เส้นทางกว่าจะมาเป็นห้าง Walmart บริษัทซึ่งรายได้มากที่สุดในโลก
หลายคนคงจะรู้จักห้าง Walmart ห้างค้าปลีกรายใหญ่สัญชาติอเมริกา แต่จะมีสักกี่คนรู้ว่า พวกเขาเป็นบริษัทที่มีรายได้ (ก่อนหักต้นทุน) สูงที่สุดในโลกด้วย
โดยหลังจากขึ้นสู่ตำแหน่งบริษัทรายได้สูงสุดในโลกในปี 2001 Walmart ก็ไม่เคยลงไปอยู่ต่ำกว่าอันดับ 3 อีกเลยในการจัดอันดับนี้
โดยเริ่มแรก Walmart ถูกสร้างขึ้นมาโดยชายผู้มีชื่อว่า “Sam Walton” ในปี 1962 ที่เมือง Rogers รัฐ Arkansas
กลยุทธ์ที่ถูกนำมาใช้ในตอนแรก คือ การมุ่งเน้นทำการตลาดในพื้นที่เขตชนบทก่อน เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันกับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ในสมัยนั้นที่มีอยู่ก่อนแล้ว เช่น Sears และ Kmart ซึ่งกลยุทธ์นี้ก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงจนทำให้การขยายสาขาเรื่อยมา
จนในปี 1972 เพียงแค่ 10 ปีจากสาขาแรก Walmart ก็ได้ตัดสินใจขายหุ้นต่อสาธารณชนในตลาดหลักทรัพย์ New York ซึ่งก็เป็นเริ่มต้นของทศวรรษแห่งความรุ่งโรจน์ของบริษัท
เกิดศูนย์กระจายสินค้า และก็มีรูปแบบร้านค้าต่างๆ เพื่อเจาะกลุ่มตลาดลูกค้าใหม่ๆ ออกมาที่สำคัญ คือ Sam’s Club discount warehouse และ Wal-Mart Supercenter
และเพียงแค่ 18 ปีจากวันที่เปิดขายหุ้นแก่สาธารณชน ในปี 1990 Walmart ก็กลายเป็นผู้ค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดของอเมริกา เนื่องมาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ การให้ความสำคัญกับลูกค้า ความสามารถในการคุมต้นทุน และระบบขนส่งและโลจิสติกส์ชั้นเยี่ยม
และในปีต่อมานั่นเอง บริษัทก็ได้เริ่มขยายสาขาออกไปในต่างประเทศ โดยเริ่มปักหมุดไปที่เม็กซิโกก่อน และขยายไปต่อที่แคนาดา จีน เยอรมนี และอังกฤษ โดยใช้วิธีทั้งการไปตั้งสาขาเอง และการเข้าไปควบรวมกิจการที่มีอยู่ในประเทศเหล่านั้นแล้ว
แต่แล้วในปี 1992 บริษัทก็ต้องเจอกับสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อผู้นำที่มีความวิสัยทัศน์ก้าวไกลอย่าง Sam Walton ได้ถึงแก่กรรมไป ซึ่งก็ทำให้ยอดขายในปีนั้นตกลงไปทันที
แต่บริษัทก็ใช้เวลาฟื้นตัวไม่นาน เมื่อต่อมาในปี 1993 พวกเขาได้ออกแบรนด์สินค้าที่บริษัทเป็นเจ้าของเอง ใช้ชื่อว่า “Great Value” ซึ่งคราวนี้ก็ผลักดันบริษัทให้ไปได้ไกลกว่าเดิมเสียอีก
เริ่มจากในปี 1999 พวกเขากลายเป็นบริษัทของภาคเอกชนที่จ้างแรงงานมากที่สุดในโลก และก็ยังเป็นมาถึงปัจจุบัน
และในปี 2001 ก็เป็นครั้งแรกที่พวกเขาขึ้นมาเป็นบริษัทที่มีรายได้มากที่สุดในโลก แซงหน้าเจ้าของตำแหน่งเดิมอย่าง ExxonMobil บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก
ในช่วงตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา อินเทอร์เน็ตและธุรกิจรูปแบบ E-commerce เข้ามาส่งผลต่อวงการค้าปลีกมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นผลให้ทาง Walmart ก็ต้องปรับตัวเอง ผ่านการเข้าซื้อบริษัท ที่สำคัญ คือ การซื้อ Jet.com ในปี 2016 และ Moosejaw ในปี 2017
และในปัจจุบันพวกเขามีร้านค้าอยู่ในกว่า 28 ประเทศทั่วโลก รวมกว่า 11,523 สาขา และมีลูกค้าเข้าใช้ถึง 260 ล้านคนต่อสัปดาห์ และในปี 2021 ก็เป็นบริษัทที่มียอดขายมากที่สุดในโลกกว่า 570,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มากกว่ามูลค่า GDP ของประเทศไทยเสียอีก
📌 FYI
สามพี่น้องลูกของ Sam Walton ที่ยังมีชีวิตอยู่ ทั้ง Jim Walton, Rob Walton และ Alice Walton เป็นบุคคลซึ่งร่ำรวยอันดับ 16 17 18 ของโลกตามลำดับ อ้างอิงจาก Forbes
ผู้เขียน : ณัฐนันท์ รำเพย Economist, Bnomics
ภาพประกอบ : จินดาวรรณ อรรถมานะ Graphic Designer, Bnomics
▶️ ติดตามช่องทางของ Bnomics ได้ที่
Website : https://www.bnomics.co
Facebook : https://www.facebook.com/Bnomics.co
Blockdit : https://www.blockdit.com/bnomics
Line OA : @Bnomics https://bit.ly/3eYkTJC
Youtube : https://www.youtube.com/bnomics
Twitter : https://twitter.com/bnomics_co
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
References :
- 1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
