5 ต.ค. 2022 เวลา 22:28 • สัตว์เลี้ยง
สัตว์เลี้ยงหมายเลขหนึ่ง:
ควีนอีลิซาเบธที่ 2 กับสุนัขคอร์กี้ของพระองค์
ในวันที่ 19 กันยายน 2022 ทั่วโลกต่างเฝ้าจับตามองไปที่ประเทศอังกฤษ ในวาระที่มีพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถอีลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร (ในที่นี้จะกล่าวถึงสั้น ๆ ว่าควีน) โดยในวันนั้นมีการอัญเชิญพระบรมศพของพระองค์ไปประกอบพิธีทางศาสนาและฝังพระบรมศพ ณ วิหารเซนต์จอร์จ พระราชวังวินด์เซอร์
ในขณะที่สายตาของคนส่วนใหญ่เฝ้าจับจ้องจับตามองกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 และพระราชินีคามิลล่า พร้อมด้วยสมาชิกในราชวงศ์วินเซอร์ (โดยเฉพาะครอบครัวของเจ้าชายแห่งเวลส์พระองค์ใหม่และคู่ของดยุกกับดัชเชสแห่งซัสเซ็กส์ผู้อื้อฉาว) ที่ต่างเสด็จมาร่วมพิธีนี้กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แต่บางสายตาให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงของควีน และพบว่าสิ่งมีชีวิตที่เป็นสุนัขสายพันธุ์คอร์กี้ตัวน้อย 2 ตัวมาร่วมอำลาอาลัยและส่งเสด็จพระบรมศพควีนอีลิซาเบธที่ 2 เป็นครั้งสุดท้าย
สัตว์เลี้ยงแสนรักของพระองค์ ได้แก่ มิวอิค (Muick ที่บางแหล่งข้อมูลระบุว่าอ่านออกเสียงว่า มิค) กับแซนดี้ (Sandy) สุนัขคอร์กี้ พร้อมกับเอ็มม่า (Emma) ม้าแคระสีดำ ที่ถูกผู้ดูแลนำมาส่งควีนเมื่อริ้วขบวนอัญเชิญพระบรมศพเดินทางมาถึงพระราชวังวินเซอร์เช่นกัน เพราะสำหรับควีน สุนัขทรงเลี้ยงเปรียบเสมือนหนึ่งในสมาชิกครอบครัวของพระองค์
(ที่มา: BBC)
• จุดเริ่มต้น
สายใยแห่งความรักและความผูกพันระหว่างควีนกับสุนัขพันธุ์คอร์กี้เริ่มต้นตั้งแต่ควีนยังทรงพระเยาว์เป็นเจ้าหญิงมีพระชนมายุได้ 7 ชันษา สุนัขพันธุ์คอร์กี้ได้เข้ามาในชีวิตของควีนครั้งแรกเมื่อปี 1933 เมื่อพระบิดาและพระมารดาของพระองค์ยังดำรงพระยศเป็นดยุกและดัชเชสแห่งยอร์กอยู่ทรงรับสุนัขคอร์กี้ตัวแรกมาเลี้ยง ชื่อว่า ดูกี้ (Dookie)
จริง ๆ แล้วชื่อของมันอย่างเป็นทางการคือ โรซาเวล โกลเดน อีเกิล (Rozavel Golden Eagle) แต่ที่ถูกเรียกว่าดูกี้เพราะว่าพนักงานในฟาร์มเพาะพันธุ์พอรู้ว่าเจ้าตัวนี้จะถูกท่านดยุกรับไปเลี้ยงจึงเรียกเล่น ๆ ว่าดูกี้ ชื่อนี้จึงติดปากมานับตั้งแต่บัดนั้น
