24 มิ.ย. 2023 เวลา 00:08 • ประวัติศาสตร์
ตุรกี

รูปที่มีทุกบ้าน ของ สาธารณรัฐตุรกี

รูปที่มีทุกบ้าน ของ สาธารณรัฐตุรกี
ประธานาธิบดี "มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก" ( Mustafa Kemal Atatürk)
จอมพล นักปฏิวัติ รัฐบุรุษ นักเขียนชาวตุรกี และเป็นบิดาผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐตุรกี
ผู้คนจากทั่วประเทศในพิธีไว้อาลัยแด่ วีรบุรุษของพวกเขา
ทุกๆ วันที่ 10 พฤษจิกายน จะมีพิธีสดุดีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์สดุดีต่ออดีตผู้นำประเทศ ในกรุงอิสตันบูล เมื่อถึงเวลา 09.05 น. ตามเวลาท้องถิ่น เสียงไซเรนดังขึ้น......ส่งเสียงดังไปทั่วเมือง เพื่อบ่งบอกถึงช่วงเวลาที่แน่นอนของการเสียชีวิตของผู้นำที่พวกเขารัก ที่จากไปในวัย 57 ปี ทุกๆคนยืนนื่งไว้อาลัย เป็นเวลา 2 นาที เพื่อออกแสดงถึงความเคารพ ทุกๆเมืองในตุรกี ทั้งเมืองจะเงียบสงัด รถทุกคันพร้อมใจกันจอด แล้วคนบนรถก็ลงจากรถ ท่าทางสงบ เหมือนกับผู้คนอีกหลายล้านคนทั่วประเทศต่างทำการไว้อาลัยเช่นเดียวกัน
ภาพหญิงชราคนนึงบนรถเข็น หน้า Anitkabir or the Ataturk Mausoleum เป็น อนุสรณ์สถาน พิพิธภัณฑ์ และที่บรรจุศพ ของ บิดาผู้วางก่อตั้งและวางรากฐานสาธารณรัฐตุรกี
ณ สถานที่หนึ่ง ชื่อ "Anitkabir" หรือ "the Ataturk Mausoleum" ในเมือง อังการา( Ankara ) หญิงชราบนรถเข็นคนหนึ่งสวมเสื้อพิมพิ์ด้วยลายรูปหน้าวีระบุรุษของชนชาติตุรกี ในมือทั้งสองข้างโอบรูปถ่ายในกรอบอย่างดีรูปหนึ่ง “อวยพรวิญญาณของเขา ตอนนี้มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องปกป้องสาธารณรัฐที่เขาก่อตั้งขึ้น” คำกล่าวของหญิงชราผู้นั้น เธอเดินทางจากบ้านเกิดหลายร้อยกิโล พร้อมกับอีกผู้คนหลายพันคน จาก 81 จังหวัดของประเทศ เดินทางมายังสุสานของชายผู้หนึ่ง ณ.เมือง อังการา( Ankara )
วันเวลาเดียวกัน ณ หน้าพระราชวังโดลมาบาห์เชในกรุงอิสตันบูล ผู้ไว้อาลัยทั้งน้ำตา ต่อแถวยาวแสดงความเคารพที่สุสานของอตาเติร์กในอังการาและหน้าพระราชวังโดลมาบาห์เชในอิสตันบูล บางคนสวมเสื้อยืดที่มีรูป เคมาล อตาเติร์ก บ้างก็โบกธง ร่วมรำลึกถึงผู้นำผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐตุรกี เมื่อวันที่ 10 พ.ย.
