22 ก.ย. 2022 เวลา 15:30 • กีฬา
วันเดียวก็เปลี่ยนใจ : สรุปเรื่องถ่ายรูปรวมกับทีมชาติสุดอลวนของ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ | Main Stand
กลายเป็นที่แซวกันสนุกปากภายในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา เรื่องที่ว่าเกี่ยวกับ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศส ที่ออกมายืนยันว่าเขาจะไม่ยอมถ่ายรูปรวมกับสมาชิกทีมชาติฝรั่งเศส รวมถึงการถ่ายภาพโฆษณาสปอนเซอร์ทีมชาติฝรั่งเศส ด้วยเหตุผลต่าง ๆ มากมายหลายประการ
บ้างก็บอกว่าเอ็มบัปเป้ใหญ่คับประเทศฝรั่งเศสไปแล้ว บ้างก็บอกว่าเขาทำถูกต้องที่ยืนกรานเพื่อรักษาสิทธิ์ของตัวเอง ... และนี่คือการสรุปเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน 2-3 วันที่ผ่านมาว่ามันเริ่มต้นและจบอย่างไร สำหรับเรื่องของเอ็มบัปเป้และทีมชาติฝรั่งเศส ติดตามได้ที่นี่กับ Main Stand
[ เอ็มบัปเป้ กับสถานะที่เปลี่ยนไป ]
คีลิยัน เอ็มบัปเป้ แจ้งเกิดเต็มตัวตั้งแต่อายุ 18 ปีในวันที่เขาเป็นส่วนสำคัญในการพา โมนาโก คว้าแชมป์ลีกเอิง และเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อฤดูกาล 2016-17 นับตั้งแต่วันนั้นเขาก็ถูกมองในฐานะ "ดาวรุ่งเปลี่ยนโลก" คล้าย ๆ กับที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ เคยถูกยกย่องตอนเป็นดาวรุ่งนั่นแหละ
ทว่าความยิ่งใหญ่ของเอ็มบัปเป้ก็เติบโตอย่างต่อเนื่องภายในเวลาอันรวดเร็ว เขากลายเป็นนักเตะค่าตัว 200 ล้านยูโรในวันที่ย้ายจากโมนาโกมาอยู่กับทีมที่ดีที่สุดในประเทศอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง ส่วนผลงานในสนามเขาก็ยืนยันตัวตนด้วยการเป็นกุญแจสำคัญในการพาทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์โลกสมัยที่ 2 ในปี 2018
2
สถานะของเขาก้าวขึ้นมาทาบ ซีเนดีน ซีดาน ชายผู้ว่ากันว่าเป็นนักเตะฝรั่งเศสที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ ... เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นตอนที่เขาอายุ 19 ปีเท่านั้น
สถานะที่ยิ่งใหญ่ทั้งในและนอกสนามของเอ็มบัปเป้เดินหน้าต่อไปอย่างรวดเร็ว หลังจากได้แชมป์โลกเขาก็กลายเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์หน้าปัจจุบันของฝรั่งเศส เขาสนิทสนมกับ เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีของประเทศ และก้าวขึ้นสู่การเป็นนักเตะที่ "ได้รับสิทธิ์" ในทีมเปแอสเช ยิ่งกว่า ลิโอเนล เมสซี่ และ เนย์มาร์
1