ดูกี้ประพฤติตนไม่น่ารักแม้จะกลายเป็นสุนัขในวัง เพราะมันชอบกัดข้าราชบริพารและบรรดาแขกเหรื่อที่มาเยี่ยมเยือน แต่ภาพถ่ายเจ้าหญิงอีลิซาเบธตัวน้อยกับเจ้าวายร้ายตัวจ้อยกลายเป็นที่จับใจของสาธารณชน
สุนัขตัวต่อมาของครอบครัวดยุกแห่งยอร์กยังเป็นสายพันธุ์คอร์กี้ที่มาจากผู้เพาะพันธุ์เจ้าเดิม คอร์กี้ตัวที่สองนี้มีชื่อว่า เลดี้เจน (Lady Jane) และในช่วงคริสต์มาสปี 1936 ก็มีการตีพิมพ์หนังสือเด็กเกี่ยวกับเจ้าหญิงอีลิซาเบธและมาร์กาเร็ตสองศรีพี่น้องกับสัตว์เลี้ยงของครอบครัวชื่อว่า “Our Princesses and Their Dogs” ซึ่งไม่กี่วันต่อมาหลังจากหนังสือออกวางขายพระเชษฐาหรือพี่ชายของดยุกแห่งยอร์กก็สละราชสมบัติ ซึ่งพลิกชีวิตของครอบครัวนี้ไปโดยสิ้นเชิง
สุนัขคอร์กี้ตัวแรกของควีนมีชื่อว่า ซูซาน (Susan) ซึ่งได้รับพระราชทานมาจากคิงจอร์จที่ 6 พระราชบิดาของพระองค์เป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 18 พรรษาเมื่อปี 1944 ซึ่งซูซานทำให้เจ้าหญิงรัชทายาททรงมีภาพลักษณ์ดูอบอุ่น และเจ้าหญิงก็ทำให้สุนัขพันธุ์คอร์กี้ดูเท่และเก๋ และกลายเป็นสายพันธุ์ที่กลายเป็นที่นิยมเลี้ยงมากขึ้นหลังจากนั้น
ควีนกับซูซานตัวติดกันแทบแยกไม่ออก ซูซานติดตามควีนไปเกือบทุกที่ แม้กระทั่งช่วงเวลาที่ควีนเสด็จไปฮันนีมูนกับเจ้าชายฟิลิปพระองค์ก็นำซูซานไปด้วย
ครอบครัวอันอบอุ่นของควีนพร้อมด้วยสุนัขคอร์กี้ที่มีดูกี้และเลดี้เจนเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ ณ พระราชวังวินเซอร์ เมื่อปี 1936 (ที่มารูปที่ 1: Facebook, The Royal Family ที่มารูปที่ 2 และ 3: Lisa Sheridan/Studio Lisa/Getty Images)
• นักเพาะพันธุ์คอร์กี้
ควีนทรงตระหนักในการสืบสายราชวงศ์วินเซอร์เช่นเดียวกับการรักษาสายพันธุ์ซูซานสุนัขอันเป็นที่รักของพระองค์ให้คงอยู่ต่อ ด้วยเหตุนี้ ควีนจึงติดต่อให้นักเพาะพันธุ์สุนัขให้กับครอบครัวของพระองค์เจ้าเดิมให้หาคู่ให้ซูซาน
คู่ของซูซานมีชื่อว่าโรซาเวล ลัคกี้ สไตร์ค (Rozavel Lucky Strike) โดยหลังจากที่ควีนเสด็จกลับจากฮันนีมูน ซูซานก็ออกลูกมาคู่หนึ่งเมื่อปี 1949 ชื่อว่า “น้ำตาล” กับ “น้ำผึ้ง” หรือชูการ์กับฮันนี และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเพาะพันธุ์สุนัขคอร์กี้ของควีนเรื่อยมาถึง 14 รุ่น
ตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ในช่วงระยะเวลา 70 ปี ประมาณการณ์ว่าควีนทรงมีสุนัขทรงเลี้ยงพันธุ์คอร์กี้มากกว่า 30 ตัว โดยควีนทรงเพาะพันธุ์คอร์กี้มาถึง 14 รุ่น ตลอดระยะเวลานี้ควีนไม่เคยขายลูกสุนัขตัวใดที่พระองค์ทรงเพาะพันธุ์เอง ทุกตัวอยู่กับพระองค์ยกเว้นบางตัวที่ทรงยกให้กับคนที่เพาะพันธุ์ให้พระองค์บ้าง พระญาติบ้าง หรือไม่ก็พระสหาย
นอกจากคอร์กี้ ควีนยังทรงเพาะพันธุ์สุนัขพันธุ์ดอร์กี้ (คอร์กี้ผสมดัตชุนด์)โดยบังเอิญด้วย เพราะเจ้าหญิงมาร์กาเร็ตทรงมีสุนัขทรงเลี้ยงพันธุ์ดัตชุนด์ชื่อว่าพิพกิ้น (Pipkin) ซึ่งแอบลักลอบได้เสียกับคอร์กี้ของควีนชื่อว่าไทนี่ (Tiny) ซึ่งผลลัพธ์กลับเป็นที่ชื่นชอบของสองพระองค์ จึงทรงให้สุนัขสองสายพันธุ์นี้ผสมกันต่อไป จึงมีผลผลิตเป็นสุนัขดอร์กี้ร่วม 10 ตัวในระยะหลายปีต่อมา
ลูกหลานที่สืบเชื้อสายมาจากซูซานที่เป็นที่รู้จักกันดีคือสุนัขคอร์กี้ 3 ตัวที่ปรากฏตัวร่วมกับควีนในคราวพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกที่ลอนดอนในปี 2012 ที่แสดงร่วมกับเดเนียล เครก (Daniel Craig) ดาราผู้แสดงบทบาทเป็นเจมส์ บอนด์ (James Bond)
ในแต่ละคราว ควีนจะทรงเลี้ยงคอร์กี้ไว้ประมาณ 8-9 ตัว มีข้อมูลระบุว่าช่วงปี 1933-2018 ควีนจะมีคอร์กี้อย่างน้อย 1 ตัว (ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมีมากกว่านั้นมาก) พวกมันจะตามควีนไปทุกที่ไม่ว่าพระองค์จะเสด็จแปรพระราชฐานไปประทับที่ไหน พวกมันขึ้นรถ(ลีมูซีน) ขึ้นรถไฟ ขึ้นเครื่องบิน ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ตามพระองค์ไปทุกหนทุกแห่ง
เจ้าชายฟิลิป ผู้ทรงไม่เคยมีอารมณ์ร่วมในการโปรดการเพาะพันธุ์สุนัขคอร์กี้ร่วมกับควีน มักจะได้ยินพระองค์ทรงบ่นและสบถว่า “ไอ้หมาบ้า ทำไมเธอถึงจำเป็นต้องมีมากมายขนาดนี้นะ”
ควีนอีลิซาเบธที่ 2 และซูซาน, สุสานฝังซูซาน, และผังเชื้อสายซูซาน (ที่มา: GETTY IMAGE, BBC)
• สัตว์เลี้ยงหมายเลขหนึ่งขององค์ราชินี
สาเหตุที่ควีนทรงโปรดสุนัขสายพันธุ์คอร์กี้มากกว่าพันธุ์อื่น ๆ เพราะพลังงานบวกกับนิสัยแสนซนของพวกมัน อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงถึงพระบิดาของควีน
สุนัขคอร์กี้ของควีนจะมีห้องนอนของตัวเอง และกินอาหารที่ปรุงโดยพ่อครัวส่วนตัวของพวกมัน ที่พระราชวังบักกิงแฮมที่มีห้องจำนวนมากถึง 775 ห้อง แต่ควีนจะให้คอร์กี้ของพระองค์นอนอยู่ในส่วนห้องชุดส่วนพระองค์ของควีน แต่ละตัวจะมีตระกร้าไม้ที่ปูด้วยที่นอนอันหนานุ่มเป็นของตัวเองเพื่อกันความหนาวเย็น และเปลี่ยนผ้าปูที่นอนทุกวัน
