เช้าวันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน 2565
เรากำลังจะเดินออกไปเซเว่นหน้าปากซอย
เดินมาจนถึงกลางซอย....
ก็ได้ยินเสียงลูกแมวร้องเสียงดังลั่น
เราก็เลยพยายามมองหาตามเสียงร้อง
แล้วสายตาก็หันไปมองเห็นลูกแมวสองตัว
นอนอยู่บนพื้นริมถนน...
นอนอยู่บนหนังสือพิมพ์ที่ขยุ้มๆ ไว้
นอนตัวสั่น ส่งเสียงร้องเสียงดังลั่น คงเพราะหิวมาก
เราเดินเข้าไปดูแล้วก็พบว่า
ลูกแมวตัวเล็กมากเหมือนเพิ่งคลอดออกมา
เพราะสายสะดือสายรก และคราบรก
ยังติดอยู่บนตัวลูกแมว
รู้ได้ทันทีว่า มีคนเอาลูกแมวมาทิ้ง!!
และพอเรากวาดสายตามองไปไกลขึ้นอีกนิด
ก็เห็นลูกแมวอีกตัว นอนนิ่งไม่ขยับตัวอยู่บนพื้น
เราเอานิ้วไปเขี่ยๆ เพื่อดูว่าลูกแมวยังมีชีวิตอยู่ไหม
ผลคือ ลูกแมวตายแล้ว...
เราเลยพอจะคาดเดาเหตุการณ์ได้ว่า
ลูกแมวน่าจะคลอดได้ไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว
และมีคนเอามาทิ้งไว้ริมถนน
อาจจะขยุ้มใส่กระดาษหนังสือพิมพ์ห่อไว้ลวกๆ
แล้วเอามาทิ้งแบบโยนส่งๆ
เพราะลูกแมวตัวที่นอนตายอยู่
นอนตายอยู่ห่างจากลูกแมวอีกสองตัวไปค่อนข้างไกล
และลูกแมวไม่น่าจะคลานไปเองได้ไกลขนาดนั้น
อยากจะบอกว่า...ไอ้คนที่เอามาทิ้ง ใจร้ายมากนะ!!
ถ้าไม่ชอบแมวขนาดนี้ จะเอามาทิ้งทั้งที เอาใส่กล่องมาวางไว้ดีๆก็ได้ นี่เหมือนตั้งใจทิ้งแบบปล่อยให้ลูกแมวนอนตายไปเอง คงไม่ได้คิดว่า ใครจะมาช่วยเก็บเอาไปเลี้ยง
ไม่อยากจะสาปแช่ง😡😡😡
#แต่ผลกรรมมันตามทันแน่นอน!!!
เรายืนมองลูกแมวอีกสองตัวที่กำลังนอนร้องเสียงดัง
อยู่บนพื้น ใจสั่น สงสารลูกแมว
เราเดินหากล่องลังกระดาษใบเล็ก จับลูกแมวใส่กล่อง
เอากลับมาบ้าน...โทรหาโรงพยาบาลสัตว์
เพื่อสอบถามข้อมูล คุณหมอบอกว่า เปอร์เซ็นต์การรอดน้อยมาก เพราะลูกแมวเพิ่งจะคลอดออกมาไม่นาน ยังมีสายสะดือ สายรกติดอยู่ อาจจะยังไม่ได้รับนมแม่เลย และภูมิต้านทานยังไม่มี โรงพยาบาลสัตว์ก็ให้ยาไม่ได้ เพราะอวัยวะภายในยังไม่สมบูรณ์ และอ่อนแอ ถ้าให้ยาก็จะเป็น overdose!! ถึงจะให้ออกซิเจนช่วย เปอร์เซ็นต์การรอดก็ยังน้อยมากเหมือนกัน
ตัวสีดำ ตั้งชื่อว่า บุญเหลือ ตัวลายวัว ตั้งชื่อว่า บุญเพิ่ม
สิ่งที่ทำได้คือประคองให้รอดไปวันต่อวัน ทำให้ดีที่สุดในช่วงอาทิตย์แรก
สิ่งที่คุณหมอบอกให้ทำคือ
1. เอาลูกแมวกกไฟ ให้ตัวอบอุ่น หาหลอดไฟ
โคมไฟวางไว้ใกล้ๆ เพราะลูกแมวยังไม่มีชั้นผิวหนังที่จะเก็บไขมันเพื่อสร้างความอบอุ่นด้วยตัวเอง จะทำให้ลูกแมวหนาวตายได้
2. ให้นมแพะลูกแมว ทุกชั่วโมง ขนาดสลิ้งค์ 1 ซีซี ตลอด 1 สัปดาห์แรก แล้วค่อยเพิ่มปริมาณการให้นม
ในสัปดาห์ต่อไป
(เราตั้งนาฬิกาปลุก ตื่นมาให้นมทุกชั่วโมงทั้งคืน..ง่วงนอนมาก)
3. คอยกระตุ้นอึและฉี่บ่อยๆ เอาสำลีชุบน้ำอุ่นแล้วเช็ดไปแถวก้น ถ้าลูกแมวอึหรือฉี่เสร็จแล้ว ลูกแมวจะหุบหางลงปิดรูก้นเอาไว้ แต่ถ้าโก่งกระดกก้น คือลูกแมวยังอึไม่เสร็จ
ช่วงแรกที่เอาลูกแมวมาดูแล ร้องเสียงดัง มีแรงดิ้น แรงถีบ กินได้ปกติดี อึเป็นก้อนปกติดี เราคิดว่า น้องน่าจะรอด เราคิดว่า เราจะดูแลเลี้ยงอย่างดี
แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งวัน บุญเหลือ ก็เริ่มมีเลือดจางๆ ไหลซึมออกมาทางปากและจมูกเรื่อยๆ
เรารู้เลยว่า น้องคงไม่รอดแน่นอน ( ไม่รู้ว่าอวัยวะภายในของน้อง จะช้ำในหรือเปล่า เพราะอย่างที่บอกไปว่า คนที่เอามาทิ้ง น่าจะโยนลูกแมวแบบปล่อยให้ตายเอง)
เราก็ยังดูแลให้ดีที่สุด ให้น้องนอนกกไฟอุ่นๆ หาผ้านุ่มๆให้ซุกนอน ยังป้อนนมให้ แต่ลดปริมาณลงเหลือ 0.5 ซีซี และคอยดูเฝ้าดูอาการ
จนบุญเหลือ ค่อยๆ นอนนิ่งหายใจแผ่วลง จนจากไปอย่างสงบ เราฝังน้องอย่างดีที่ใต้ต้นไม้
หลังจากนั้น เราก็ตั้งใจดูแลบุญเพิ่ม เพราะอยากให้น้องรอด น้องมีแรงถีบแรงดิ้น เดินไปทั่วกล่อง
ร้องเสียงดังตอนกินนม และตอนกระตุ้นอึฉี่
แต่หลังจากนั้น น้องเริ่มถ่ายเป็นมูกเหลวปนเลือด
ไม่ได้ถ่ายเป็นก้อนเล็กๆเหมือนเดิม
แล้วไม่นาน น้องก็เริ่มนิ่งลง ไม่เดิน ไม่ร้อง ไม่ดิ้น
ไม่ถีบเท้า แล้วน้องก็ค่อยๆนิ่งไป
น้องจากไปอย่างสงบเช่นกัน เราฝังบุญเพิ่มไว้ใกล้ๆ กับบุญเหลือ
เราทำดีที่สุดแล้ว เพราะคุณหมอก็บอกแล้วว่า เปอร์เซ็นต์รอดน้อยมาก ให้ทำใจไว้
แต่ก็ให้ดูแลไปให้ดีที่สุด
อย่างน้อย เด็กๆ ก็ไม่ต้องนอนหนาวตายริมถนนอย่างทรมาน
เราอยากบอกคนที่คิดจะทิ้งลูกแมว หรือลูกหมาว่า
อย่าทำเลย!! แต่ถ้าจะทิ้งเค้าเพราะไม่ชอบ
ก็ช่วยเอาใส่กล่อง หาที่วางไว้ดีๆ
หรือหาคนมารับไปเลี้ยงเถอะ
อย่าเอามาทิ้งขว้างริมถนน ทำเหมือนเค้าไม่มีชีวิต
อย่าทำตัวเป็นคน แต่จิตใจเดรัจฉาน ในร่างมนุษย์เลย
เค้าเป็นแค่ลูกแมวตัวเล็กๆ ไม่ได้มีพิษภัยอะไร
คุณจะเกลียด จะไม่ชอบสัตว์ ไม่ชอบหมาแมวยังไงก็ตาม
แต่อย่าทำร้ายแมวหมาเลย 😥
ความยิ่งใหญ่ของชาติหนึ่งชาติใด และวิวัฒน์แห่งจริยธรรมของชาตินั้น สามารถตัดสินกันได้ ที่วิธีการ ที่ปฏิบัติต่อสัตว์ในชาตินั้นๆ
มหาตมะ คานธี
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
