5 ต.ค. 2022 เวลา 12:00 • ไลฟ์สไตล์
รู้จักเทรนด์ “FatFIRE”เมื่อคนไม่อยากทำงานที่รักแต่อยากทำงานที่รวย
9
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยเห็นเทรนด์และนิยามการทำงานรูปแบบใหม่ๆ มากมาย ที่ต่างก็ได้รับการถกเถียงจนกลายเป็นกระแสไวรัลบนโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Job Hopper, Quiet Firing, หรือ Hybrid Working
3
แต่ท่ามกลางเทรนด์การทำงานทั้งหมดนั้น มี 2 เทรนด์ ที่เรียกว่าเรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนบนโลกออนไลน์ และมีเสียงตอบรับที่ดูจากกลุ่มคนรุ่นใหม่จำนวนมาก นั่นก็คือ วิธีการทำงานเก็บเงินแบบสุดโต่งเพื่อเกษียณตัวเองอย่างรวดเร็วและมีความสุขที่มีชื่อว่า “F.I.R.E.” และ วิธีการทำงานแบบเรียบง่าย ไม่ต้องพยายามทำงานหนัก เพียงแค่รับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองก็พอแล้วอย่าง “Quiet Quitting”
3
เทรนด์การทำงานทั้ง 2 อย่างนี้ เป็นการนิยามการทำงานที่แตกต่างกันอย่างสุดขั้ว โดยเทรนด์ F.I.R.E นั้นเป็นเทรนด์การทำงานที่ทุ่มเทให้กับการทำงานหารายได้ เพื่อปลดปล่อยตัวเองสู่อิสรภาพทางการเงินอย่างรวดเร็วโดยไม่สนถึง Work-Life Balnce หรือความสุขของตัวเองเลยแม้แต่น้อย สวนทางกับ Quiet Quitting ที่ต้องการหันมาให้ความสำคัญของ Work-Life Balance และความสุขในปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง
ด้วยเหตุนี้ จึงได้เกิดเทรนด์การทำงานแบบใหม่เกิดขึ้น ซึ่งเหมือนเป็นลูกผสมระหว่าง F.I.R.E. และ Quiet Quitting ที่เหมาะสำหรับคนที่ยังอยากทำงานอย่างมีความสุขในปัจจุบันแต่ก็ยังสามารถเกษียณตัวเองจากการทำงานแบบมีอิสรภาพทางการเงินตั้งแต่อายุยังน้อยอยู่เช่นเดียวกัน โดยเทรนด์การทำงานนี้ มีชื่อว่า “FatFIRE”
3
FatFIRE ไม่ต้องรักงานที่ทำ รวยให้เร็วก็พอ
3
คำว่า FatFIRE นั้นถูกประกอบจากคำ 2 คำด้วยกัน อย่างแรกก็คือ Fat ที่ไม่ได้แปลว่าอ้วน แต่มันหมายถึงเงินจำนวนมากที่เราต้องสะสมให้ได้ในการทำงาน ส่วนคำที่ 2 ก็คือ FIRE ซึ่งเป็นอักษรย่อมาจากคำว่า Financial Independence, Retire Early
หลักการแบบ FatFIRE นี้ กำลังเป็นแนวคิดที่ได้รับการสนใจอย่างหนักในหมวดหมู่ของพนักงานออฟฟิศระดับสูง หรือ “White Collar” โดยบนเว็บไซต์ Reddit รวมถึงมีสมาชิกใน Subreddit r/fatFIRE กว่า 325,000 คนเลยทีเดียว
2
Next Advisor บอกว่า เป้าหมายของคนที่ต้องการใช้ชีวิตตามหลักการ FatFIRE นั้นมีเป้าหมายของการมีอิสรภาพทางการเงินเพื่อเกษียณตัวเองให้ได้ภายในวัย 30-40 ปี เพียงแต่ว่าไม่จำเป็นต้องประหยัดมัธยัสถ์สุดโต่งเหมือนกับเทรนด์ F.I.R.E. เนื่องจากบางคนอาจจะยังมีภาระที่ต้องใช้เงินจำนวนมากอยู่อย่างเช่น การเลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัวหรือจ่ายค่าเล่าเรียนให้ลูก
4
ซึ่งแนวคิดแบบนี้ ทำให้หลักการ FatFIRE มีความทับซ้อนกับ Quiet Quitting เล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มคนที่ทำตามหลักแนวคิด FatFIRE นั้นบอกว่า ในเมื่อพวกเขาอยากที่จะเกษียณตัวเองโดยเร็ว แต่ไม่ได้ต้องการที่จะใช้ชีวิตแบบประหยัดอย่างบ้าคลั่ง
ทำให้พวกเขาคิดว่าการทำงานตาม Passion หรือทำงานในสิ่งที่ตัวเองรักนั้นไม่ใช่เรื่องจำเป็นอีกต่อไปอีกแล้ว พวกเขาสนใจเพียงแค่ว่าการงานอาชีพของพวกเขานั้นสามารถสร้างรายได้มากแค่ไหน ทั้งหมดก็เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้มีอิสรภาพทางการเงินและเกษียณตัวเองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้นั่นเอง
