วัคซีน mRNA ของจีนใกล้เสร็จหรือยัง?
Blockdit Originals โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร
เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า วัคซีนโควิดทุกชนิดที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลกมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ แต่วัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าชนิดอื่นๆ คือวัคซีน mRNA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ไม่เคยใช้มาก่อนหน้านี้
ในปัจจุบัน วัคซีน mRNA ของบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นาได้มีการใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก ยกเว้นประเทศจีนประเทศเดียวที่ยังคงใช้วัคซีนเชื้อตายของตนเองเป็นหลักอยู่
หลายคนอยากรู้ว่า วัคซีน mRNA ของจีนใกล้เสร็จหรือยัง และจะช่วยเปลี่ยนเกมซีโร่โควิดของจีนได้หรือไม่
คำตอบของคำถามแรกก็คือ วัคซีน mRNA ของจีนชื่อ AWcorna ที่ผลิตโดยความร่วมมือระหว่างบริษัท Walvax Biotechnology บริษัท Suzhou Abogen Biosciences และหน่วยวิทยาศาสตร์ของกองทัพจีน เพิ่งได้รับการอนุมัติให้ใช้ที่อินโดนีเซียเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่าการคิดค้นและพัฒนาวัคซีน mRNA ของจีนประสบอุปสรรคทำให้ล่าช้ากว่าที่คาดไว้มาก อุปสรรคสำคัญเป็นเรื่องทางเทคนิค กล่าวคือ เทคโนโลยี lipid nanoparticle (LNP) ที่เป็นกลไกสำคัญของวัคซีน mRNA ของไฟเซอร์และโมเดอร์นานั้น บริษัทตะวันตกเป็นเจ้าของสิทธิบัตรและไม่ถ่ายทอดเทคโนโลยีนี้ให้จีน ทำให้บริษัทจีนต้องพยายามพัฒนาเทคโนโลยีทางเลือกมาทดแทน
อีกอุปสรรคทางเทคนิคที่มีรายงาน คือ วัตถุดิบหรือสารสำคัญบางตัวที่ต้องใช้ในการผลิตวัคซีน mRNA นั้น ภายในจีนยังขาดแคลน ทำให้เป็นปัญหาในการผลิตวัคซีนให้ได้ปริมาณมากเพื่อรองรับจำนวนประชากรมหาศาลของจีน
นอกจากนั้น ยังมีเรื่องอุปสรรคในการทดลองทางคลินิกในสถานการณ์ที่จีนไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด รวมทั้งในสถานการณ์ที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนเชื้อตายไปก่อนหน้านี้แล้ว การทดลองจึงมุ่งเน้นที่การใช้วัคซีน mRNA เป็นเข็มกระตุ้นและจำเป็นต้องไปทดลองประสิทธิภาพในต่างประเทศที่มีการระบาดของเชื้อในชุมชน
นี่ยังไม่นับเรื่องการกลายพันธุ์อย่างรวดเร็วของเชื้อที่ทำให้การพัฒนาวัคซีนเป็นเกมไล่ตามเชื้อที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
แต่สุดท้ายจีนก็ทำออกมาได้สำเร็จ แต่คำถามที่ตามมามีมากมาย เพราะเหตุใดจึงไปอนุมัติที่อินโดนีเซียเป็นแห่งแรก ขณะที่ยังไม่อนุมัติให้ใช้ที่จีน แล้วที่จีนจะอนุมัติให้ใช้ได้เมื่อไหร่ และจะเป็นตัวปิดเกมซีโร่โควิดของจีนได้หรือไม่
วัคซีน mRNA ของจีนได้รับการอนุมัติแห่งแรกที่อินโดนีเซีย ไม่ใช่เรื่องแปลก ก่อนหน้านี้ วัคซีนเชื้อตายของซิโนฟาร์มก็ผ่านการอนุมัติครั้งแรกที่ต่างประเทศคือ UAE และบาร์เรนก่อนที่จะได้รับการอนุมัติในจีนเช่นกัน ส่วนที่รอบนี้เป็นอินโดนีเซียนั้น
เพราะผู้พัฒนาวัคซีนของจีนมีความร่วมมือกับรัฐบาลอินโดนีเซียในการสร้างโรงงานผลิตวัคซีน mRNA ขึ้นที่นั่น เพื่อช่วยรองรับประชากรมหาศาลของอินโดนีเซีย ซึ่งไม่สามารถพึ่งพาการนำเข้าวัคซีนจากตะวันตกเพียงอย่างเดียวได้
หลายคนมองว่า ก่อนการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์กลางเดือนตุลาคม จีนคงยังไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงนโยบายซีโร่โควิดที่เคร่งครัดในปัจจุบัน ซึ่งอาศัยการตรวจเชื้อทั้งเมืองอย่างเข้มข้น และการล็อคดาวน์เมื่อพบผู้ติดเชื้อ ดังนั้นจึงยังไม่มีการรับรองวัคซีนใหม่ในขณะนี้
เพราะการระดมฉีดวัคซีน mRNA เป็นเข็มกระตุ้นให้คลอบคลุมประชากรจีนอาจยังต้องใช้ระยะเวลาหนึ่ง แล้วจึงจะค่อยๆ ผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ได้ มีหลายคนคาดหวังว่า จีนอาจเริ่มประชาสัมพันธ์และระดมการฉีดวัคซีน mRNA เป็นเข็มกระตุ้นให้กับประชาชนภายหลังการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ช่วงกลางเดือนผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว
และอาจต้องรอจนการฉีดวัคซีนคลอบคลุมประชากรถึงระดับหนึ่งก่อน จึงจะสามารถกลับทิศทางนโยบายซีโร่โควิด เปลี่ยนมาใช้มาตรการที่ผ่อยคลายขึ้นได้
ก่อนหน้านี้ หลายคนสงสัยว่าเหตุใดจีนจึงไม่อนุมัติการใช้วัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นา มีทั้งผู้ที่ตั้งข้อสังเกตว่า บริษัท Fosun ซึ่งได้สิทธิการผลิตวัคซีนไฟเซอร์ในจีน ยังคงต้องพึ่งพาวัตถุดิบการผลิตจากต่างประเทศ ซึ่งน่าจะทำให้รัฐบาลจีนกังวลเรื่องความมั่นคงและการพึ่งพาต่างชาติ
ในขณะเดียวกัน ก็เพิ่งมีข่าวออกมาจากทางโมเดอร์นาว่าไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลจีนได้ เพราะรัฐบาลจีนต้องการให้การถ่ายโอนเทคโนโลยีเป็นเงื่อนไขสำคัญที่จะเข้าสู่ตลาดจีน
แต่นักวิเคราะห์ไม่น้อยมองว่า เผลอๆ เหตุผลสำคัญที่สุดอาจเป็นเรื่องชาตินิยมที่ไม่ต้องการให้เกิดภาพว่าสุดท้ายจีนก็ต้องหันไปใช้วัคซีนฝรั่ง หรือตัวจีนยังไม่สามารถทำวัคซีน mRNA ได้เอง ซึ่งเมื่อบัดนี้ จีนมีวัคซีน mRNA ของตนแล้ว ก็น่าจะกรุยทางให้มีการอนุมัติให้ใช้อย่างแพร่หลายในจีน
และค่อยๆ นำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการของรัฐบาลภายหลังฉีดวัคซีนเข้มกระตุ้นให้ประชากรส่วนใหญ่ของจีนที่ได้รับวัคซีนเชื้อตายไปแล้ว 2 เข็ม
แต่ทั้งหมดนี้ก็ยังมีหลายปัจจัยที่ไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการผลิต หากวัตถุดิบส่วนหนึ่งเป็นปัญหาว่าต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ผู้ผลิตจีนแก้ปัญหาคอขวดตรงนี้ได้แล้วหรือไม่ นอกจากนั้น จากเดิมที่วงการแพทย์จีนมีไม่น้อยที่มองว่าวัคซีน mRNA เป็นเทคโนโลยีใหม่
จึงควรใช้อย่างระมัดระวังและรอดูผลระยะยาวจากการใช้ในต่างประเทศก่อน สุดท้ายจะมีการเปลี่ยนแปลงแนวคิดนี้หรือไม่
และประชาชนจะเชื่อมั่นในวัคซีนชนิดใหม่หรือไม่ ท่ามกลางรายงานผลทดลองพบว่าผู้ฉีด mRNA เป็นเข็มกระตุ้นจะมีอาการไข้ในอัตราที่สูงกว่าการฉีดวัคซีนเชื้อตายเป็นเข็มกระตุ้นอยู่มาก
นโยบายซีโร่โควิดของจีนนั้นมีต้นทุนที่สูงขึ้นทุกวัน และกระทบกับเศรษฐกิจมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ถึงจุดหนึ่งคงต้องยอมรับความจริงว่า เราไม่สามารถกำจัดไวรัสโควิดให้หายไปจากโลกได้อีก
สุดท้ายจีนก็ต้องปรับตัวมาอยู่กับไวรัสเช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ แต่ทางลงของจีนจะเป็นแนวไหน อย่างไร ที่จะทำให้ความสูญเสียในช่วงผ่อนคลายและเกิดระบาดใหญ่น้อยที่สุด และส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางสังคมน้อยที่สุด
คงต้องรอติดตามจริงๆ ว่า วัคซีนใหม่จะเป็นทางออกของจีนได้ไหม…
- 54
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