ในช่วงคริสต์มาสทุก ๆ ปีควีนจะทรงมีธรรมเนียมเสด็จไปประทับที่พระราชวังซานดริงแฮมในมณฑลนอร์ฟอล์ก คอร์กี้แต่ละตัวจะมีถุงเท้าซานต้าคลอสเป็นของตัวเอง โดยที่ควีนทรงนำของขวัญไปใส่ไว้ให้ด้วยพระองค์เอง
คอร์กี้ทรงเลี้ยงมีอภิสิทธิ์มากกว่าเจ้าชายฟิลิปพระสวามีของควีนเสียอีก ในขณะที่เจ้าชายฟิลิปจะต้องทำตามกฎมณเฑียรบาลในการเดินอยู่ข้างหลังควีนอย่างน้อยหนึ่งก้าวตลอดพระชนม์ชีพ แต่เหล่าบรรดาคอร์กี้ทรงเลี้ยงต่างวิ่งหรือเดินนำหน้าควีนอยู่เสมอ
ไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงเรียกฝูงคอร์กี้ที่วิ่งนำหน้าควีนอย่างสับสนอลหม่านว่า “พรมเคลื่อนที่” แต่ควีนจะเรียกคอร์กี้ของพระองค์อย่างแสนรักว่า "the girls-ลูกหญิง" และ "the boys-ลูกชาย" หรือถ้าแปลเป็นภาษาบ้าน ๆ คือ “อีหนู” กับ “ไอ้หนู”
แท้จริงแล้วควีนทรงเป็นบุคคลที่ค่อนข้างขี้อายพระองค์หนึ่ง แต่ด้วยหน้าที่ในฐานะราชินีพระองค์จะต้องตรัสกับคนแปลกหน้าด้วยความสง่างามและความมั่นใจ พระองค์ทรงใช้สุนัขคอร์กี้เป็นตัวช่วยให้พระองค์คลายความอึดอัดหรือลำบากใจ แม้กระทั่งกับพระญาติที่ใกล้ชิดของพระองค์เอง ซึ่งสมาชิกในราชวงศ์เรียกสิ่งนี้ว่าเป็น กลไกการป้องกันโดยหมา (the dog mechanism) เช่นถ้าเกิดสถานการณ์ที่ยากลำบากเกินไปควีนก็จะเดินออกไปจากสถานการณ์นี้จริง ๆ ด้วยการพาสุนัขของพระองค์เดินออกไปข้างนอก
เจ้าชายแอนดรูว์มีประสบการณ์กับกลไกนี้ด้วยพระองค์เองโดยตรง กล่าวกันว่าพระองค์ต้องใช้เวลาถึง 3 อาทิตย์กว่าที่จะฝ่าฝูงคอร์กี้เพื่อไปแจ้งพระมารดาว่าเจ้าชายกำลังประสบปัญหาในชีวิตการแต่งงานกับซาร่า เฟอร์กูสัน
ในอีกด้านหนึ่ง ควีนทรงใช้สุนัขของพระองค์เพื่อให้คนอื่นสบายใจด้วยเช่นกัน ศัลยแพทย์ผู้หนึ่งซึ่งเดินทางกลับมาจากเมืองอเลปโปในซีเรียที่ถูกสงครามทำลายจนพินาศ และพบว่าตัวเองได้รับผลกระทบจนพูดไม่ได้เพราะมีอาการ PTSD หรือประสบภาวะป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง เขาได้รับเชิญให้ร่วมรับประทานมื้อเที่ยงกับควีนที่พระราชวังบักกิงแฮม
