30 ก.ย. 2022 เวลา 12:00 • การตลาด
Subscription Fatigue ภาวะเหนื่อยหน่าย กับการสมัครสมาชิกรายเดือน เพราะมีบริการเยอะเกินไป
หลายคนน่าจะรู้สึก “เหนื่อยหน่าย” กับการสมัครสมาชิกรายเดือน หรือ Subscription
เพราะสมัครสมาชิกแต่ละบริการไว้มากมายเหลือเกิน จนเริ่มตามไม่ทัน
ไม่ว่าจะเป็นการสมัครสมาชิก Netflix, Disney+, Amazon Prime และ HBO สำหรับดูหนัง
สมัครสมาชิก Spotify, YouTube Music และ Apple Music สำหรับฟังเพลง
หรือบริการสมัครสมาชิกฟิตเนส, รับอาหาร, แอปหาคู่ และอื่น ๆ อีกสารพัดอย่าง
รู้หรือไม่ว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นกับเราแค่คนเดียวเท่านั้น
แต่เป็นสิ่งที่คนทั่วทุกมุมโลกกำลังมีปัญหาร่วมกัน
ภาวะที่ผู้คนกำลังเหนื่อยหน่ายกับการสมัครสมาชิกรายเดือนนี้ มีชื่อเรียกว่า “Subscription Fatigue”
แล้วทำไมคนทั่วโลกกำลังเข้าสู่ภาวะ Subscription Fatigue ?
1
เหตุผลแรกคือ ผู้คนกำลังใช้บริการที่สมัครไว้ไม่ทันอีกต่อไป
ปัจจุบันเราจะเห็นว่า บริษัทต่าง ๆ เริ่มหันมาใช้ระบบสมาชิกรายเดือนกันมากขึ้น
เพราะเป็นรูปแบบธุรกิจที่ช่วยสร้างรายได้ ที่มีความมั่นคงและสม่ำเสมอในระยะยาว
ตัวอย่างบริษัทที่ประสบความสำเร็จอย่างเห็นได้ชัดคือ Adobe ที่เปลี่ยนจากโมเดลการขายขาด มาเป็นการสมัครสมาชิกรายเดือน จนทำให้บริษัทสามารถสร้างรายได้และกำไรเติบโตขึ้น 5 เท่า ภายในระยะเวลา 14 ปี
พอมีบริษัทที่ทำแล้วได้ผลลัพธ์ดี ก็ส่งผลให้บริษัทอื่น ๆ สนใจทำตามบ้าง ซึ่งต้องบอกว่าไม่ได้มีเพียงแค่บริษัทเทคโนโลยีเท่านั้นที่ใช้โมเดลธุรกิจนี้ แต่เหล่าบริษัทบนโลกออฟไลน์ หรือธุรกิจดั้งเดิม ก็กระโดดเข้ามาร่วมวงด้วยเช่นกัน..
เช่น Stitch Fix บริการเสนอสินค้าแฟชั่น จากหลากหลายแบรนด์แบบรายเดือน
BarkBox บริการเสนอของเล่นสุนัขแบบรายเดือน
และ Ira Concept บริการผ้าอนามัยแบบรายเดือน
ซึ่งที่ผ่านมา ระบบสมาชิกรายเดือนค่อนข้างจะดูเวิร์ก เพราะเราเสียเงินไม่มาก แต่ได้รับความสะดวก
และก่อนหน้านี้ บริษัทที่ทำรูปแบบธุรกิจนี้ก็ยังมีไม่มากนัก
ประกอบกับช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ผู้คนไม่สามารถออกไปไหนได้ เลยยอมเปิดใจใช้บริการในลักษณะนี้กันมากขึ้น
1
โดยจากการสำรวจของ Deloitte หนึ่งในบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชีรายใหญ่ระดับโลก ในปี 2564 พบว่า ครอบครัวชาวอเมริกัน มีการสมัครสมาชิกรายเดือนต่าง ๆ เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 9 รายการ..
อย่างไรก็ดี เมื่อมีสินค้าและบริการในลักษณะนี้กันมากขึ้น หลายคนก็เริ่มที่จะบริโภคหรือใช้บริการตามไม่ทัน
โดยตัวอย่างที่หลายคนน่าจะมีปัญหากันนั่นคือ บริการวิดีโอสตรีมมิง ที่มีตัวเลือกมากมาย ตั้งแต่ Netflix, Disney+, Amazon Prime, HBO Go, Viu และ Apple TV+
ซึ่งแค่เห็นรายชื่อผู้ให้บริการ เราก็ปวดหัวเลือกดูกันไม่ถูกแล้ว..
เมื่อเรื่องเป็นแบบนี้ จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ Kearney Consumer Institute บริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการชั้นนำระดับโลก จะสำรวจผู้คนแล้วพบว่า 40% มีท่าทีที่จะยกเลิกการสมัครสมาชิกรายเดือนบางอย่างออกไปนั่นเอง
เหตุผลที่ 2 คือ เรื่องของเงิน
แม้ว่าแต่ละบริการจะเก็บค่าบริการที่ไม่สูงมากนัก แต่ถ้าหากเราสมัครสมาชิกหลาย ๆ แพลตฟอร์ม จะพบว่าเมื่อรวมค่าใช้จ่ายแล้วนั้น ก็เป็นเงินที่ไม่น้อยเลยทีเดียว
ยิ่งในช่วงภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน เงินเฟ้อสูง ซึ่งข้าวของต่าง ๆ ที่เราจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวันต่างพากันปรับขึ้นราคา เช่น ค่าอาหาร, ค่าที่พัก, ค่าไฟฟ้า
ขณะที่ค่าแรง หรือเงินเดือนกลับเท่าเดิม..
ผู้คนจึงรู้สึกเหนื่อยล้ากับการสมัครสมาชิกรายเดือนกว่าแต่ก่อน
เมื่อตัวเลือกเริ่มมีมากขึ้น
ขณะที่คนเรามีเงินและเวลาจำกัด
จึงนำไปสู่ปรากฏการณ์ Subscription Fatigue ในที่สุด
สุดท้ายน่าคิดต่อว่า บริษัทที่พึ่งระบบสมาชิกรายเดือนเป็นหลัก จะปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อย่างไรกันต่อไป เพราะดูเหมือนว่าบริษัทต่าง ๆ กำลังเข้ามาแข่งขันในรูปแบบนี้กันมากขึ้น
ขณะที่ผู้คนบางกลุ่ม กำลังเริ่มเบือนหน้าหนีกันแล้ว..
โฆษณา