21 ก.ย. 2022 เวลา 11:16 • ข่าวรอบโลก
เศรษฐกิจจีนบนทางสองแพร่ง
Blockdit Original โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร
2
เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา สถาบันวิจัยด้านยุทธศาสตร์ CSIS ของสหรัฐฯ ได้จัดเสวนาในหัวข้อ “ฟองสบู่จีนจะยังไม่แตกจริงหรือ?”
แม้การเสวนาจะผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ผมยังรู้สึกว่าเนื้อหามีประโยชน์มาก
ในการเสวนาครั้งนั้น มีนักวิเคราะห์เศรษฐกิจชาวจีน 2 คน และมีผู้เชี่ยวชาญจีนชาวตะวันตกอีก 2 คน เข้าร่วม ทำให้ค่อนข้างสมดุล สิ่งที่น่าสนใจคือ ทั้งสองฝ่ายแสดงความคิดสวนทางกัน นักวิชาการฝรั่งที่ศึกษาเรื่องเศรษฐกิจจีนมองบวกภาพระยะสั้น มองลบภาพระยะยาว ในขณะที่นักวิชาการจีนมองลบภาพระยะสั้น มองบอกภาพระยะยาว
2
ในมุมของนักวิชาการตะวันตก ปัญหาระยะสั้นของจีนอย่างวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์ ไม่ได้หนักหนาอะไร รัฐบาลจีนมีกระสุนเม็ดเงินเหลืออยู่อีกมาก สามารถรับมือสถานการณ์ได้ ดังที่เคย “เอาอยู่” มาหลายครั้งแล้วในประวัติศาสตร์
2
แต่ปัญหาระยะยาวของจีนต่างหากที่น่ากังวล ไม่ว่าจะเป็นสังคมผู้สูงวัย ปัญหาการรวบอำนาจทางการเมืองของสีจิ้นผิง และที่สำคัญคือสงครามการค้าและสงครามเทคโนโลยีกับตะวันตก ซึ่งจะทำให้การนำเข้าเทคโนโลยีจากภายนอกเพื่อยกระดับผลิตภาพทางเศรษฐกิจไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อน
1
ในขณะที่นักวิชาการจีนกลับกังวลอย่างมากกับปัญหาระยะสั้นของจีน โดยเฉพาะการเบี้ยวชำระหนี้ของรากหญ้าในภาคอสังหาริมทรัพย์ ข้อแตกต่างที่สำคัญจากวิกฤตเอเวอร์แกรนด์เมื่อปีที่แล้วก็คือ ปัญหาตอนนี้เกิดในช่วงเศรษฐกิจขาลง เขาแนะนำว่ารัฐบาลจีนต้องใส่ใจและจริงจังกับการอุดรูรั่วความเสี่ยงนี้
แต่ในระยะยาว นักวิเคราะห์จีนเชื่อว่ายุครุ่งเรืองของเศรษฐกิจจีนยังรออยู่ข้างหน้า โดยให้เหตุผลเรื่องตลาดขนาดมหึมา ความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมของจีนเอง และการลงทุนในอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญอย่างอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลจีน
2
ท่านผู้อ่านคิดว่า ใครถูกครับ แต่ละฝ่ายอาจถูกคนละครึ่งก็ได้นะครับ แต่จะเป็นครึ่งไหนครับ จะเป็นแบบแย่ที่สุดคือ จีนระยะสั้นก็แย่ ระยะยาวก็แย่ หรือจะเป็นแบบที่ดีที่สุดคือ จีนระยะสั้นก็เอาอยู่ ระยะยาวก็ยังสดใสครับ
7
อนาคตประเทศก็เหมือนอนาคตคน ลิขิตฟ้ามิสู้ทางเลือกของตัวเอง ตอนนี้กำลังเป็นทางสองแพร่งของจีนในหลายต่อหลายเรื่อง ในภาพระยะสั้น จีนจะไปทางไหน ระหว่างไม่สนใจวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ที่ก่อตัว หรือจะมาลงสนามอุ้มหนี้เน่าเต็มที่สุดทาง
1
ตอนนี้ดูเหมือนรัฐบาลจีนจะใส่ใจเต็มที่ที่จะอุดรูรั่วไม่ให้วิกฤตลามเป็นเรื่องใหญ่โต แต่นักวิเคราะห์บางคนยังคงมองว่ามาตรการปัจจุบันยังไม่เพียงพอและควรต้องทำมากกว่านี้เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา
แต่รัฐบาลจีนดูเหมือนจะต้องการเพียงแค่ภาคอสังหาริมทรัพย์ไม่พาให้เกิดวิกฤตการเงินใหญ่ แต่ไม่ต้องการให้ภาคนี้กลับมาร้อนแรงดังในอดีตอีกต่อไป ซึ่งก็น่าจะมาจากปัจจัยทางการเมืองและสังคม สีจิ้นผิงยังคงพูดติดปากว่า “บ้านมีไว้อยู่ ไม่ได้มีไว้เก็งกำไร” และคนจีนเองก็รู้สึกว่าค่าบ้านค่าครองชีพในเมืองสูงมากจนไม่ต้องการมีลูก ซึ่งซ้ำเติมปัญหาการถดถอยของประชากรในปัจจุบัน
1
แต่ถ้าภาคอสังหาริมทรัพย์จีนจะไม่กลับมาฟื้นอีกแล้ว ก็มีคำถามว่าภาคเศรษฐกิจใดจะมาแทนที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เคยคิดเป็นสัดส่วนถึงร้อยละ 15-30 ของเศรษฐกิจ คำตอบที่มักจะได้ยินจากนักวิชาการจีนก็คือ ภาคพลังงานสะอาด รถยนต์ EV แบตเตอรี่ยุคใหม่
เราน่าจะได้เห็นในการประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ในเดือนหน้า สีจิ้นผิงจะย้ำเน้นการทุ่มสรรพกำลังทั้งหมดของรัฐในการลงทุนในอุตสาหกรรมเชิงยุทธศาสตร์เหล่านี้ ทั้งเพื่อเป็นจุดเติบโตใหม่ของเศรษฐกิจจีนและเพื่อทลายคอขวดเทคโนโลยีที่ฝั่งสหรัฐฯ กีดกันไม่ให้จีนใช้ เรื่องนี้ก็เป็นเสมือนทางสองแพร่งเช่นเดียวกันว่าจีนจะทลายคอขวดได้สำเร็จหรือไม่
ทางสองแพร่งสุดท้ายที่ทุกคนจับตาก็คือ นโยบาย Zero Covid นั้น จีนจะไปต่อหรือเลิกเสียที เมื่อไม่กี่วันก่อน ไบเดนเองออกมาประกาศว่าการระบาดของโควิดจบลงแล้วในสหรัฐฯ ซึ่งก็ถูกคุณหมอในสหรัฐฯ และสื่อจีนออกมาวิพากษ์เช่นเดียวกัน
1
ในเมื่อสหรัฐฯ ยังมีคนตายจากโควิดวันละ 400 คน และโควิดเป็นสาเหตุการตายอันดับ 4 ในสหรัฐฯ โดยที่ยอดคนตายสะสมมากกว่า 1 ล้านคน ไปเรียบร้อยแล้ว
2
แต่ความคิดในสหรัฐฯ และทั่วโลกเรื่องโควิดก็คือ สถานการณ์ปัจจุบันดีกว่าในอดีตเพราะมีทั้งวัคซีนและยา และที่สำคัญกว่านั้นคือ เราไม่สามารถทำให้ไวรัสโควิดหายไปจากโลกได้ ข้อเท็จจริงนี้ช้าเร็วจีนเองก็คงจะต้องยอมรับ คุณหมอเมืองจีนไม่เคยบอกว่าจะปิดประเทศหนีโควิดไปชั่วกัลปาวสาน
2
เพียงแต่บอกว่าตอนนี้ปัจจัยต่างๆ ในจีนยังไม่พร้อมไม่ว่าจะเป็นวัคซีน ยา จำนวนห้องไอซียู รวมทั้งการกลายพันธุ์ยังมีความไม่แน่นอนและอัตราการตายยังสูง
ในรายงานล่าสุดของหอการค้ายุโรปประจำจีน ให้ความเห็นว่าจีนน่าจะเปิดประเทศได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปี ค.ศ. 2023 เอาเลยทีเดียว ความหมายก็คือ ใครอย่าคิดเข้าข้างตัวเองว่าประชุมใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเสร็จในเดือนตุลาคม จีนจะเปิดประเทศอยู่กับไวรัสทันที
จีนคงต้องค่อยๆ หาทางลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปและปรับตัวอีกระยะหนึ่ง แต่ถ้าข้อเท็จจริงคือไวรัสโควิดไม่หายไปจากโลก จีนเองก็ต้องค่อยๆ หาทางลงในที่สุด
ทุกสายตาจึงจับจ้องที่การประชุมพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่กำลังจะมาถึงในเดือนหน้าว่า ในทางสองแพร่งในเรื่องต่างๆ นั้น จีนจะเลือกอย่างไร
1
ในรายงานของหอการค้ายุโรปประจำจีนบรรยายสรุปทางสองแพร่งต่างๆ นี้ไว้ว่า จีนจะเอาอุดมการณ์ทางการเมืองมาก่อนเศรษฐกิจ หรือจีนจะเปลี่ยนกลับมาเอาเศรษฐกิจนำการเมืองอีกรอบเสียที
1
โฆษณา