นั่นทำให้เอ็มบัปเป้ได้รับหนึ่งในสัญญาก้อนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลจากการต่อสัญญากับเปแอสเช ในปี 2022 โดยเขาให้สัมภาษณ์ว่า "ถ้าผมอยากจะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งรอบตัวผม ผมควรเริ่มจากการเปลี่ยนสโมสรแห่งนี้ สโมสรจะเติบโตไปพร้อม ๆ กับผม และถ้าผมจะเขียนประวัติศาสตร์ให้สโมสรจากฝรั่งเศสทีมนี้เป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก สักครั้ง มันต้องเริ่มจากการชูถ้วยแชมป์ในยุคของผมนี่แหละ ... สโมสรแสดงโปรเจ็กต์บางอย่างให้ผมเห็น และผมก็ตอบตกลง มันน่าสนใจ มันน่าลอง และผมก็อยากจะลองอีกสักคร้ัง"
3
เอ็มบัปเป้ถูกกล่อมให้ค้าแข้งในประเทศฝรั่งเศสต่อไป เขาอยู่ในสถานะ "อยู่ต่อเพื่อทั้งประเทศ" เรื่องดังกล่าวถึงขั้นต้องให้มาครงที่เดินหน้าเรื่องนโยบายกีฬาอย่างเต็มที่ช่วยกล่อมให้เอ็มบัปเป้ตัดสินใจเล่นฟุตบอลในประเทศบ้านเกิด เพราะนอกจากจะช่วยผลักดันวงการฟุตบอลแล้ว เอ็มบัปเป้ถูกวางตัวเป็นหนึ่งในนักกีฬาสำหรับการโปรโมตมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันอีกด้วย
ทั้งหมดนี้คือสถานะของ เอ็มบัปเป้ ที่ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียง 5 ปี ... และสถานะที่เขาได้รับก็นำมาซึ่งการตัดสินใจที่ทุกคนต้องฟังเขาก่อน ส่วนจะทำตามหรือไม่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคนที่อยู่ในระดับสูงขึ้นไป...
[ สิทธิ์และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ]
ไม่ใช่แค่นักกีฬาที่มีชื่อเสียงเท่านั้นแต่ประชาชนทุกคนในประเทศล้วนมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย เพียงแต่ว่าเมื่อคุณเป็นคงที่ดังกว่าใคร ทุกการพูด การตัดสินใจ และการแสดงความคิดเห็นของคุณล้วนมีราคาต้องจ่ายเสมอ และเอ็มบัปเป้ก็กำลังเผชิญกับสิ่งนั้น
ทุกคำที่เขาพูดจะถูกเอามาขยายต่อไม่ต่างจากคำพูดของประธานาธิบดี ทุกการกระทำของเขาจะถูกตีความไปหลากหลายว่าเหตุผลเบื้องลึกมีอะไรซ่อนอยู่ ... ยกตัวอย่างง่าย ๆ กับข่าวลือที่บอกว่า เอ็มบัปเป้สามารถจัด 11 ตัวจริงของตัวเอง, เลือกสตาฟโค้ชของทีมเปแอสเช หรือแม้กระทั่งมีส่วนตัดสินใจในตลาดซื้อขาย ข่าวลือนี้ลุกไวเหมือนไฟลามทุ่งทั้ง ๆ ที่เอ็มบัปเป้ออกมาปฏิเสธแล้วว่าเขาไม่มีทางได้สิทธิ์เหมือนเป็นประธานสโมสรขนาดนั้น แต่การกระทำของเขาก็ถูกตีความไปในสิ่งที่สื่อหรือคนอื่น ๆ อยากจะเชื่ออยู่เสมอ
เอาล่ะ ทีนี้มาเข้าประเด็นล่าสุดสด ๆ ร้อน ๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างเอ็มบัปเป้กับทีมชาติฝรั่งเศส ... เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นเนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงนับถอยหลังไม่ถึง 2 เดือนก่อนฟุตบอลโลก 2022 จะเริ่มขึ้น ดังนั้นทีมชาติต่าง ๆ ที่ได้เล่นฟุตบอลโลกก็จะมีสปอนเซอร์ติดต่อเข้ามามากมาย เพราะนี่เป็นโอกาสดีที่ห้างร้านต่าง ๆ จะได้ออกอากาศให้คนเห็นไปทั่วโลกในช่วงเวิลด์คัพมาถึง
