3 ต.ค. 2022 เวลา 09:31 • ประวัติศาสตร์
การประหารด้วย "ปืนใหญ่" การประหารสุดโหดในสมัยโบราณ
1
ในอดีต วิธีการประหารชีวิตนั้นมีหลากหลายและอำมหิตกว่าปัจจุบัน
และ "การประหารด้วยปืนใหญ่" คือหนึ่งในวิธีการเหล่านั้น
1
"การประหารด้วยปืนใหญ่" เป็นวิธีการประหารที่ใช้กันมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ยาวมาจนถึงศตวรรษที่ 20 โดยวิธีการประหาร ก็คือมัดนักโทษไว้กับปากกระบอกปืนใหญ่ ก่อนจะทำการยิง
มีบันทึกถึงการประหารด้วยวิธีนี้ในสมัยศตวรรษที่ 19 ความว่า
"นักโทษถูกจับมัดกับปืน โดยส่วนหนึ่งของบริเวณหลังของเขาพิงไปกับปากกระบอก และเมื่อทำการยิง หัวของนักโทษก็พุ่งลอยไปบนอากาศสูงประมาณ 40-50 ฟุต แขนขาก็กระเด็นไปคนละทาง ส่วนร่างกายก็แหลกเป็นจุล ไม่เหลือแม้เศษซาก”
1
เชื่อกันว่าวิธีการประหารเช่นนี้มีต้นกำเนิดมาจากจักรวรรดิโมกุล ซึ่งจักรวรรดิโมกุลเคยใช้วิธีนี้ในการประหารเหล่านักโทษกบฏและอาชญากร
ในการปิดล้อมเมืองเมื่อปีค.ศ.1719 (พ.ศ.2262) แม่ทัพกองทัพโมกุลได้แก้ปัญหาทหารหนีทัพ ด้วยการนำตัวทหารที่หนีทัพจำนวนสี่นาย มาลงโทษด้วยการประหารด้วยปืนใหญ่ ซึ่งกระทำต่อหน้าทหารทั้งกองทัพ ทำให้ทหารหวาดกลัว ไม่กล้าหนีทัพ
ต่อมา โปรตุเกสก็นำวิธีการลงโทษนี้มาใช้กับชาวอาณานิคมในช่วงศตวรรษที่ 16 และ 17 และยังนำไปใช้กับโมซัมบิกและบราซิลอีกด้วย
หากแต่ชาติที่ดูจะใช้วิธีการประหารอย่างนี้อย่างแพร่หลาย ก็คืออังกฤษ
ในฐานะมหาอำนาจในอินเดีย อังกฤษได้ใช้วิธีนี้ในการลงโทษทหารพื้นเมืองที่ก่อจลาจลหรือหนีทัพ และการประหาร จะกระทำต่อหน้าทหารทั้งกองทัพ เพื่อทำให้ทหารหวาดกลัว
มีเรื่องเล่าว่าในปีค.ศ.1857 (พ.ศ.2400) ระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน เพียงแค่ไม่กี่เดือน ก็มีบันทึกว่าอังกฤษได้ทำการประหารในอินเดียไปแล้วกว่า 523 ราย และ 44 รายถูกประหารด้วยการถูกจับมัดกับปากกระบอกปืนใหญ่
การประหารเช่นนี้ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ส่วนที่อัฟกานิสถาน การประหารด้วยปืนใหญ่ยังคงมีมาจนถึงยุค 30 (พ.ศ.2473-2482)
นี่ก็เป็นการประหารที่เรียกได้ว่าโหดร้ายที่สุดวิธีการหนึ่งในสมัยโบราณ
โฆษณา