25 ก.ย. 2022 เวลา 21:39 • ปรัชญา
"ความอยากทำให้เราอยู่ไม่เป็นสุข"
ถ้าอยากจะดับความอยากอย่างถาวรนี้ ต้องใช้ปัญญา ปัญญานี้จะเป็นตัวที่จะดับความอยากได้อย่างถาวร แต่ปัญญาจะดับกิเลสได้ก็ต้องมีสติเป็นผู้คอยสนับสนุนให้กำลัง สติจะให้กำลัง ปัญญาจะเป็นคนบอกว่าการทำตามความอยากนี้เป็นอันตราย ถ้าไม่มีปัญญาก็จะไม่รู้ว่าการทำตามความอยากนี้เป็นอันตราย แทนที่จะคิดว่าความอยากนี้เป็นศัตรู กลับไปคิดว่าเป็นมิตร ก็เลยเอามาเลี้ยงมัน มาดูแลมัน แล้วมันก็มากัดเราทีหลัง
แต่ถ้ามีปัญญา ปัญญาจะบอกว่าความอยากนี้เป็นข้าศึกศัตรูหมายเลขหนึ่ง พอมันโผล่มาเมื่อไหร่ ต้องหยุดมันเมื่อนั้น อย่าไปทำตามมันทันที มันอยากจะดื่มสุราต้องไม่ดื่มทันที อยากจะดื่มกาแฟต้องไม่ดื่มทันที อยากจะกินในเวลาที่ยังไม่ถึงเวลากิน ก็อย่าไปกิน อยากจะดูอยากจะทำอะไรที่ไม่จำเป็นจะต้องดูต้องทำก็อย่าไปดู
ถ้าดูแล้วมันติด เข้าใจไหม มันต้องดูอยู่เรื่อยๆ ฟังอยู่เรื่อยๆ กินอยู่เรื่อยๆ ดื่มอยู่เรื่อยๆ เวลาไม่ได้ดู ไม่ได้ฟัง ไม่ได้กิน ไม่ได้ดื่ม ก็จะทุกข์ แต่ถ้าเราไม่ทำมันเราจะไม่ทุกข์ พอเราไม่ทำตามความอยากแล้ว ความอยากมันก็จะหายไป แล้วความอิ่มความพอก็จะเกิดขึ้นมาในใจ
อันนี้เป็นหน้าที่ของปัญญา เราต้องหมั่นสอนใจให้เห็นโทษของการทำตามความอยาก ให้เห็นคุณของการไม่ทำตามความอยาก เวลาไม่มีความอยากแล้วสบาย อย่างตอนนี้น่ะ เรานั่งตรงนี้ได้เพราะอะไร เพราะเราไม่มีความอยากจะไปทำอะไร แต่ถ้ามีความอยากปั๊บนี้นั่งไม่ไหวแล้ว คนที่ติดบุหรี่นี้สมมติถ้าติดบุหรี่ นั่งอยู่สักพักนึงอยากจะสูบบุหรี่นี้ขยับซ้ายขยับขวา เดี๋ยวทนไม่ไหวก็ลุกไป เพราะอยาก
แต่คนตอนนี้ถ้าไม่มีความอยากก็นั่งเฉยๆ ได้สบาย ความอยากนี่แหละเป็นตัวที่ทำให้เราอยู่ไม่เป็นสุข ทำให้เราไม่อิ่มไม่พอ ทำให้เราหิวอยู่เรื่อยๆ ความอยากก็คือความหิวนั่นเอง
สนทนาธรรมบนเขา
วันที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๐
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี
โฆษณา