#กำเนิด Kit kat “แบรนด์ที่ไม่เคยแก่"
แบรนด์ช๊อกโกแลตที่มีอายุมานานเกือบ 100 ปี ทั้งยังเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความสนใจและเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนเสมอมา ซึ่ง Kit kat เติบโตมาได้อย่างไรและทำไมถึงอยู่ได้นานขนาดนี้ วันนี้เรื่องเล่าจากดาวนี้จะเล่าให้ฟัง
ภาพ: https://www.nestle.co.uk/
จุดเริ่มต้นของ kit kat เริ่มต้นขึ้นในศตวรรษที่ 17 ณ ร้านพายขายเนื้อ ซึ่งมีเชฟ Christopher Catling (คริสโตเฟอร์ แคตลิง) เป็นเจ้าของร้าน โดยพายเนื้อของร้านนี้เป็นที่รู้จักและเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในเมืองนั้นเป็นอย่างมาก โดยชื่อพายเนื้อตั้งตามชื่อของตัวเองว่า kit cat ทั้งยังกลายเป็นชื่อที่หลายคนพูดติดปาก
และด้วยความนิยมของผู้คนที่ชอบมานั่งกินพายเนื้อ พร้อมพูดคุยเรื่องการเมืองและเรื่องต่าง ๆ Christopher จึงตั้งกลุ่มชื่อ Kit cat club ขึ้นมาที่ร้านของเขาเพื่อให้คนในเมืองได้พักผ่อนหย่อนใจด้วยพายและเรื่องต่าง ๆ
ในปี 1935 บริษัทลูกกวาด Rowntree's ในเมืองยอร์ก ประเทศอังกฤษ ก็ได้รับฟังคำร้องจากพนักงานจนได้ทราบว่า “พนักงานส่วนใหญ่ภายในโรงงานของเขามีความต้องการและอยากจะได้ขนมที่สามารถพกพาได้สะดวก หรือพกใส่กระเป๋ากางเกงมาทำงานได้” และด้วยความคิดนี้ ขนมช๊อคโกแลตคิดแคท จึงถือกำเนิดขึ้น
ภาพ: https://www.nestle.co.uk
โดยชื่อ kit kat ได้ตั้งชื่อตามเชฟ Christopher Catling เจ้าของร้านพายเนื้อชื่อดัง “เนื่องจากไอเดียของการสร้างช๊อคโกแลต มาจากการสร้างขนมทานเล่นระหว่างพัก เช่นเดียวกับการพักทานพายเนื้อในร้านพายของ Christopher”
แต่ถึงอย่างนั้นชื่อแรกของคิทแคทก็คือ kit kat chocolate crisp โดยรูปลักษณ์ของ kit kat ณ เวลานั้น เป็นช๊อคโกแลต 4 แท่ง ภายในประกอบไปด้วยเวเฟอร์สามชั้น เวเฟอร์เคลือบด้วยช็อกโกแลตชั้นในและนอก แต่ละชิ้นถือเป็น "นิ้ว" คิทแคทแต่ละห่อมักจะมี 1-4 นิ้วเชื่อมต่อกัน
ถูกบรรจุไว้ภายในบรรจุภัณฑ์สีแดง(กระดาษสีแดง) ตัวหนังสือเป็นสีขาวตัดกันสวยงาม ส่วนขนาดของสินค้าไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไปสามารถพกพาได้สะดวก และหักเป็นชิ้นเล็ก ๆ กินระหว่างพักได้สบาย ๆ อีกทั้งรสชาติของช๊อคโกแลตยังไม่เข้มจนเกินไป จึงสามารถทานได้ทุกเพศทุกวัย
ภาพ: https://www.nestle.co.uk
ทว่าในช่วงเวลาสั้น ๆ ในปี ค.ศ. 1942 ช่วงสงครามครั้งที่ 2 กระดาษห่อหุ้มของ kit kat ก็ถูกเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเพื่อแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงสูตรที่เกิดจากการขาดแคลนนมสด อย่างไรในปี 1949 ปริมาณนมเริ่มกลับมาเป็นปกติ โลโก้สีแดงจึงถูกนำกลับมาใช้อีกครั้ง
Kit Kat กลายเป็นขนมนานาชาติในปี 1950 อีกทั้งแบรนด์ยังเริ่มขยายไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแคนาดา
ในปี 1958 ตัวแทนโฆษณา Donald Gillies จาก JWT of London ได้แนะนำวลีคลาสสิก "Have a break, have a Kit Kat" หรือที่เรารู้จักกัน “คิดจะพัก คิดถึงคิทแคท”(ใช้มานานกว่า 50 ปี)ในโฆษณาและแคมเปญสำหรับการทำสื่อ จึงช่วยให้แบรนด์เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
ภาพ: https://www.nestle.co.uk/
นับแต่นั้นประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกก็เริ่มรู้จัก Kit Kat มากขึ้น แต่ที่แตกต่างออกไปคือ ในอเมริกา มีนม ไวท์ หรือดาร์กช็อกโกแลต ควบคู่ไปกับรสชาติตามฤดูกาล ส่วนญี่ปุ่นก็ได้สร้างรสชาติที่ต่างออกไปมากกว่า 200 ชนิด เช่น ซีอิ๊ว ข้าวโพด ถั่วเขียว มิโซะ เชอร์รี่ ชาเขียว และเมล่อนยูบาริ ประเทศญี่ปุ่นได้สร้างคิทแคทที่อบได้
ซึ่งเคลือบด้วยแป้งและภายในอัดเน้นไปด้วยรสชาติต่าง ๆ เช่น พุดดิ้งและชีสเค้ก
ปัจจุบัน Kit Kat เป็นแบรนด์ของ Nestlé ทั้งยังเป็นหนึ่งในแบรนด์ช็อกโกแลตชั้นนำของโลก ขณะที่เล่าถึงเรื่องการถือกำเนิดของแบรนด์ Kit kat ช็อคโกแลตแท่งแบรนด์นี้ก็อัดแน่นเต็มปากของแบมไปหมด
จึงรับรู้เลยว่า Kit kat มีความพิเศษไม่เหมือนใครเมื่อเทียบกับช็อกโกแลตแบรนด์อื่น ๆ ยิ่งกินหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยจากการเรียนหรือการทำงานมาทั้งวันยิ่งเพลิน เหมาะสมกับสโลแกน "Have a break, have a Kit Kat" จริง ๆ
“ความต้องการและปัญหาคือจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจที่ดีที่สุด”
ติดตามเรื่องเล่าจากดาวนี้เพิ่มเติมได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/fromthisstar
Blockdit : https://www.blockdit.com/fromthisstar
Instagram : https://www.instagram.com/fromthisstar/
TikTok: https://vt.tiktok.com/ZSJSpnyCT/
หากชื่นชอบก็อย่าลืมกด Like กด Share เพื่อเป็นกำลังใจให้กันด้วยนะคะ สามารถแชร์แนวคิด มุมมองดีๆได้ใน Comments นี้เลย
#เรื่องเล่าจากดาวนี้
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