ฝรั่งเศสเองก็เช่นกัน ทีมชาติของพวกเขามีมูลค่าสูงมากในฐานะแชมป์เก่าและมีนักเตะระดับสตาร์แถวหน้าของโลกยืนกันเต็มไปหมด ดังนั้นแบรนด์ไหนที่ผ่านการคัดเลือกและขึ้นมาเป็นผู้สนับสนุนให้ทีมชาติฝรั่งเศสได้ พวกเขาจะได้รับความคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปแน่นอน โลโก้สินค้าของพวกเขาจะอยู่บนเสื้อที่ถูกสวมใส่โดย เอ็มบัปเป้, คาริม เบนเซม่า, ราฟาเอล วาราน และอีกมากมายหลายคน
นั่นเป็นเหตุผลที่ฝรั่งเศสเตรียมเปิดตัวผู้สนับสนุนทีมชาติอย่าง อูเบอร์อีท บริษัทเดลิเวอรี่อาหาร, โคคา-โคล่า เครื่องดื่มน้ำดำ, เคเอฟซี แบรนด์ไก่ทอดฟาสต์ฟู้ด และว่ากันว่ามีเว็บพนันกีฬาออนไลน์ที่เข้ามาแฝงตัวในการสนับสนุนทีมชาติฝรั่งเศสชุดฟุตบอลโลกด้วย
ถ้าคุณเป็นนักเตะที่ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังอะไร การมีสปอนเซอร์ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเกี่ยวกับอะไรย่อมเป็นเรื่องดีเสมอเพราะมันทำให้รายได้ของคุณเพิ่มขึ้น แต่ลองคิดกลับกันถ้าคุณเป็นนักเตะที่มีทุกอย่างอยู่ในมือทั้งชื่อเสียง เกียรติยศ และเงินทอง คุณย่อมต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ในแง่ของสปอนเซอร์คือการเลือกแบรนด์ที่ไม่ทำให้สถานะของเขาถูกสั่นคลอนหรือถูกด้อยค่าลง
คล้าย ๆ กับที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หยิบขวดโค้ก สปอนเซอร์หลักการแข่งขันยูโร 2020 ไปไว้ที่หลังฉากและประกาศต่อหน้าสื่อว่า "ดื่มน้ำเปล่าดีที่สุด" เขาทำเพื่อยืนยันภาพลักษณ์ของนักเตะที่ดูแลสุขภาพตัวเองมาตลอดอาชีพค้าแข้ง และเขาก็ได้รับเสียงวิจารณ์ตามมา ดีบ้าง ลบบ้าง แล้วแต่ความคิดของแต่ละคน เรื่องมันก็คล้าย ๆ กับที่เอ็มบัปเป้เป็นในตอนนี้
จากนั้นไม่นานจึงมีการเปิดเผยว่าเอ็มบัปเป้ปฏิเสธไม่ขอมีส่วนร่วมกับการถ่ายรูปร่วมกับทีมชาติฝรั่งเศส เนื่องจากปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์ ก่อนที่ทีมชาติฝรั่งเศสและนักเตะทุกคนจะร่วมถ่ายรูปหมู่ให้กับผู้สนับสนุนทีมไปทำการตลาดก่อนฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้นในวันอังคารที่ 20 กันยายน โดยเขากล่าวว่า
"ผมขอตัดสินใจไม่มีส่วนร่วมกับการถ่ายรูป เนื่องจากสมาคมฟุตบอลฝรั่งเศสไม่ยอมเปลี่ยนแปลงข้อตกลงลิขสิทธิ์เกี่ยวกับภาพลักษณ์ของผู้เล่น ... ผมเสียใจอย่างสุดซึ้งที่การเจรจาไม่สามารถลุล่วงได้ก่อนฟุตบอลโลก" เอ็มบัปเป้ กล่าว
มีการเปิดเผยเพิ่มเติมจาก เลอ กิ๊ป สื่อใหญ่ที่สุดของประเทศฝรั่งเศสว่า เอ็มบัปเป้ ที่อยู่ในฐานะ "ตัวอย่างเยาวชนในชาติ" ไม่พอใจที่ทีมชาติฝรั่งเศสร่วมทำการตลาดกับบริษัทพนันออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีสปอนเซอร์รายอื่นที่กล่าวมาทั้ง เคเอฟซี, โค้ก ที่เอ็มบัปเป้มองว่าเป็นสินค้าที่ส่งผลเสียต่อเยาวชน ทำให้อาชีพนักกีฬาโดนสั่นคลอน และเป็นของที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
1
เหตุผลทั้งหมดดูดีมีราคาสมกับเป็นนักเตะที่มีอิทธิพลและเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ของประเทศเป็นอย่างมาก ทว่ายังมี ป.ล. เล็กๆ ที่ เลอ กิ๊ป พูดถึงเรื่องนี้ว่า นอกจากเรื่องภาพลักษณ์และสปอนเซอร์ที่ส่งผลเสียต่อเยาวชนแล้ว ยังมีความไม่พอใจของเอ็มบัปเป้อยู่อีกอย่าง
1
นั่นคือความไม่พอใจที่ทีมชาติฝรั่งเศสใช้งานผู้เล่นแต่ละคนทำการตลาดอย่างไม่เท่าเทียมกัน ทั้งที่ทุกคนได้รับค่าตอบแทนเท่ากัน ว่าง่าย ๆ ก็คือ"หารส่วนแบ่งเท่ากันทุกคน แต่เขาทำงานหนักกว่าใคร" ... ซึ่งหลายคนคาดว่าประเด็นนี้นี่แหละที่สำคัญที่สุดที่ทำให้เอ็มบัปเป้ออกอาการเรื่องเยอะเป็นพิเศษในช่วงนี้
1
[ จบลงอย่างรวดเร็ว ]
หลังจากปล่อยให้ข่าวเอ็มบัปเป้เทสปอนเซอร์ทีมชาติถูกพูดถึงได้เพียงแค่ข้ามคืน เรื่องทุกอย่างก็จบลงอย่างรวดเร็วภายใต้การเปิดเผยของ สหพันธ์ฟุตบอลฝรั่งเศส หรือ FFF ที่ได้รับการยืนยันว่าหลังจากที่เอ็มบัปเป้พูดถึงเรื่องนี้ก็ได้มีการจัดการประชุมกับนักเตะในทีมเพื่อแก้ไขเรื่องดังกล่าวทันที นักเตะที่เข้าร่วมการประชุมกับผู้บริหารสมาคมได้แก่ เอ็มบัปเป้, วาราน และ อูโก้ โยริส ที่เป็นซีเนียร์ของทีม
ประเด็นของการประชุมครั้งนี้คือสมาคมฟุตบอลฝรั่งเศสจะรับฟังความเห็นของนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส "ทั้งทีม" ว่ามีความคิดเห็นอย่างไรกับแนวคิดของเอ็มบัปเป้ ซึ่งเหล่านักเตะที่เป็นตัวแทนก็ยืนยันว่าทุกคนในทีมเห็นด้วยกับแนวคิดของเอ็มบัปเป้ ซึ่งหลังจากได้ข้อสรุป FFF ก็แถลงการณ์ทันทีว่า
1
“FFF มีความยินดีที่จะร่างของข้อตกลงใหม่ที่จะช่วยให้มั่นใจถึงผลประโยชน์ในขณะที่คำนึงถึงข้อกังวลและความเชื่อมั่นที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งแสดงเป็นเอกฉันท์โดยผู้เล่น” แถลงการณ์ของสมาคมว่าไว้เช่นนั้น
