี่ยมของภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายในชีวิตของ "หม่อมน้อย" ที่เราเชื่อว่า ใครๆก็จะพูดถึงไปอีกนานแสนนาน....
อยากให้ทุกคนที่มีโอกาสได้ไปดูค่ะ ได้ยินว่า ได้เป็นภาพยนตร์ที่ถูกเสนอชื่อ ชิงรางวัล ในเทศกาลภาพยนตร์ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะได้รับรางวัล
ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ เรื่องนี้เป็นแนวสะท้อนสังคม ชี้ให้เห็นถึงปัญหาครอบครัวได้อย่างดี ถ้าผู้นำครอบครัวเข้มแข็ง มีเวลาให้กับคนในครอบครัว รักและใส่ใจกันมากกว่านี้ ไม่ปล่อยให้คนในครอบครัวโดดเดี่ยว มีปัญหาแล้วค่อยๆแก้ ไม่ตัดปัญหา ไม่ทิ้งปัญหา โศกนาฏกรรมก็คงไม่เกิด เพราะผู้ที่กำหนดทิศทางในสังคมที่ดี ก็คือ ผู้นำ นั่นเอง ฉะนั้นเวลาเลือกผู้นำในทุกๆสังคม เราต้องเลือกผู้นำที่ดี ที่สามารถแก้ปัญหาได้ ในขณะเดียวกัน เราก็ต้องเป็นผู้นำที่ดีให้กับตัวเราเองด้วย
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