1
ต้องมีเงินเก็บเท่าไหร่ ถึงจะใช้ชีวิตตามเทรนด์ FatFIRE ได้
1
FatFIRE นั้นเหมือนกับ F.I.R.E. ปกติ เพียงแต่จำนวนเงินที่เราต้องเก็บให้ได้เพื่อเกษียณเร็วนั้นย่อมเยอะกว่ามาก เพราะFatFIRE จะยังคงทำให้เราสามารถมีไลฟ์สไตล์ที่หรูหราและมีค่าใช้จ่ายรายเดือนที่สูงอยู่ ซึ่งหลักการคำนวณของตัวเลข FatFIRE ของเราก็เหมือนกับ F.I.R.E ปกติเลย ก็คือ [รายจ่ายต่อปีแบบกินหรูอยู่สบาย x 25 = เป้าหมายการเก็บเงินของเรา] แปลว่าเราอาจจะใช้เวลานานกว่าถึงจะเกษียณได้
3
ดังนั้น การคำนวณตัวเลข FatFIRE ของแต่ละคนอาจจะมีความซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากว่าแต่ละคนมีนิยามของคำว่าหรูหราที่แตกต่างกัน แต่ถ้าใครยังไม่แน่ใจว่าต้องหาเงินได้เท่าไหร่ถึงจะพอล่ะก็ เป้าหมายส่วนใหญ่ของคนที่เข้ามาแลกเปลี่ยนพูดคุยกันใน Subreddit r/fatFIRE เห็นพ้องตรงกันว่า พวกเขาต้องการที่จะมีรายได้ประมาณ 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 4 ล้านบาทต่อปีเลยทีเดียว
1
ดังนั้น เมื่อลองมาคำนวณดู [4,000,000 x 25 = 100,000,000] เราต้องเก็บเงินให้ได้ทั้งหมดเป็นจำนวน 1 ร้อยล้านบาท เราถึงจะประสบความสำเร็จในหลักการ FatFIRE นั่นเอง จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคนส่วนใหญ่ที่ต้องการจะเก็บเงินแบบ FatFIRE ล้วนแต่มุ่งหาเส้นทางเข้าสู่การประกอบอาชีพที่มีค่าตอบแทนสูงอย่างการเป็น พนักงานบริษัทเทคโนโลยี พนักงานในบริษัทกฎหมาย หรือทำงานระดับสูงในวงการ Start-Up
3
แต่แค่ทำงานที่มีรายได้เยอะก็ยังไม่พอ เพราะถึงแม้พวกเขาจะทำอาชีพที่มีรายได้มากแค่ไหน เหล่าคนที่กำลังใช้ชีวิตตามวิถีของ FatFIRE บอกว่า “การลงทุน” นั้นคือสิ่งจำเป็นถ้าหากอยากจะเก็บเงินแบบ FatFIRE ให้สำเร็จ และต้องยอมรับว่าอาจจะต้องใช้เวลานานกว่าการเก็บเงินแบบ F.I.R.E ปกติพอสมควร
แต่มันก็ยังมีข้อดีก็คือระหว่างทางของการเก็บเงินนั้น เราก็ไม่จำเป็นต้องเก็บหอมรอมริบและเสียสละความสุขทางโลกไป ดังนั้น หากใครก็ตามที่รู้สึกว่าการเก็บเงินอย่างบ้าคลั่งแบบ F.I.R.E. ปกตินั้นมันทรมานเกินไปแต่ก็ยังอยากจะเกษียณเร็วอยู่ วิธีการแบบ FatFIRE นี้ก็อาจจะเป็นคำตอบก็เป็นได้
1
อย่างไรก็ตาม หนึ่งในโพสต์ที่ได้รับการโหวตสูงสุดบน Subreddit r/fatFIRE จากผู้ใช้ Snoo68013 นั้นกลับเป็นบอกว่า “ทานอาหารดีๆ สนุกกับความสัมพันธ์ ออกกำลังกายบ่อยๆ นอนหลับให้เพียงพอ โทรหาพ่อแม่บ่อยๆ ชีวิตมันก็แค่นี้แหละ ความโลภไม่มีที่สิ้นสุด พูดตามฉันนะ 'เวลาคือสกุลเงินของชีวิต เงินไม่ใช่สิ่งนั้น'”
17
พอมาคิดดูดีๆ ชีวิตมันอาจจะมีแค่นี้จริงๆ ก็ได้
ที่มา:
- If You Want to Retire Early but Don’t Want to Scrimp, ‘Fat FIRE’ Might Be for You : Nick Wolny, Financial Advisor - https://bit.ly/3E8GR9S
- Move Over Quiet Quitting, FatFIRE Is The Newest Viral Workplace Trend : Jack Kelly, Forbes - https://bit.ly/3dYFdgu
1
- There are 3 main types of early retirement, and the only difference is how much you spend : Tanza Loudenback, Businessinsider - https://bit.ly/3C4FNky
- What Is FatFIRE? The Workforce Trend Taking Over Reddit : Aayat Ali, Allwork - https://bit.ly/3rqlLfB
#missiontothemoon
#missiontothemoonpodcast
#worklife
#FatFIRE
#inspiration
#money
โฆษณา