 
ปลายทางของนักเดินทาง คือเมือง Ankara และ อิสตันบูล พิธีการไว้อาลัย และรำลึกถึงการจากไปอย่างเป็นทางการ ของบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของชาวเติร์ก จัดขึ้น ณ 2 สถานที่นี้
ชาวตุรกีบางคนแสดงความรักต่อชายผู้นโดยไปเยี่ยมบ้านในเมืองเทสซาโลนิกิของกรีกซึ่งเขาเกิดในปี 2424 ซึ่งขณะนั้นเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิออตโตมัน
ชายผู้ยิ่งใหญ่คนนี้คือใคร ? ทำไมผู้คนในประเทศกว่า 80 ล้านคน ต่างยกให้เขาเป็น รัฐบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด ตั้งแต่มีการก่อตั้งสาธารณรัฐตุรกี ชาวเติร์กยกย่องให้เขาเป็น 1 ใน 7 วีรบุรุษ ตั้งแต่กลุ่มชาติพันธ์ุชาวเติร์ก
เคมาล อตาเติร์ก ใน 3 เครื่องแต่งกาย 1.เครื่องแบบพลทหาร ออตโตมาน(ภาพซ้าย) 2.เครื่องแบบทหารออตโตมานขณะที่เขาดำรงตำแหน่งผู้นำรัฐบาล Ankara(ภาพกลาง) 3.ชุดสูทเมื่อดำรงตำแหน่งประธานาธิปดีของรัฐบาลตุรกี(ภาพขวา) ภาพซ้ายและกลาง เคมาลสวมหมวก The fezเฟซ หรือ Tarboosh(ทาร์บูช) หมวกลักษณะเฉพาะที่ใช้กันแพร่หลายใน อณาจักรออตโตมาน โดยส่วนใหญ่จะใส่สีแดงเป็นหลัก ดำและขาวเป็นสีที่นิยมรองลงมา
วันนี้เล่าจะมาพูดคุยถึงชายที่ได้รับความนับถือ และมีชื่อเสียงเกรียงไกร การต่อสู้ การทำงาน ส่งผลให้ ผลงานของเขาเป็นที่ประจักษ์ ชาวตุรกี เรียกขาน "มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก" ว่า บิดาแห่งชาวเติร์ก **ต่อจากนี้ผมขะขอใช้ชื่อตามที่ ชาวเติร์กเรียกเขา ว่า 'เคมาล อตาเติร์ก'
ประวัติโดยละเอียด มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก มีทั่วไปในอินเตอร์เนต วันนี้ผมจะมาบรรยายถึง ชายธรรมดาคนนึง ที่ก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่และสง่างาม ผ่านเหตุการณ์สำคัญๆในช่วงเปลี่ยนถ่ายจากการล่มสลายของอณาจักรออตโตมันอันเกรียงไกร สู่ จุดเริ่มต้นสมัยใหม่ของการปกครองระบอบสาธารณรัฐประชาธิปไตย สาธารณรัฐตุรกี ที่ส่งผลแตกต่างจากยุคเก่าอย่างมากและยังส่งผลถึงปัจจุบัน
ชายทำธรรมดาคนนึง จากอาณาจักรออตโตมันอันประกอบด้วยคนหลายเชื้อชาติ กลายเป็นสาธารณรัฐตุรกี (ปัจจุบัน สหประชาชาติเปลี่ยนชื่อประเทศตุรกี (Turkey) เป็นตุรเคีย (Türkiye) แล้ว ตั้งแต่ 2 มิ.ย. 2022) พิ้นที่ที่มีชาวเติร์กเป็นหลัก ไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองและทันสมัยแบบประเทศทางตะวันตกจนกลายเป็นประเทศมุสลิมที่มีเสรีภาพมากที่สุด
พื้นที่ภายใต้การควบคุมของ จักรวรรดิออตโตมัน
ถ้าจะกล่าวถึง เคมาล อตาเติร์ก คงต้องปูพื้นไปเริ่มที่ จักรวรรดิออตโตมันเพราะในช่วงชีวิตของเขา เป็นช่วงที่อณาจักรออตโตมานได้ล่มสลายลง
ชาวเติร์กออตโตมัน เริ่มก่อตั้งเมืองแรกๆเมื่อราวปี ค.ศ 1299 แถบดินแดนรอยต่อระหว่างยุโรปและเอเชีย ที่เรียกว่า เอเชียกลางในปัจจุบัน เป็นชนเผ่าเรร่อน และเริ่มลงหลักสร้างตัวขยายอำนาจ จนสามารถก่อตั้งสร้างจักวรรดิออตโตมันได้สำเร็จ