ควีนทรงสัมผัสได้ถึงบางสิ่งที่ผิดปกติ พระองค์จึงตรัสว่า “ฉันช่วยอะไรคุณบ้างได้ไหม” แล้วก็ทรงเรียกคอร์กี้ของพระองค์มา ข้าราชบริพารในพระองค์นำคอร์กี้มายังโต๊ะรับประทานอาหารและพวกมันพากันไปอยู่ใต้โต๊ะ ควีนทรงเปิดกระป๋องขนมบิสกิตให้เขาป้อนสุนัขร่วมกับพระองค์ราว 20 นาที โดยควีนทรงใช้สุนัขช่วยให้เขาผ่านการรับประทานมื้อเที่ยงนั้นไปได้
1
คอร์กี้ของควีนทำหน้าที่ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองร่วมกับควีนอยู่เสมอ และในบางครั้งที่บทสนทนาไปต่อไม่ได้ การพูดคุยเรื่องประเด็นเรื่องสุนัขจะกลายเป็นสิ่งทำลายความเงียบได้ ซึ่งในบางครั้งบางคราคอร์กี้แสนดื้อเหล่านี้ก็ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองและสมาชิกในราชวงศ์ด้วยการงับเข้าให้
คอร์กี้ยังหมายถึงช่วงเวลาที่เป็นอิสระและไร้กังวลของควีน ในแต่ละวันควีนทรงโปรดการพาสุนัขออกไปเดินเล่นเป็นประจำสม่ำเสมอ (นอกเหนือไปจากการทรงม้า) หรือไม่ก็ทรงพาฝูงคอร์กี้ของพระองค์ไปขับรถเล่น ยกเว้นพอเมื่อพระองค์ทรงชรามากขึ้นและมีปัญหาเรื่องการเคลื่อนไหวในช่วงเดือนท้าย ๆ ของพระชนม์ชีพ
ควีนอีลิซาเบธพร้อมด้วยสุนัขคอร์กี้ของพระองค์ในวาระต่าง ๆ (ที่มา: AP, AFP, TNS)
• การจากลา
เมื่อควีนทรงพระชันษาทรงมากขึ้น พระองค์ทรงหยุดเพาะพันธุ์สุนัขคอร์กี้ เพราะพระองค์ไม่ทรงโปรดจะทิ้งพวกมันตัวไหนไว้ข้างหลังหากพระองค์สิ้นพระชนม์ ดังนั้นหลังจากสุนัขคอร์กี้ที่ควีนเพาะพันธุ์เป็นรุ่นสุดท้ายที่ชื่อฮอลลี (Holly) กับวิลโลว์ (Willow) เกิดมา ควีนก็ทรงยุติการเพาะสุนัขคอร์กี้ไปในที่สุด
แต่ในบางกรณีเมื่อบุคคลอันเป็นที่รักของควีนเสียชีวิตไป พระองค์จะทรงรับสุนัขของคนเหล่านั้นมาเลี้ยง เช่น เมื่อควีนมัมพระมารดาของควีนสิ้นพระชนม์ควีนก็ทรงรับคอร์กี้ 3 ตัวของควีนมัมมาอุปการะต่อในปี 2002 มีเรื่องเล่าว่าเมื่อตอนควีนมัมสิ้นพระชนม์และควีนเสด็จไปทอดพระเนตรร่างของพระมารดา ควีนทรงนำคอร์กี้ของควีนมัมกลับไปด้วยพระองค์เอง
หรือในคราวที่อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลอุทยานที่เขตพระราชวังวินเซอร์เสียชีวิต และภรรยาของเขาจัดว่าเป็นพระสหายรักของควีนที่ช่วยพระองค์เพาะคอร์กี้มายาวนานนับ 50 ปี พระองค์ก็ทรงรับสุนัขของเขาที่ชื่อวิสเปอร์ (Whisper) มาเลี้ยงให้
