6 ต.ค. 2022 เวลา 00:21 • ความคิดเห็น
เมื่อเรารู้ว่า เพื่อนมีนิสัยแบบนั้น เราไปแก้ไขนิสัยเวรกรรมของเค้าไม่ได้ เมื่อเค้ามีคำพูด กระแนะกระแหน พูดแซะ ซ้ำซาก เราก็อย่าหันไปมองดูเค้า อย่าหันไปประจันหน้าเค้า เอียงตัวหลบ กระแสลมปากเค้า อย่าเอาตาเราไปมอง หูเรามันหลบเสียงไม่ได้ เราก็ต้องระมัดระวัง วิญญาณหูของเรา เราก็ทำจิตทำใจไปหาพระ นึกถึงจิตเราอาศัยอยู่ในเรือนกายพ่อแม่ จิตเรามีพระเป็นที่พึ่ง เราก็บอกตัวเอง ..
บอกจิตของเรา อย่าไปยึดถืออารมณ์คำพูดเค้า เพราะนั้นเป็นนิสัยของเค้า กำลังแสดงให้เราดู เราต้องตั้งสติ..อย่าไปเห็นเค้าไม่ดี หรือ ไม่พอใจเค้า เพราะถ้าจิตเราไปหวั่นไหว ไปยึดถือคำพูดเค้่า (เพราะอารมณ์ที่ตัวเราให้เราหลงว่าเราดี มีดี แล้วแกมาว่าเราทำไม่ เราไม่ยอม..ยอมไม่ได้
1
นั้นแหละเค้าเรียกว่า ตัวทิฐิเกิดที่เราแล้ว เมื่อเราควบคุมไม่ได้ขาดสติ รู้ไม่เท่าทันอารมณ์ที่เค้าส่งมาให้ด้วยคำพูดของเค้า ..อารมณ์โกรธโมโหหงุดหงิด จะแทรกเข้ามาที่จิตเรา) แล้วเราไม่ตั้งสติ ไม่ทำจิตทำใจ รักษาจิตของเรา กายของเรา เพราะเวลาเจอะเจอ คำพูดเค้ากายเราย่อมสั่นสะท้าน ด้วยอารมณ์เค้าพูดเค้า..
ที่สำคัญเราอย่าไปกลัว หวาดผวาจนเกินเหตุ เมื่อต้องเจอะเจอ คำพูดเค้า เราก็ทำใจเฉยๆ กายมันสั่นไหวบ้าง..มันเป็นเรื่องปกติ ที่สำคัญเราอาศัยจิตเรา สติเราประคับประคองกาย ประคับประคองอารมณ์ของเรา ..อย่าไปยึดไปถืออารมณ์เค้า
..บางครั้งเราไปเดินเล่น เจอสนุขมันเห่าใส่เรา เราเพียงแค่หยุด แล้วก็เดินผ่านไป ตินหมามันเห่าก็อาจตกใจบ้าง พอเรามีสติเราก็พากายเราเดินผ่านไปได้ แล้วก็ไม่ได้เอาเสียงหมาเห่าหอนมาคิดนึกอะไร ..เราก็ลองเปรียบเทียบดู ..คนเรานั้นพอจิตใจมันตก…ตกต่ำลงไปเรื่อยๆ ..นิสัย..อะไรที่มนุษย์ควรใช้กันดีๆ มันก็สูญ เค้าเรียกว่าจิต..กำลังลงไปเส้นทางอบายภูมิ จิตไปเดินทางตามเยี่ยงอย่างของสัตว์ไป. ถ้าไม่แก้ไข ..จิตใจมันก็มีแต่เร่าร้อน หาเรื่องราวที่ใช้กิริยาดี คำพูดดีมาใช้ไม่ได้เลย ต้องเป็นนางมารร้าย อันธพาลแน่นอน
จะรับมือ ก็ด้วยสติสัมปชัญญะของเรา ..หลบหลีกอารมณ์เค้า ..อย่าไปยึดคำพูดเค้า อย่าไปคิดเล็กคิดน้อย หวั่นไหวไปตามลมปากเค้า เราก็มีไหวพริบรู้จักตัวเราเองดียิ่งกว่าเค้า ..ทำไมจะต้องไปสนใจคำพูดเค้ากิริยาของ ที่ทำไม่ดี.. เค้าทำไม่ดีเราก็เฉย..แค่ลมปาก..เค้าจะไปหวั่นไหวทำไม..เนี่ยแค่ลมปากจะแพ้แล้วหรือ ถ้าออกศึกสงคราม..มันจะขนาดไหนกัน สงครามนั้น ก็ไม่ใช่ที่ไหน สงครามอารมณ์..ในกายเรา ที่จิตเราต้องปราบอารมณ์พยศในกายให้สงบ ใจเราก็เป็นสุข
เมื่อเราไปเจอะเจอ เรื่องราวทำนองนี้ เราก็หันมาดู..ตัวเราว่าเราเคยใช้คำพูดแบบนี้กับใคร ..เราสำรวจตรวจสอบตัวเราเอง ..แล้วเราก็พิจารณาเหตุและผลขึ้น หากเราเคยใช้ ..มันก็คงทำให้คนนั้นคนนี้ เค้าทุกข์เหมือนกับเราที่เจอะเจออยู่ เราเห็นว่าไม่ดี ..เราก็ไม่ใช้ ..คำพูดแบบนั้นกับใคร เราก็นำเอามาสอนตัวเราเอง ..ขอเราอย่าเป็นแบบเค้าเลย ที่สร้างวาจาที่เป็นกรรมเกิดขึ้นโดยความไม่รู้ของเค้าเอง ว่านั่นคือ วาจาที่เป็นกรรม
โฆษณา