เหตุการณ์สำคัญที่พลิกโฉมให้ชาวเตริก เข้ามามีอำนาจเต็มในดินแดนนี้คือ ทำลายหัวใจของอณาจักรโรมัน และเป็นจึดสิ้นสุด จักรวรรดิ์โรมันอันยิ่งใหญ่เมืองอิสตันบูล เดิมเป็นที่ตั้ง ของเมือง คอนสแตนติโนเปิล แห่งอณาจักร โรมันตะวันออก หรือ อีกชื่อหนี่งคือ จักรวรรดิไบแซนไทน์ กำแพงเมือง (Walls of Constantinople) ของจักรวรรดิไบแซนไทน์ หรือ โรมันตะวันออก ตั้งตระหง่านท้าทายผู้ต้องการพิชิต จากนั้นชาวเติร์กออตโตมันเริ่มก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่ในดินแดนแทบนี้
แต่ผู้ท้าทายก็ต้องพ่ายแพ้กลับไป ไม่มีใครสามมารถพิชิตกำแพงนี้ได้ เพราะการออกแบบที่แข็งแกร่ง Walls of Constantinople เป็นกำแพงหินที่ล้อมรอบ และปกป้องกรุงคอนสแตนติโนเปิล การก่อสร้างกำแพงเมืองคอนสแตนติโนเปิลเริ่มตั้งแต่การก่อตั้งเมืองหลวงใหม่ ของจักรวรรดิโรมันโดยคอนสแตนตินมหาราช ถือเป็นระบบป้อมปราการสุดท้าย ที่ยอดเยี่ยม และเป็นหนึ่งในระบบที่ซับซ้อนมากที่สุด เท่าที่เคยมีการสร้างป้อมปราการในสมัยโบราณ
ภาพกรุงคอนสแตนติโนเปิล ที่มีลักษณะยื่น เป็นแหลมลงทะเล ที่มีการวางแนว ป้อมปราการอย่างดี ทางด้านบนของภาพมี กำแพงและคูน้ำป้องกันหลายชั้นแน่นหนา
พวกออตโตมันที่นำโดยสุลต่านเมห์เหม็ดผู้พิชิต พิชิตพิชิตกรุงคอนสแตนติโนเปิลใน ค.ศ. 1453 ทำให้จักรวรรดิไบแซนไทน์สิ้นสุดลง เรื่องราวของพระองค์ถูกนำไปสร้างสารคดีทั้งหมด ตอนใน NETFLEX จนเป็น สุลต่านเมห์เหม็ด น่าจะเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากกว่านี้ เพราะความสามารถ ในกลยุท์ เลห์เหลี่ยมการทหาร ความเป็นผู้นำ และการหลอมปืนใหญ่ การเคลื่อนย้ายปืนใหญ่ในการประชิดเมือง
ทำให้ กษัติย์ และชาวเมืองส่วนใหญ่ไม่แทบได้ทันตั้งตัว รู้ตัวอีกทีก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบในการรบอย่างสูง จักรวรรดิออตโตมัน มีดินแดนภายใต้การควบคุม คุมพื้นที่ 3 ทวีป ยุโรปตะ, เอเชีย และแอฟริกา
จักรวรรดิออตโตมันเริ่มเสี่อมถอยอย่างช้า ๆ ตั้งแต่ ศตวรรษที่ 14 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 กว่า 600 ปีแห่งความรุ่งเรื่อง
ภาพแผนที่ จักรวรรดิไบแซนไทน์ ที่ถือว่าเป็นพื้นที่ที่จักวรรดิเคยขยายใหญ่สุด  ในปี คศ 555 ภายใต้การปกครองของจักรพรรดิยุสตินิอานุสมหาราช  หลังการล่มสลายของโรมันตะวันตก
จนกระทั่งล่มสลายหลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยอยู่ร่วมกับฝ่ายมหาอำนาจกลางแห่งจักรวรรดิเยอรมัน, จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี และราชอาณาจักรบัลแกเรียที่เป็น
คอนสแตนติโนเปิลได้รับการขนานนามใหม่เป็นภาษาตุรกีสมัยใหม่ว่า “อิสตันบูล” ในปี ค.ศ. 1930 ตามนโยบายปฏิรูปตุรกีของ "มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก"
เด็กชาย เคมาล เกิดขึ้นมาในช่วงเวลา ที่อ่อนไหว และในห้วงแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก เขาเกิดก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 จะเริ่มต้นขึ้นในอีก 33 ปี ปีที่เขาอายุ 33 การแสดงผลงานและความฉลาดของเขาก็ได้นำมาใช้อย่างเต็มความสามรถ ตลอดการใช้ชีวิตของเขาโลกได้ก้าวเข้าสู่ยุค มือ และ สว่าง และสถาณการณ์เหล่านี้ได้สร้างตัวตนของเขา และเขาก็สร้างตัวตนของตัวเอง
ใจกลาง ดินแดน Anatolia เขาสถาปานาเมือง Ankara และก่อตั้งรัฐสภา เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นการต่อสู้กับรัฐบาลใน กรุง อิสอิสตันบูล ที่เพิกเฉยต่อการบุกรุก คุกคามของกองทัพกรีซ มุสทาฟา เคมัล ยืดหยัดต่อสู้จนกองทัพกรีซถ่อยล่น เขาเป็นผู้นำทัพในการต่อสู้กว่า 1 ปี เพื่อปกป้องมาตุภูมิจากการรุกรานของต่างชาต และยังส่งผลให้ แผนของอังกฤษและฝรั่งเศส ที่หมายจะครอบครองอาณาจักรออตโตมันก็ล้มเลิก ไปแห่งยุครุ่งเรื่องใหม่ ของชาวตุรกี
ติดตามต่อ ในช่วงชีวิตที่ เด็กชาย เคมาล การดำเนินชีวิต การทำงาน การจัดการกับสถาณะการณ์ การตัดสิดใจ ความคิด และ แนวทาง ที่ทำให้เขาคนนี้ ถูกกลุ่มชาติพันธ์ุชาวเติร์กยกย่องในเป็น 1 ใน 7 ผู้นำสำคัญของชนเผ่า เติร์กประธานาธิบดี "มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก" ( Mustafa Kemal Atatürk)
จอมพล นักปฏิวัติ รัฐบุรุษ นักเขียนชาวตุรกี และเป็นบิดาผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐตุรกี
หลังจาก ราชา Khagan เริ่มเขียนประวัติศาสตร์ ข่าน Khagan ชนชาตินอกกำแพงด้านตะวันตกของจีนและเป็นราชาคนแรกของชาติพันธ์ุ เมื่อกว่า 2000 ปีที่แล้ว
เกร็ด **
1.( ปัจจุบัน สหประชาชาติเปลี่ยนชื่อประเทศตุรกี (Turkey) เป็นตุรเคีย (Türkiye) แล้ว ตั้งแต่ 2 มิ.ย. 2022 ตามคำขอของ ประธานาธิบดี เรเจป ทายยิป แอร์โดอัน เนื่องจากในภาษอังกฤษ Turkey มีความหมายว่า ไก่งวง ,"สิ่งที่ล้มเหลวอย่างรุนแรง" หรือ "คนเซ่อ,คนโง่" )
2.สุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 ผู้พิชิต กำแพงคอนสแตนติโนเปิล ที่เป็นป้อมปราการที่ไม่มีผู้ใดพิชิตได้ (ปัจจุบันคือเมืองอิสตันบูล) Ottoman Sultan Mehmed II มีสารคดีอัตถะชีวะประวัติ เรื่อง "Rise of Empires: Ottoman" ใน Netflix ,
หนัง "Fetih 1453" ปี2012 , "The Agony of Byzantium"
ปก สารคดีอัตถะชีวะประวัติของ สุลต่าน เมห์เหม็ด ที่ 2 ผู้พิชิตกรุงคอนสแตนติโนเปิล เรื่อง "Rise of Empires: Ottoman"
“There are two Mustafa Kemals. One the flesh-and-blood Mustafa Kemal who now stands before you and who will pass away. The other is you, all of you here who will go to the far corners of our land to spread the ideals which must be defended with your lives if necessary. I stand for the nation’s dreams, and my life’s work is to make them come true.”
-Mustafa Kemal Ataturk
Editor : Soulless
Credit. : militarhistoria.se / Replublic of TURKISH ministry of culture /britannica.com / .bbc.co.uk / myforevertravel.com / sarakadee
โฆษณา