วิลโลว์สุนัขตัวสุดท้ายที่ควีนเพาะพันธุ์ตายไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อปี 2018 และต่อมาวิสเปอร์สุนัขของข้าราชบริพารของพระองค์ที่ทรงรับมาเลี้ยงก็ตายไปในปีเดียวกัน สุนัขทุกตัวของควีนเมื่อตายลงจะถูกฝังแต่มีแท่นจารึกของแต่ละตัวไว้ เช่น เมื่อซูซานตายมันถูกฝังไว้ที่สุสานสำหรับสุนัขทรงเลี้ยงโดยเฉพาะที่ซานดริงแฮม ซึ่งมีแท่นหินจารึกสลักไว้ด้วย ผู้ริเริ่มสุสานสุนัขในที่แห่งนี้คือควีนวิกตอเรีย
แต่เมื่อเจ้าชายฟิลิปพระสวามีควีนสิ้นพระชนม์ เจ้าชายแอนดรูว์ดยุกแห่งยอร์ก พระโอรสของควีนจึงนำมิวอิคกับแซนดี้มามอบให้เป็นเพื่อนปลอบประโลมพระทัยให้อยู่กับควีนในปี 2021 (บางแหล่งข้อมูลระบุรายละเอียดว่าเจ้าชายแอนดรูว์มอบมิวอิคให้แก่ควีนเพื่อให้เป็นเพื่อนพระองค์ในช่วงโควิด ส่วนแซนดี้เป็นของขวัญวันเกิดครบรอบ 95 พรรษาที่เจ้าชายแอนดรูว์และพระธิดาทั้งสองมอบให้)
เมื่อโรคโควิดระบาด ควีนทรงเสด็จแปรพระราชฐานไปประทับที่พระราชวังวินเซอร์พร้อมสุนัขคอร์กี้ของพระองค์ นอกจากนี้ ควีนยังทรงมีสุนัขค็อกเกอร์สแปเนียลชื่อว่าลิซซี่ (Lissy) และสุนัขดอร์กี้ที่ชื่อว่าแคนดี้ (Candy) อีกตัวด้วย
ในวันที่ 8 กันยายน เมื่อควีนสิ้นพระชนม์ที่พระราชวังบัลมอรัล มิวอิคกับแซนดี้อยู่เคียงข้างควีนในห้วงวาระสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพนี้ด้วย คนฝึกสุนัขประจำพระองค์ของควีนให้สัมภาษณ์ว่าสุนัขของพระองค์สามารถรับรู้ว่าสุขภาพของควีนนั้นแย่ลง และรู้ว่าควีนกำลังจะสิ้นพระชนม์
มีรายงานข่าวว่าเจ้าชายแอนดรูว์กับซาร่า เฟอร์กูสัน อดีตพระชายาที่หย่ากันแล้วแต่ยังประทับอยู่ร่วมชายคาเดียวกันจะเป็นผู้รับมิวอิคกับแซนดี้ไปดูแลต่อ กล่าวกันว่าในช่วงที่ควีนเสด็จไปประทับที่พระราชวังวินเซอร์ พระองค์จะทรงนำสุนัขไปเดินเล่นกับซาร่าอยู่บ่อย ๆ ส่วนในรายแคนดี้กับลิซซี่นั้นยังไม่ปรากฏข้อมูลว่าใครจะเป็นผู้นำไปดูแลต่อ
มีคำถามว่าคิงชาร์ลส์ที่ 3 ทรงโปรดคอร์กี้ดังเช่นพระมารดาหรือไม่ คำตอบคือไม่ พระองค์ทรงโปรดสุนัขลาบราดอร์มากกว่า และทรงเลี้ยงสุนัขพันธุ์แจ็ครัสเซลล์เทอร์เรียมาอย่างยาวนาน
และแม้ควีนอีลิซาเบธที่ 2 จะทรงสิ้นพระชนม์ไปแล้ว แต่ภาพจำของสุนัขคอร์กี้จะผูกติดกับพระองค์ตลอดไปในฐานะ “สุนัขของพระราชินี”
มิวอิคกับแซนดี้ สุนัขคอร์กี้ มารอส่งพระบรมศพของควีนอีลิซาเบธที่พระราชวังวินเซอร์ (ที่มา: Reuters)
อ้างอิง:

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา