18 ก.ย. 2022 เวลา 08:16 • ความคิดเห็น
ผมเคยทำงานกับคนเยอรมันมานาน 20 ปี ทำงานกับคนเวียดนามอีกราว 4 ปี..
วัฒนธรรมการทำงานของคนเยอรมัน-เวลางาน-คือ-เวลาทำงาน เครดิตภาพ http://www.whitemktstore.com/article/366/
ผมเคยทำงานกับคนเยอรมันมานานเกือบ 20 ปี ตอนนี้มาทำงานกับคนเวียดนามอีกราว 4 ปี..มันนานพอที่ได้ซึมซับและเรียนรู้นิสัยใจคอของผู้คนที่นั่น
ขอเปรียบเทียบคนเยอรมันและคนเวียดนามดังนี้
เร่ิมที่คนเวียดนามก่อนนะครับ
ผู้หญิงที่เวียดนาม สวย หุ่นดี เพราะเดินมาก กินผักเยอะ..
คนเวียดนาม
1. คนเวียดนามมีความยืดหยุ่น เนื่องจากชีวิตประจำวันเผชิญกับความไม่แน่นอน ทำให้ต้องแก้ปัญหาอย่างยืดหยุ่น และมักต้องอาศัยเส้นสายคนรู้จัก
✅ ข้อดี: คนเวียดนามมีน้ำใจ คุยด้วยรู้สึกสนุก ซื้อของต่อราคาได้ มีการลดราคา มีคนเอาของโน่นนี่นั่นมาแถม มาให้ใช้ฟรี อัธยาศัยดี เฟรนด์ลี่ผูกมิตรกันได้เร็ว
❌ ข้อเสีย: ความยืดหยุ่นก็แปลว่าไม่ค่อยมีระเบียบวินัย ผมเห็นคนเวียดนาม เปลี่ยนตารางนัดได้ทุก ๆ อย่าง
แม้กระทั่งการนัดหมายที่สำคัญ
👉มีการลัดคิวซื้อของกันอย่างหน้าตาเฉย คนเดินมาชนเราแบบไม่ยอมหลบ ไม่มีคำขอโทษ การขับขี่รถยนตร์ มอเคอร์ไซค์บนท้องถนน สับสนอลหม่าน..ขึ้นชื่อมาก
2. คนเวียดนามชอบดราม่าอารมณ์ศิลปิน และใช้อารมณ์ในเรื่องต่าง ๆ ค่อนข้างมาก
✅ ข้อดี: ชีวิตเต็มไปด้วยความสนุกสนาน มีความผ่อนคลาย ร้องเพลง เต้นรำ ยิ้มง่าย มีความสุข รักสวยรักงาม รักการถ่ายรูป รักการเดินทาง ฯลฯ
❌ ข้อเสีย:ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ ถ้าไม่ถูกใจก็ไม่ยอมทำ และจมอยู่แต่ในโลกแฟนตาซี/ดราม่า ทำให้ไม่ลงมือปรับปรุงบ้านเมืองให้ดีอย่างจริงจัง นัยว่าได้แต่ฝันว่ามันจะดีขึ้นมา(ได้เองหรือนี่?)
3. คนเวียดนามชอบทำตัวตามสบาย อยากทำอะไรก็ได้ (คล้ายคนไทย?)
✅ ข้อดี: ดูมีชีวิตสบาย ๆ ไปเรื่อย ๆ ก็ได้ไม่มีใครว่าอะไร ไม่ต้องแคร์ใคร มีชีวิตแบบมีอิสระเสรี จะคุยโทรศัพท์หรือส่งเสียงในที่สาธารณะดังๆ
ก็ทำได้ ไม่เหมือนเยอรมนีหรือญี่ปุ่นจะไม่มีใครทำแบบนี้กัน
❌ ข้อเสีย: เราเองก็โดนละเมิดสิทธิ์ในหลายเรื่องและหลายเวลา
(อ่านแล้วคล้ายคลึงกับ..คนไทยมากเลยนะนี่_ป้าพา)
คนเยอรมันล่ะ เป็นคนยังไง อ่านต่อค่ะ ยาวหน่อย..
แล้วคนเยอรมันล่ะ
เป็นยังไง
1. คนเยอรมันมีระเบียบวินัยสูง เนื่องจากชีวิตประจำวันค่อนข้างมีความแน่นอน การแก้ปัญหาของชาวเยอรมันใช้กระบวนการที่แน่นอน
✅ข้อดี : คนเยอรมันเชื่อถือได้ แน่นอน เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบ
👉ตัวอย่างที่เห็นได้ในชีวิตประจำวัน คือการทอนตังค์เวลาซื้อจอง จ่ายค่าอาหารหรือกาแฟ..ไม่มีคำว่าผิดพลาด
1
❌ข้อเสีย: ผู้คนจะดูคล้ายเครื่องจักร มีความเย็นชา เคร่งขรึม เคร่งครัดเป็นทางการ
👉มีความตรงไปตรงมาตามคู่มือ(work procedure)หรือขั้นตอนการปฏิบัติงานที่แน่นอน หากเรื่องใดไม่มีขั้นตอนที่แน่นอน ผู้คนจะเริ่มรวน และไม่แน่ใจว่าควรจะแก้ปัญหาอย่างไร
2. คนเยอรมันมุ่งเน้นที่การปฏิบัติ
✅ข้อดี: บ้านเมืองเค้าจะมีการทำนุบำรุง ซ่อมแซมและปรับปรุงให้ดูดี ใช้การได้ดีอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของต่าง ๆ ถนนหนทาง ตึก อาคารบ้านช่อง
👉ทุกสิ่งทุกอย่างจะทรงประสิทธิภาพ ใช้การหรือทำงานได้ดี ไม่มีการวางลืมหรือปล่อยทิ้งไว้ให้ผุพัง มีการปรับปรุงดูแลอยู่เสมอ
❌ข้อเสีย: จะดูเหมือนว่าพร่องหรือขาดศิลปะสักหน่อย
หรือไม่ค่อยออกแบบให้วิจิตรสวยงามตระการตามากนัก
👉เน้นแต่ประโยชน์ใช้สอย ไม่ได้ใช้ศิลปะหรือความอ่อนช้อยมากนัก
เช่นการเลือกสวมเสื้อผ้า
ผู้คนจะเลือกใส่เสื้อผ้าที่ดี
มีคุณภาพ มากกว่าจะเลือกที่ศิลปะหรือสไตล์หรูหรา
👔 ใส่อย่างไรก็อย่างนั้นทั้งปีทั้งชาติ ไม่มีใครว่าอะไรกัน
ถ้ายังใช้ใส่ให้ความอบอุ่น ปิดบังกายได้ก็เป็นอันใช้ได้
3. คนเยอรมันยึดถือเรื่องสิทธิส่วนบุคคลจะไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่นเด็ดขาด
✅ข้อดี: คนเคารพสิทธิของผู้อื่นในเกือบทุกเรื่องและเกือบทุกเวลา ทำให้บ้านเมืองเงียบสงบ สะอาดเรียบร้อยเป็นระเบียบ แทบไม่มีขโมย ไม่มีการทำร้ายร่างกายกัน
❌ข้อเสีย: ต้องเกรงใจคนอื่นตลอดเวลา จะเดินผิวปากก็ไม่ได้เพราะจะเป็นการรบกวนความสงบของชาวบ้าน
🇻🇳หันมาดูคนเวียดนามอีกที
เวียดนามใช้ระบบอุปถัมภ์ ใช้เส้นสายคนรู้จัก ใช้ระบบพวกพ้อง
ชอบใช้คำว่า”พี่น้อง” “เพื่อนของเพื่อน” “ญาติพี่น้องของเพื่อน” และ ฯลฯ
ครับ..แต่ละคนต้องมีพวก ต้องสังกัดพวก ต้องพึ่งพาคนอื่น ชีวิตจึงมีความไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าอนาคตจะดีหรือร้าย ต้องผจญภัยต่อสู้กับโชคชะตาเอาเอง
คนจะฝากชีวิตไว้กับระบบไม่ได้เพราะระบบไม่แน่นอน
วันนี้อย่างหนึ่ง พรุ่งนี้อีกอย่าง เอาแน่เอานอนไม่ได้
ต้องเตรียมตัวให้พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์อยู่เสมอ
จะชอบอ้างอิงผู้มีอำนาจ มีอิทธิพลเสมอ(เอๆๆ คล้ายๆๆๆ..?)
🇩🇪ด้านคนเยอรมันใช้วิธีเรียกร้องสิทธิ์ หากเป็นสิทธิ์ที่ตนพึงได้รับ จะต้องได้รับ
หากไม่ได้รับจะโวยวายกับทางภาครัฐจนเจ้าหน้าที่ต้องมาจัดการให้
1
แต่ถ้าไม่ใช่สิทธิ์ที่จะได้ ถึงจะทำอย่างไรก็ไม่สามารถจะได้มา
1
- ด้วยเหตุนี้ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้เส้นสาย ไม่จำเป็นต้องมีระบบอุปถัมภ์หรือพวกพ้อง
1
- แต่ละคนสามารถเป็นอิสระได้จากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง แล้วใช้ชีวิตอยู่กับระบบ
1
- ชีวิตมีความแน่นอน สามารถวางแผนได้ไปจนถึงแก่เฒ่า
1
- บ้างก็ว่ามั่นคงปลอดภัยดี บ้างก็ว่าน่าเบื่อไร้สีสัน
สรุป
🇻🇳ถ้าไปทำงานในประเทศเวียดนาม(หรือจะไปอยู่ในประเทศ ไหนก็ตามทีที่คล้ายเวียดนาม_เอ๊ะๆ
ประเทศอะไรเอ่ย)
จะต้องรู้จักคนไว้ให้มาก ๆ
ถ้าอยากได้อะไรให้ขอ
ถ้าเป็นพวกเดียวกันหรือผลประโยชน์ลงตัวก็มักจะได้
2
🇩🇪แต่ถ้าไปทำงานที่เยอรมันต้องรู้ระเบียบปฏิบัติให้ ละเอียด
สิ่งใดถ้าเป็นสิทธิประโยชน์ส่วนบุคคลที่พึงจะได้อยู่แล้วไม่ต้องร้องขอเพราะได้แน่
✅แต่ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่พึงจะได้
ถึงรู้จักกันดีแค่ไหนก็ขอไม่ได้
และการขอในสิ่งที่ไม่ควรได้รังแต่จะทำให้เสียมิตรภาพ
การคอรัปชั่นในเยอรมันจึงทำได้ยากมาก เพราะว่าคนอื่นที่เกี่ยวข้องไม่ค่อยอยากร่วมมือด้วยเพราะรู้ว่ามันผิด
ดังนั้นการจะเปลี่ยนให้คนเวียดนามหรือคนไทยให้กลายมามีนิสัยแบบคนเยอรมัน แทบไม่มีทางเป็นไปได้
1
มันจะกลายเป็นประเทศที่มีความเคร่งครัด ที่มีผู้คนใช้ชีวิตอยู่กับระบบ แต่ความเป็นจริงคนแต่ละคนแยกจากกันเป็นอิสระส่วนตัว แล้วชีวิตประจำวันมันจะไปมีความแน่นอนสูงได้อย่างไร
ไทยเรามีอิสระกันมานานแล้วนี่ครับ นอกจากจะมีฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาโดนผู้คนจนเปลี่ยนให้กลายเป็นเครื่องจักรกันทั้งประเทศนั่นแหละ ถึงจะมีทางเป็นไปได้สำหรับเวียดนาม(และพี่ไทยด้วย)
ในขณะเดียวกันกับคนเยอรมัน เค้าก็ยากที่จะหลุดพ้นออกมาจากการใช้ชีวิตกับระบบเข้มแข็งเคร่งครัด..
หากวันไหนระบบของเค้ารวน คนทั้งประเทศก็จะรวนไปหมด ผู้คนจะโวยวายถึงความไม่มีเสถียรภาพของระบบ และเรียกร้องให้เสถียรภาพกลับคืนมาให้เร็วที่สุด
ระบบที่ไม่มีเสถียรภาพก็เท่ากับทำให้คนเยอรมันเหมือนต้องคำสาปให้เกิดความโกลาหล อลหม่านไปทั่วนั่นเอง
บทสรุปของสรุป
มองไม่เห็นทางที่จะเปลี่ยนให้คนเวียดนาม(ที่เหมือนกับคนไทย)ให้กลายเป็นมีนิสัยแบบคนเยอรมัน
ทั้งคนเวียดนามและคนไทยก็เป็นคนที่อยู่อย่างนี้ มีความสุขความบันเทิงแบบนี้
ไทยเราก็มีน้ำใจแบบของเรา ทำอะไรตามใจ(คือไทยแท้)บ้างนิดหน่อย เคารพสิทธิ์คนอื่นนิดหน่อย ละเมิดกันบ้างก็มี ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไป
🇹🇭ใช้พวกพ้องช่วยเหลือกัน พวกใครพวกมัน ถ้าพวกเดียวกันมาขอก็ต้องคิดละจะปฏิเสธไปทันทีก็คงไม่ได้
ระบบเกื้อกูลอุปถัมภ์กันมีมาแต่ไหนแต่ไร เราไม่มีทางทำให้มันหายไปได้ ใช่มั้ยล่ะคร้าบ
ปล. บทนี้ลุงเป็นคนเขียนค่ะ
ต้นฉบับ👇
I used to work with Germans for almost twenty years. I have been working with Vietnamese people for almost four years.
It’s enough to learn the mentality of people there..
บทความนี้ยาวมาก ขอบคุณนะคะที่อ่านมาถึงตรงนี้
ป้าอ่านมาหลายวันแล้ว
เห็นว่าพอมีประโยชน์เลยคัดลอกมาลงบ้าง(อาจมีฟอร์เวิดร์ไลน์ไปบ้างแล้ว)
ช่วยเพิ่มความคิดเห็นกันด้วยนะคะ
รออ่านค่ะ
ป้าพา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา