30 ก.ย. 2022 เวลา 08:58 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
เทคโนโลยีที่อาจ "สอดแนม" คุณ
เมื่อเราก้าวเข้าสู่พรมแดนใหม่ๆ ด้วยเทรนด์เทคโนโลยีล่าสุด และเพลิดเพลิน ผสมปนเปได้ด้วยความสะดวกสบาย ไปกับประโยชน์เชิงบวกมากมายที่จะเกิดขึ้นกับวิธีการทำงาน การเล่น การบันเทิง พักผ่อน และการใช้ชีวิต
แต่เหรียญนั่นมีสองด้าน ดาบนั่นมีสองคม เราต้องมีสติอยู่เสมอและเตรียมพร้อมสำหรับผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้ในทางที่ผิดทั้งทางตรงและทางอ้อม ผมอยากบอกเล่าถึงเทรนด์เทคโนโลยีที่อันตรายที่สุด อีกประเภทที่มีผลทั้งในแง่บวกและลบ อีกทั้งยังอยู่ใกล้ตัวกว่าที่เราคิด
เทรนด์เทคโนโลยีที่ว่าคือ
เทคโนโลยีการสอดแนมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม (Spying Smart Home Devices)
เพื่อให้อุปกรณ์สมาร์ทโฮมตอบคำถาม รับคำสั่ง และมีประโยชน์มากที่สุด อุปกรณ์เหล่านี้จำเป็นต้องฟัง และติดตามข้อมูลเกี่ยวกับตัวเรา และนิสัยประจำของเราตลอดเวลา ปัจจุบันแกนหลักของเทคโนโลยีนี้ คือ ลำโพงอัจฉริยะ ที่จะเชื่อมต่อและส่งคำสั่งไปยังอุปกรณ์สมาร์ทโฮมชิ้นอื่นๆภายในบ้าน ซึ่งเป็นอุปกรณ์อัจฉริยะ
ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ในรูปแบบแนวคิด I.O.T หรือชื่อเต็มๆว่า Internet Of Thing คือการเชื่อมต่อถึงได้อย่างครอบคลุมจากอุปกรณ์ที่หลากหลายผ่านเครือข่ายอินเตอร์เนตโดยการสั่ง เปิด-ปิด ผ่านระบบผ่านลำโพงอัจฉริยะ เพื่อเชื่อมต่อ ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า หลอดไฟ เครื่องปรับอากาศ กล้องวงจรปิด และอีกมากมาย
เทคโนโลยีสมาร์ทโฮม เหล่านี้จะสร้างความสะดวกสบายให้เราอย่างมากด้วยประสิทธิภาพสูง แต่นั่นก็หมายถึงเราได้อนุญาตให้สายลับเข้ามาในบ้านของเราทางอ้อมเรียบร้อยแล้ว
ข้อมูลทั้งหมดที่อุปกรณ์อัจฉริยะรวบรวมเกี่ยวกับนิสัยของคุณ เช่น ประวัติการดูซีรีย์ของคุณบน Netflix หรือ บริเวณที่คุณพักอาศัยอยู่ และเส้นทางที่คุณกลับบ้านประจำ เพื่อให้ Google สามารถบอกวิธีหลีกเลี่ยงการจราจรได้ พวกมันจะรู้ว่าโดยปกติแล้วคุณกลับถึงบ้านกี่โมง และออกไปทำงานกี่โมง
เพื่อกำหนดเวลาอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิทำให้ภายในบ้านคุณมีอุณหภูมิตามที่คุณต้องการ หรือแม้แต่ภาพจากกล้องวงจรปิดก็จะถูกเก็บและบันทึกไว้โดยอัตโนมัติ และข้อมูลอย่างละเอียดเหล่านี้จะถูกเก็บไว้ในระบบคลาวด์
จริงอยู่ที่ข้อมูลนี้ทำให้ชีวิตของคุณสะดวกขึ้น แต่ก็มีโอกาสที่จะถูกล่วงละเมิดได้เช่นกัน ตามทฤษฎีแล้ว อุปกรณ์ผู้ช่วยเหล่านี้ จะฟัง "คำปลุก" ก่อนที่จะเปิดใช้งาน แต่มีบางกรณีที่อาจเกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้ คิดว่าคุณพูดคำปลุกแล้วเริ่มบันทึกได้โดยไม่ได้ตั้งใจ
อุปกรณ์อัจฉริยะใดๆ อาจเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของเรา เพราะอาจจะมีการบันทึกข้อมูลส่วนตัวมากๆ ที่เราไม่อยากเปิดเผย เช่น รสนิยมทางเพศ หรือการคุยกันเกี่ยวกับงาน หรือความลับทางธุรกิจเป็นต้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้ในการหาผลประโยชน์ในทางที่ผิด เช่นการแบล็คเมล์ หรือใช้นำมาข่มขู่ได้ หากโดนแฮก ผ่านระบบเครือข่าย หรือแม้แต่นำของมูลส่วนบุคคล และไลฟ์สไตล์ของเรา ไปขายเพื่อทำการตลาดต่อเนื่อง
มีกลยุทธ์ในการป้องกันบางอย่าง เช่น การปกปิดกล้อง การปิดอุปกรณ์เมื่อไม่จำเป็น และการปิดเสียงไมโครโฟน แต่ก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่าข้อมูลเหล่านี้จะปลอดภัยร้อยเปอร์เซนต์
เราได้แต่เพียงคาดหวังว่าการมาถึงของอุปกรณ์อัจฉริยะมากมายในอนาคตที่จะถึง นอกจากมันจะมาพร้อมกับความสะดวกสบายแล้ว มันควรจะพ่วงมาด้วยระบบการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลมากพอต่อความเป็นส่วนตัว และควรมีข้อกำหนด หรือกฎเกณฑ์กันให้เข้มงวดชัดเจนในป้องกันปัญหาดังกล่าวให้ครอบคลุม และรัดกุม
ที่ไม่ใช่เข้ากรณีที่ว่า ขายสินค้าและบริการได้เงินได้กำไรจากเราไปแล้ว ยังมาล้วงเอาข้อมูลเราไปขายทำกำไรอีกต่อหนึ่งเรียกว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว เปิดไพ่ตาเดียวป็อกเก้าสองเด้งกันเลยทีเดียว / JPW
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ
-Bernard Marr The 7 Most Dangerous Technology Trends In 2020
-ภาพโดย Sebastian Scholz(Nuki) ,Moritz kindler , Mollie Sivaram จาก Unsplash.com
โฆษณา