เลอ ฟิกาโร สื่อในฝรั่งเศสรายงานรายละเอียดการประชุมเพิ่มเติมเรื่องดังกล่าวว่ามีการประชุมกันทั้งหมดเป็นเวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้น โดยมีตัวแทนนักเตะและโค้ชอย่าง ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ ร่วมเข้าการประชุมครั้งนี้ด้วย และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ เดส์ชองส์ เข้าประชุมกับเรื่องการตลาดหรือเรื่องทำนองนี้นับตั้งแต่เขาเข้ามาคุมทีมชาติฝรั่งเศสเลยทีเดียว
เนื้อหาการประชุมคือ โนเอล เลอ กราต ประธานสมาคมฟุตบอลฝรั่งเศส ตระหนักเห็นความสำคัญของปัญหานี้และยอมรับสิ่งที่นักเตะฝรั่งเศสเรียกร้อง ซึ่งนั่นทำให้นักเตะที่เข้าร่วมประชุมพอใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่หลังจากนั้นไม่นานจะมีข่าวหลุดออกมาว่า ณ เวลานั้น คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ที่เป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องนี้ได้ยอมรับการตัดสินใจของที่ประชุม เขาจะกลับมาถ่ายรูปรวมกับทีมและโฟกัสแต่เรื่องฟุตบอลต่อไปจนกว่าฟุตบอลโลก 2022 จะจบลง
สรุปก็คือเรื่องดังกล่าวจบลงในที่ประชุมอย่างสวยงาม ทุกอย่างสามารถดำเนินต่อไปได้โดยไม่การติดขัดใด ๆ ทั้งสิ้น จากการร่างสัญญาฉบับใหม่ระหว่าง สปอนเซอร์, FFF และนักเตะทีมชาติฝรั่งเศสชุดนี้ที่นำโดยเอ็มบัปเป้
ส่วนเหตุผลที่ข้อตกลงบรรลุอย่างรวดเร็วไม่มีใครรู้จริงนอกจากผู้ที่เข้าประชุมในวันนั้น ดังนั้นเรื่องข่าวลือที่ว่ามีการเพิ่มเงินให้กับเอ็มบัปเป้โดยเฉพาะ หรือข่าวลือที่ว่า FFF เลือกถือหางนักเตะในทีมมากกว่าสปอนเซอร์ มีโอกาสเป็นทั้งเรื่องจริงและไม่จริงได้ทั้งนั้น อย่างไรก็ตามมันไม่สำคัญเท่าผลลัพธ์ที่ข้อพิพาทดังกล่าวจบลงอย่างเป็นทางการก่อนศึกใหญ่จะมาถึง
1
ชีวิตของเอ็มบัปเป้จะต้องวนเวียนกับข่าวลือทั้งลบและบวกอีกมากหากเขายังอยู่บนจุดสูงสุดของนักเตะทีมชาติฝรั่งเศสแบบนี้ต่อไป การตีความจากคำพูดและการกระทำของเขาจะดำเนินต่อไปแน่นอน บางเรื่องจริงบางเรื่องไม่จริง สุดแท้แต่ที่ใครจะคาดเดา
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้นักฟุตบอลคนหนึ่งถูกมองว่ายิ่งใหญ่คือผลงานในสนาม ตราบใดที่เอ็มบัปเป้ยังเป็นคีย์แมนและเป็นคนชี้ขาดความสำเร็จด้านผลการแข่งขันให้ทีมชาติฝรั่งเศสได้ เขาย่อมมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องและรักษาภาพลักษณ์ต่าง ๆ ที่เขาสร้างมาแน่นอน เพียงแต่ว่าสิ่งที่ต้องระวังคือหากวันใดที่เขาและทีมชาติฝรั่งเศสในยุคนี้มีผลงานตกต่ำ เขาจะต้องเป็นคนที่รับแรงวิจารณ์และแรงกดดันมากกว่าใครคนอื่น ๆ หลายเท่า ... นี่คือชีวิตของซูเปอร์สตาร์ที่เขาจะต้องเรียนรู้ต่อไป และในตอนนี้เขายังอายุแค่ 23 ปีเท่านั้น
1
จากนี้ไป คีลิยัน เอ็มบัปเป้ จะวางภาพลักษณ์ตัวเองไว้แบบไหน มันก็น่าสนใจพอ ๆ กับผลงานในสนามของเขา
แหล่งอางอิง
โฆษณา